มีคนเอาบทความเราไปพิมพ์เผยแพร่...เพิ่งรู้...แปลก


วันนี้คุณหมอที่ รพ. เอาภาพ มาให้ดูบอกรุ่นน้องถ่ายมาจากหนังสืออะไรไม่ทราบเหมือนกัน  ส่งมาให้คุณหมอเพราะเห็นว่ามีรูปคุณหมอด้วย  ก็เลยเอามาให้ชลัญดูต่อ  เพราะรูปมันคุ้นๆ  พอชลัญเห็นก็บอกว่า 

    "อ้าวจะไม่คุ้นได้ไง นี่มันเป็นรูป ที่เจ้ถ่ายกะมือ แล้วเขียนบทความลงเผยแพร่ใน GTK  อ้าวมีคนเอาไปพิมพ์เผยแพร่ต่อ  ดีจังเลยเนาะ เจ้าของบทความเพิ่งรู้ ก็เลยขอบคุณออกอากาศหน่อยอ่ะ  ขอบคุณนะ  จริงๆน่าจะส่งหนังสือมาให้สักเล่มนะ ว่ามั๊ย"  

Link ข้างล่างนี่เป็นบทความที่ชลัญเขียนไว้

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/484699

เกือบเหมือนกันเด่ะ  

              ขอบคุณนะคะที่เอาไปเผยแพร่ต่อ  ถ้าอยากได้กิจกรรมอื่นอีกก็ mail  มาบอกได้ ยินดีรับใช้  

 

ชลัญธร  ตรียมณีรัตน์

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ขอบคุณ
หมายเลขบันทึก: 492769เขียนเมื่อ 28 มิถุนายน 2012 17:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2014 07:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ว้า.... คนเอาไปเผยแพร่น่าจะให้เครดิตหน่อยนะครับ -_-

เฮ้อ.... เหตุการณ์ที่เริ่มเป็นปกติใน GotoKnow แล้วครับ แม้ค่ายหนังสือรายใหญ่ยังมา "shopping" เนื้อหาและรูปจาก GotoKnow บ่อยๆ ครับ

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ติดต่อผู้เขียนก่อนเอาเนื้อหาไปตีพิมพ์ต่อ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ เขากลัวอะไร? เขาคิดอย่างไร?

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อ. ธวัช เขาเอาไปต่อยอดในสิ่งที่ดี ไม่ได้เสียหาย เพียงรู้สึกแปลก เป็นหนังสือของแพทย์ แท้ๆ เราก็เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ แหม! นี่ถ้า mail มาขอนะมีรูปภาพให้มากกว่านี้อีก แถม วีดีโอด้วยเอ้าชลัญทำไว้เพียบ

  • ดูภาพจำได้เลยค่ะ ว่า เป็นบันทึกแรกของคุณชลัญธรที่อ.วิเข้าไปอ่าน ตรวจสอบดูอีกทีคลิก Link ที่ให้มาก็ใช่จริงๆ ค่ะ
  • ที่อ.วิเจอนะคะ เช่น มีครูนำข้อสังเคราะห์งานวิจัยที่อ.วิสังเคราะห์ไว้ 12 หน้า ไปใส่ในผลงานทางวิชาการของตน โดยยกไปทุกตัวอักษรทั้ง 12 หน้าราวกับตนเองเป็นผู้สังเคราะห์ และไม่อ้างอิงอ.วิเลย ที่รู้เพราะอ.วิเป็นผู้ตรวจผลงานเล่มนั้น แต่ที่ขัดใจมากกว่าถูกขโมยผลงานก็คือ รู้ว่าครูให้สามีเป็นคนทำผลงานให้ 

 

คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วค่ะน้องชลัญ

แต่คนสาธารณสุข ไม่น่าทำแบบนี้นะคะ..

จะเอาไปเผยแพร่ ก็ควรบอกต่อกันซะหน่อย.. เดี๋ยวนี้.. อะไร อะไร มักเกิดขึ้นได้เสมอ (ไม่ตรงไปตรงมาเหมือนเก่าก่อนแล้วหละ)

 

แสดงว่าเป็นบทความที่ดีมากๆ ค่ะคุณชลัญ ปรบมือให้ค่ะ :)

จริงๆ แล้วผมคิดว่าผู้เขียนบันทึกทุกท่านก็ยินดีให้เผยแพร่งานเขียนต่อเป็นวิทยาทาน เพียงแต่ควรจะให้เครดิตเพื่อให้เกียรติคนเขียนครับ

