เรื่องเล่านี้ผมได้ฟังจากท่าน ศ.ดร. ปรัชญา เวสารัชช์ โดยตรง...กล่าวโดยสรูปคือว่า...ขณะที่คนป่วยนอนอยู่ รพ. นั้น...เห็นวิญญาณมาปรากฏเป็นเด็กหญิงมาพบ...ญาติคนไข้ 2 คน ที่นั่งอยู่ในห้องนั้นมองไม่เห็นใคร...คนป่วยเลยให้จดบันทึกในการสื่อสาร...เด็กหญิงขออนุญาตนำเพื่อนมาพบ...เขาชื่อ พิมพวดี
อดีตเคยเป็นลูกของคุณพ่อ...คนที่นอนป่วย...ที่พ่อป่วยนี้...เป็นเพราะพ่อเคยเป็นเจ้าหน้าที่ทรมานนักโทษมาก่อน...และเล่าว่า...พ่อปัจจุบัน...เมื่อหนูตายไปได้สร้างศาลาไว้ที่วัดมกุฏฯ กทม. มีรูปหนูติดอยู่ด้วยในศาลานั้น...บัดนี้...คนงานทำความสะอาดทำโคมไฟแตก...ขอความกรุณาช่วยไปบอกพ่อปัจจุบัน...ไปซ่อมให้ด้วย...บอกที่อยู่ที่จะไปพบบ้านพ่อในปัจจุบันได้...
แล้วเด็กหญิงพิมพวดีก็ลาจากไป...การพิสูจน์เป็นจริง...มีสถานที่จริง...และพิสูจน์ได้ครับ...นี้คือความมีอยู่ของวิญญาณ...ทำให้ผมเล่าต่อว่า...ช่วงที่ผมเตรียมสอบปากเปล่า...เพื่อจบ ป. เอก ในประเทศอินเดีย...คืนหนึ่งในเดือน ก.ย. 2537 ผมฝันว่า...
คุณพ่อผมมาพบมองผมแล้วเดินจากไป...หลังจากนั้น...ต้นเดือน ม.ค.ปี 2538 ผมกลับเมืองไทยแล้วจึงรู้ว่าคุณพ่อจากไปช่วงวันเวลาที่ไปเข้าฝันผมนั้นเอง...
แต่บรรดาญาติปิดข่าวรอให้ผมจบ ป.เอก แล้วจึงจะแจ้งให้ทราบนี้คือการสัมผัสเรื่อง วิญญาณของผมครับ...คุณเคยสัมผัสกับเรื่องวิญญาณบ้างมั๊ยครับ...
โปรดติดตามตอนต่อไป
ด้วยความปรารถนาดี
จาก...umi
สวัสดีครับ คุณขจิต ฝอยทอง
เรื่องวิญญาณนี้...เป็นพลังงาน...กระแสคลื่น...เหมือนเงา...ผมเคยสนทนาเรื่องนี้...กับหลายท่าน...เช่น
รศ. ดร.บุญย์ นิลเกษ จาก...ม.เชียงใหม่...ท่านเคยเขียนผลงานชื่อ ประจักษ์พยานตายแล้วเกิดใหม่ ครับ
ดีแล้วครับ...ทำบุญให้เขา...และทางใต้ช่วงนี้...เป็นงานทำบุญสารทเดือน 10 ครับ...
ขอบคุณครับ
ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ
จาก...umi
เมื่อวานนี้...พี่ชาย...ผศ.ดร.ไพฑูรย์...โทรมาจาก กทม.
ว่าฝันเห็นคุณพ่อบวชพระ...เป็นนิมิตอะไร...สื่ออะไร...
เราคุยกันหลายเรื่องท้ายสุดผมแนะให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้...ครับ.