การสัมภาษเชิงลึกเป็นกิจกรรมหนึ่ง( การบ้าน) ที่ได้รับมอบหมายในการทดลองการเก็บข้อมูลเพื่อค้นหาความชัดเจนของโจทย์วิจัยเพื่อตอบคำถามว่าปัญหาและข้อติดขัดที่แท้จริงที่เกิดกับชาวบ้านจากนโยบายของภาครัฐที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในรูปของโครงการต่างๆ
วันนี้เป็นเรื่องนโยบายเกี่ยวกับโครงการโคล้านตัวที่ต่อเนื่องมาจากโคอีสานเขียวจากการให้ข้อมูลของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพบว่า
ในประเด็นเชิงบวก
1.เกษตรกรได้เรียนรุ้ว่าการเลี้ยงวัวมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์วัวและวัตถุประสงค์
2.ได้ทราบว่าอาหารวัวไม่ใช่หญ้าอย่างเดียว ยังมีอาหารข้น อาหารเสริมซึ่งตอนนั้นไม่มีความรู้เลย
3.ได้เรียนรู้ในการที่จะตัดสินใจเข้าราวมกับโครงการของรัฐ ว่าจะต้องเตรียมตัวเองอย่างไร
4.ได้เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข และเห็นใจซึ่งกันและกัน
ประเด็นเชิงลบ
1.มีความรู้สึกไม่ดีและไม่เชื่อในโครงการที่รัฐจะเข้ามาช่วยเหลือ
2.ติดหนี้สินและล้มเหลว เพราะรู้ไม่เท่าทันและมัดมือชกทำสัญญา
3.รัฐไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่พูดไว้กับเกษตรกร
4.เกษตรกรที่ผ่านโครงการมีความกลัวและเป็นตราบาปไม่เข้าไปใกล้และเกี่ยวข้องกับเรื่องวัวๆ อีก
จากการรับฟังเกษตรกรพยายามสื่อถึงความรู้สึกที่มีต่อโครงการของรัฐ ดูเหมือนว่าเกษตรกรที่ตั้งใจจริง ลงทุน ลงแรงและเต็มที่กับอาชีพการเลี้ยงวัว จะไม่สนใจกับฌครงการที่รัฐจะมาช่วยเหลือ( โคล้านตัว) เลย โดยบอกว่าไม่มีประโยชน์และไม่สามารถช่วยเขาได้ ตัวเขาเองและการรวมตัวของชาวเกษตรกรเองน่าจะมีพลังมากกว่า
ท่าทีของชาวบ้านเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่ทำตามเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยละม่อม ให้ทำอะไรก็ทำ โดยเชื่อความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่หลังจากได้ประสบการณ์ของรัฐที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านมีมุมมองมากขึ้น ระมัดระวังตัวมากขึ้นที่จะเข้าร่วมกับโครงการของรัฐ
จน ณ ปัจจุบันนี้ ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ปฏิเสธการเข้าร่วมโคล้านตัวแล้ว โดยให้เหตุผลว่า"เสียเปรียบรัฐบาล" เป็นความกล้าที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านตัวจริงเสียงจริงแล้ว
ขอมองต่างมุมกับคุณชายขอบเพื่อให้ได้อรรถรสทางความคิดนะครับ ไม่มีอะไรมาก
ทำไมเรามองรัฐเป็นผู้ร้ายตลอดเวลา มองเป็นตัวละครธรรมดาตัวหนึ่งได้ไหม เราจะได้เข้าใจระบบอย่างไม่มีอคติ เพราะพวกเราหลายๆคนก็เป็นส่วนหนึ่งของรัฐ หรือมีคนรู้จักหรือญาติพี่น้องที่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐ เราเคยมองคนเหล่านั้นเป็นผู้ร้ายหรือเปล่า ส่วนใหญ่เราก็มองเขาอย่างเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนทำงานอย่างดีที่สุดเท่าที่กำลังความสามรถจะพอมี ผมมีอายุมาถึงกว่าครึ่งศตวรรษนี้ ผมได้รับข้อสรุปอันหนึ่งว่า "ไม่มีใครเลยที่ตั้งใจจะเป็นคนเลว" ส่วนใหญ่ก็พยายามทำดีที่สุด แต่ด้วยสถานการณ์บีบบังคับ (โดยรวม และจากใครก็ไม่รู้ และจากความรู้ไม่พอใช้) ทำให้ต้องทำในสิ่งที่บางคนบอกว่าเลว และก็ถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย เราอยู่ในสังคมพุทธ ใช้หลักบัวสี่เหล่ามองคนน่าจะดีนะครับ อย่าไปมองว่าเขาเป็นดอกอุตตพิษเลย ยังไงเราก็หนีกันไม่พ้นอยู่ดี
ค้วยความเคารพในความคิดของท่านครับ