ผมกลั้นใจมองอีกมุมหนึ่งว่าผู้ที่เอาไปอาจจะนึกไม่ออกว่าจะติดต่อผู้เขียนได้อย่างไร (ทั้งๆ ที่มีรูปและมีปุ่มอีเมลอยู่ใต้รูป)  ถ้าจะทำเป็นลิงก์ไว้ในหน้าบันทึกเขียนว่า "คลิกตรงนี้หากต้องการเผยแพร่ผลงานนี้ต่อ" (ค่อยเกลาคำพูดอีกที) ที่กดแล้วจะเปิดเป็นฟอร์มให้กรอกเพื่อส่งถึงผู้เขียนได้ง่ายๆ เลยว่าจะเอาไปพิมพ์ที่ไหนหรือจะไปเผยแพร่ที่ไหนอย่างไรบางทีน่าจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้างครับ

ขอบคุณค่ะ อ.ธวัชที่พยายามคิดแก้ปัญหา จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหรอกสำหรับชลัญ อยากให้มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางอยู่แล้ว เพราะเราบันทึกลง internet นี่แสดงว่าเราต้องการเผยแพร่ ของชลัญน่ะเป็นบทความพื้นๆ แต่บางคนที่เขาเขียนออกมาจากความรู้ที่เขาได้กลั่นกรองวิเคราะห์ แล้วนี่ควรให้เกียรติเขาซะหน่อย ถือเป็น วิทยาทาน เหมือน อย่าง อ.ธวัชว่า

          จริงๆ แล้วผมคิดว่าผู้เขียนบันทึกทุกท่านก็ยินดีให้เผยแพร่งานเขียนต่อเป็นวิทยาทาน เพียงแต่ควรจะให้เครดิตเพื่อให้เกียรติคนเขียนครับ  

     อยากให้คนไทยมีวัฒนธรรมที่ดี  ในการให้เกียรติกันน่ะ  ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ไม่ต้องคิดอะไรล่ะ รอลอกอย่างเดียว  แค่บทความน่ะจิ๊บๆ  วิจัยเป็นเล่มๆ   ทำกะมือ  ชลัญยังยกให้คนอื่นแบบฟรีๆ มาแล้ว  โดยไม่มีชื่อชลัญเลย  ขอเพียงกล้าขอ  ก็กล้าให้ค่ะ

น้องชลัญคิดแบบนี้ก็ได้ค่ะ

แต่พี่ว่า การนำไปเผยแพร่ต่อ ควรขอเราก่อน และอ้างอิงด้วย จึงจะป็นมารยาทที่ดี

ถ้าเขานำไปเป็นผลงานทางวิชาการ จะถูก reject ผลงานเลยนะนี่ 

 

  อยากให้คนไทยมีวัฒนธรรมที่ดี  ในการให้เกียรติกันน่ะ  ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ไม่ต้องคิดอะไรล่ะ รอลอกอย่างเดียว

ถึงแม้ว่าเราจะพูดกันถึงเรื่องการแบ่งปันและช่วยเผยแพร่อะไรทำนองนี้ แต่การคัดลอกใช่เรื่องที่ถูกต้อง พี่ไม่เห็นด้วยจริงๆกับการที่ใครต่อใครจะลอกไปเผยแพร่โดยไม่บอกกล่าวเจ้าของเช่นนี้ ...

เห็นด้วยกับพี่แก้วค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ นางฟ้าของพี่... จุ๊บ ๆ 

 

สวัสดีครับคุณชลัญ

ผมคิดว่านี้เป็นเรื่องจรรยาบรรณของวิชาชีพนะครับ ปัญหาที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้คือ ผมต้องตัดสินใจว่าจะปล่อยเรื่องที่ไม่ถูกต้องให้ผ่านไป กับรักษาสิทธิ์ที่ถูกต้องของตน เพื่อรักษาคุณธรรมและเป็นแบบอย่างให้คนอื่นเห็นว่าคนทำงานไม่ใช่เพื่อรอการถูกเอาเปรียบกันง่ายๆ

ผลงานที่เราทำขึ้นมาถูกเผยแพร่เป็นเรื่องที่ดีแต่เป็นคนละเรื่องกับการไม่เคารพสิทธ์ของตนอื่น ไม่คำนึงถึงศีลธรรมและจรรยาวิชาชีพ (ไม่อยากใช้คำที่ไม่สุภาพ ณ ที่นี้ แต่...) ในที่สุดผมเลือกที่จะหยุดความไม่ถูกต้อง อย่างน้อยก็เป็นการเตือนอย่างดังๆว่า อย่าไปทำกับผู้อื่นอีก

เรื่องนี้ทำให้ผมคิดหนักมากขึ้นถึง บันทีกจากใจที่ผมหรือหลายๆคนภูมิใจถูกละเมิดจะเป็นอย่างไร???

ชลัญธรดังแล้วแหละ ถ่ายรูปก็เก่ง 55555

อาจารย์Blankจริงๆ น่ะชลัญประชดน่ะ  ไม่ค่อยชอบใจหรอก  อยากให้คนที่ทำกลับมาอ่านแล้วสำนึกขึ้นมาบ้างน่ะ  ว่าจะทำอะไรถึงแม้เป็นเรื่องสาธารณะก็ควรมีมารยาทบ้าง   ที่ อาจารย์ พูดมาทั้งหมด  น่ะถูกต้องทุอย่างเข้าประเด็นชลัญเป๊ะ เลย

เข้าเป้า ๆๆๆ ที่เคยพูดว่าอย่ากให้มีคนเอาอะไรดี ๆ จาก โกทูโนไปใช้ ขยายผลต่อ ที่ไม่ขออนุญาต อาจเป็นไปได้ว่าไม่รู้มรรยาททางสังคม หรือ รู้
แต่คิดไม่ถึงว่าแม่ไจ่ไจ๋ 555 จะไปพบเข้า 555

เอาเป็นว่างานนี้แม้ จะไม่ถูกใจกันบ้าง ก็นึกเสียว่า นี่คือสังคมไทย ที่ค่อย ๆ พัฒนาไป ๆ อย่างไรก็ดี ก็อปไปตีพิมพ์ 1 ที ก็จะเสริมกรณี อ่าน 1000 ครั้ง ใน โกทูโน 500 ในกลุ่มเป้าหมาย ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไว้ได้อีกหลาย ๆ ปี ยอดออ่านอาจเพิ่มอีก 500

งานนี้มีแต่กำไร ได้บุญเน้อ กทน.ชลัญธร ภูมิใจด้วยจริงๆ

ไม่ติดใจอะไรหรอกปู่ชัด แต่อยากให้เป็นกรณีศึกษา ให้เรียนรู้มารยาททางสังคม บ้าง ยิ่งมีคนสนใจไปเผยแพร่น่ะชลัญยิ่งชอบ แต่ อย่างที่บอก จะกลายเป็นนิสัยไม่ดีไป การกล่าวคำ ขอโทษ ขอบคุณ ขออนุญาต ขอความอนุเคราะห์ มันจะหายไปจากสังคมไทยซะกระมัง

ผมเคยเจอเขียนคำขวัญ จัดป้ายนิเทศ และทำป้าย ให้เด็กเดินรณรงค์ เมื่อปี ๓๓ หรือ ๓๔ จำไม่ได้ เดินที่ตลาดดอนเมือง รุ่งขึ้นไปเรียนที่ มศว. ที่ศูนย์การค้าที่มีชื่อย่าน อโศก ขึ้น คัดเอ้า ตัววิ่ง ....เอ๊ะ คุ้น ๆ ...จะไม่คุ้นได้ไงครับ คำเดียวกันเป๊ะ รวดเร็วจริง ๆ ไม่อยากนำคำขวัญมา ลงเพราะ มันผ่านมาแล้ว และเราก็ให้เด็กเผยแพร่ แต่น่าแปลกทำไม ความคิดตรงกัน ขนาดนั้น

คุณชลัญ จากข่าวทาง TV ข่าวเช้า, internet ก่อนหน้านี้
อาจารย์เนาวรัตน์กล่าวว่า “เรื่องการโกงเป็นเรื่องสำคัญของชาติที่เกิดขึ้นแล้วจะทำให้ชาติเราผิดเพี้ยน มันน่ากลัวเพราะมีการสำรวจคน 60 เปอร์เซ็นต์เห็นการโกงเป็นเรื่องปกติ คนไทยไม่ควรนิ่งเฉยเราต้องช่วยกันปลูกจิตสำนึกด้วยการปลูกจิตสำนึกที่ถูกต้องของเยาวชน ปลุกจิตสำนึกของคนที่เข้าใจแล้วอย่าเมินเฉยต่อเรื่องนี้” http://www.dailynews.co.th/entertainment/121326

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่สามารถเพิกเฉยต่อเรื่องที่ขัดต่อ “ความเป็นธรรม” ต่อ “จริยธรรมอันดี” ซึ่งอาจมีอีกหลายคนกำลังมองเรื่องนี้ว่าเป็นตัวแทนของเขา (ผมจะสอนลูกศิษย์อย่างไรถ้าตัวเองยังไม่สนใจใน “ความเป็นธรรม”) ส่วนการมองในประเด็นที่ว่าต่างคนต่างได้ประโยชน์ (เหมือนทำผิดได้ เพียงแต่ขอให้เป็นประโยชน์มากขึ้นต่อส่วนรวม) ผมตั้งคำถามว่าเจ้าของผลงานจะคิดอย่างไร? แล้วคนที่ละเมิดผลงานคนอื่นอยู่เขาจะภูมิใจหรือไม่? ผมมองอยู่ 2 ประเด็น 1) ผู้เสียหาย (อย่างน้อยเสียความรู้สึก) 2) องค์กร (สังคม G2K นี้) ป้องกัน ป้องปราม อย่างไร?

ยกตัวอย่าง กรณีเรียกร้องความเป็นธรรมของผม 1. ผมแจ้งเจ้าตัวให้ทราบ เพราะอาจเป็นไปได้ที่เจ้าตัวไม่ทราบเรื่องมาก่อน เจ้าตัวนั้น.. ก็จะให้เหตุผลต่างๆ ยกออกมา ขอโทษกันมากมาย ผมใช้เวลาไม่นาน 2-3 เดือน พิสูจน์ว่าเขาขอโทษแล้วทำอย่างไรต่อ 2. ถ้าเขาแสดงความจริงใจ ผมว่ามันก็จบได้ เราก็ได้ทำหน้าที่เราแล้ว เขาก็ปรับตัวแก้ไขแล้ว ก็ให้อภัยได้ (note ไว้ เป็นครั้งที่1) 3. ถ้าเจ้าตัวพูดดี ไพเราะลื่นหูแต่ไม่ทำอะไรเป็นรูปธรรม ผมก็ต้องเตือนเป็นครั้งที่ 2 4. ถ้าเป็นอีกครั้งที่ผม ก็ขอให้ “หน่วยงาน หรือ องค์กร” ต่างๆช่วย 5. ผมคงไปหยุดที่ ความยุติธรรมเกิดขึ้นหรือยัง ถึงขั้นนี้แล้วคงไม่ได้หวังถึงว่าเราจะไปเปลี่ยนแปลงนิสัยใครได้ แต่เป็นการแสดงให้ทุกคนเห็นว่า เราได้ทำหน้าที่ ป้องกัน ป้องปราม ของเราแล้ว 6. สุดท้ายก็ต้องใช้คำว่า ....กรรมเป็นแดนเกิด, กรรมเป็นผู้ให้ผล, กรรมเป็นผู้ติดตาม......... เราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆสืบไป........สาธุ :) คำสอนของหลวงปู่ในระยะหลังที่บ่นสอนญาติโยมว่า “พุทธศาสนามันหมดแล้ว ไม่รู้ตัวอีกหรือ? คนเดี๋ยวนี้มันไม่สนใจในธรรมะแล้ว” ผมฟังแล้ว....หนักใจแทนครูบาอาจารย์จริงๆ

ขอบคุณค่ะBlank ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกรอบ  จริงๆ เรื่องนี้คุณหมอที่เอาภาพมาให้ดูก็ร้อนใจไม่น้อย  กำลังตรวจสอบว่ามาจากหนังสืออะไรใครเอาไปลง  ท่านกลัวเราเสียความรู้สึก  แต่เราก็เกรงใจท่านเพราะ คงจะเป็นสายงานของท่านเองก็บอกท่านไปแบบเกรงใจน่ะ  ท่านก็เข้าใจนะถึงมารยาท ทางสังคม  แต่ที่สำคัญคือยังสืบไม่ได้ว่ามาจากหนังสืออะไรน่ะ

นานๆ เข้ามาดูที... ดีใจกับน้องสาวคนเก่ง อย่าไปซีเรียดเลยกับเรื่องแบบนี้ เพราะทุกวันนี้เราก็ทำผลงานให้คนอื่นๆ อยู่แล้ว เก็บไว้แต่เพียงความภาคภูมิใจเล็กๆ ก็พอ ที่คนอื่นเอาผลงานเราไปใช้แสดงว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องมีคุณค่า

ขอบคุณคร้าบคุณพี่ชาย เพิ่งรู้นะนี่ว่าแอบมาอยู GTK ด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท