ขยายเครือข่าย ... ร่วมด้วยช่วยกัน ให้ สว. ฟันดี ภาคอีสาน (2) ผู้สูงอายุไทย สูงค่า สูงประสบการณ์


 

ท่านรองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์สมศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ มาคุยกับผู้สูงอายุในวันนี้ค่ะ

 

ชมรมผู้สูงอายุของประเทศไทยตั้งมานานแล้ว มากกว่า 20 ปี และการที่ประเทศไทยกำลังจะเป็นสังคมผู้สูงอายุ คือ ตอนนี้มีผู้สูงอายุถึงร้อยละ 11.5 หรือประมาณ 7 ล้านคน และคาดการณ์ว่า อีก 20 ปี จะมีผู้สูงอายุถึงร้อยละ 25 ของ 65 ล้านคน ประมาณ 16-17 ล้านคน ซึ่งไม่นาน และเมืองไทยใช้เวลาสั้นมากในการเป็นสังคมผู้สูงอายุ การเตรียมการต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเตรียมการล่วงหน้า ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ สวัสดิการ และการบริการต่างๆ

ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ เพราะว่า เดี๋ยวนี้ คนไทยเกิดน้อย อายุยืน เกิดน้อย เพราะว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เรามีโครงการวางแผนครอบครัว ทำให้มีลูกกันน้อยๆ รุ่นหลังๆ แต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก ... อายุยืน เพราะว่า การแพทย์ดี การรักษาฟรี เครื่องมือทางการแพทย์ดีขึ้น เรามีหมอไปทุกอำเภอ ทุกตำบล เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยจึงไปหาหมอได้ง่ายขึ้น ... ถ้าไม่เจ็บป่วยได้เลยก็จะยิ่งดี

ในชมรมผู้สูงอายุ เชื่อว่า เป็นผู้สูงอายุที่มีทั้งจิตใจที่ดีงาม จิตอาสา สุขภาพจิตดี เพราะเราได้รวมกลุ่ม พูดคุยกับคนวัยเดียวกัน ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง และอายุยืน

มีการสำรวจพบว่า จริงๆ แล้ว ผส. ประมาณมากว่าครึ่งหนึ่ง ร้อยละ 57 มีการเตรียมตัวก่อนสูงอายุ เตรียมตัวเรื่องสุขภาพกาย กินอาหารดีมีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไปวัด ฟังธรรม ฟังเทศน์ ทำบุญทำทาน หรือศึกษาธรรมะ ที่อยู่อาศัยดี มีการเตรียมพร้อม และอีกอันหนึ่ง คือ มีการออมเงิน มีหลักประกันทางการเงิน และมีหลายที่ที่ชมรมผู้สูงอายุ ทำกองทุนสัจจะ สหกรณ์ออมทรัพย์ อยู่ในหมู่บ้าน หรือกองทุนผู้สูงอายุ ที่มีกันแล้ว เป็นเรื่องที่ดี

เราจึงมีครึ่งหนึ่งที่เตรียมการ อีกครึ่งหนึ่งไม่ได้เตรียมการ เช่น ผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่คนเดียว สองคนตายาย ลูกหลานไปทำงาน ชมรมผู้สูงอายุต้องไปอุปถัมภ์

ชมรมผู้สูงอายุ นอกจากจะช่วยเหลือกันเองแล้ว ก็สามารถช่วยเหลือสังคมได้ด้วย หลายจังหวัดทำ ศูนย์สามวัยสายใยรัก มีคนสามวัยอยู่ด้วยกัน ต้งแต่ ผู้สูงอายุ วัยทำงาน และเด็ก

ผู้สูงอายุสามารถใช้ความรู้ ความสามารถ ศักยภาพ ไปช่วยพัฒนาเด็กในชุมชน เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เดินไปในทางที่ผิดได้

ในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ... เมืองไทยมีผู้สูงอายุมากกว่า 100 ปี 13,692 คน มีมากที่สุดอยู่ที่ กทม. นครศรีธรรมราช ยะลา และสมุทรปราการ แต่ถ้าดูตามสัดส่วน ของผู้สูงอายุที่มากกว่า จะอยู่ที่ ยะลา พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี

และสภาพของผู้สูงอายุที่ประเทศไทย ส่วนใหญ่การศึกษาน้อย จบประถมศึกษามากกว่า ส่วนน้อยเป็นข้าราชการบำนาญ มีจิตอาสา หรือมีความรู้ และ 1 ใน 4 ของผู้สูงอายุ ไม่รู้หนังสือเลย ผู้สูงอายุผู้หญิง เป็นหม้ายมากกว่า ผู้สูงอายุผู้ชาย เพราะ ผู้ชายตายเร็วกว่า ครึ่งหนึ่งของผู้สูงอายุมีลูกเลี้ยงดู นอกนั้น ผู้สูงอายุต้องดูแลตนเอง

ผู้สูงอายุ 1 ใน 5 คน มีรายได้ไม่พอเพียง และ 1 ใน 3 คน รายได้ต่ำว่าเดือนละ 20,000 มีร้อยละ 15 มีรายได้มากกว่าเดือนละแสน ผู้สูงอายุร้อยละ 15 เป็นข้าราชการบำนาญ พ่อค้า ค้าขายในชุมชน การเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ หลอดเลือด แต่ที่น่าสนใจ คือ ผู้สูงอายุหกล้มมาก เพราะการทรงตัวไม่ดี ไม่แข็งแรง ห้องน้ำลื่น โถส้วมไม่สะดวก

ธรรมชาติของผู้สูงอายุมีการเสื่อมไปตามวัย เป็นโรคสมองเสื่อมกันมากขึ้น ซึ่งต้องแก้ไขให้ได้ ด้วยการมีกิจกรรม เล่นหมากรุก คิดเลขบ่อยๆ

การมาเข้าชมรมผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อยู่ทน  มากกว่าทนอยู่ เราแบ่งผู้สูงอายุเป็น 3 กลุ่ม

  • กลุ่มที่หนึ่ง ช่วยตนเองได้ คือ กลุ่มเราที่ทำกิจกรรมได้ มีร้อยละ 78 หรือประมาณร้อยละ 80 ก็ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ต้องส่งเสริมสุขภาพ  ไปตรวจร่างกายประจำปีทุกปี ผู้สูงอายุต้องมีการตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กลุ่มนี้ ดูแลกันเอง ดูแลตัวเราเอง และไปช่วยคนอื่นๆ ด้วย ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มที่สอง
  • ฃกลุ่มที่สอง ช่วยตนเองได้บ้าง เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต แขนขาอ่อนแรงบ้างเล็กน้อย หูตึง ตามัว หรือถึงขั้นตาบอด กลุ่มนี้ต้องการการดูแล เช่น มีศูนย์ดูแลกลางวัน หรือวัดส่งเสริมสุขภาพ เป็นที่ให้ผู้สูงอายุไปฟื้นฟูสภาพร่างกาย
  • กลุ่มที่สาม พึ่งตัวเองไม่ได้เลย มี 2% นอนติดเตียง เพราะเป็นโรคเรื้อรัง

ผู้สูงอายุดูแลตนเองได้ โดย กินผักกินปลา อย่าไปกินอาหารดิบ 3 อ 2 ส ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ งดสูบ บุหรี่ งดสุรา เท่านี้ก็จะมีอายุยืน

กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในการที่จะดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เรื่องฟันเทียม ถ้าไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย มีฟันเทียม โรคเหงือก โรคปริทันต์ การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน จะช่วยให้เราไม่เจ็บไม่ป่วย เพราะช่องปากเป็นช่องทางของเชื้อโรค

ผมได้มาจากพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อปี 2549 พระองค์ท่านตรัสไว้ว่า

“... ความแก่นี้ เป็นกำลัง ถ้าอายุมากขึ้น มันก็เป็นประโยชน์ ได้เปรียบ เรียกว่า มีประสบการณ์ คนที่อายุมาก ถ้ารักษาความดี รักษาคุณสมบัติ คุณธรรม ก็จะได้เปรียบ คนที่อายุน้อย ... และในประเทศชาติ ถ้ามีคนที่มีอายุมาก และได้เปรียบ ชาติบ้านเมืองก็จะก้าวหน้าได้ ...”

ท่านได้ตรัสไว้ว่า พวกเราเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ก็ต้องรักษาความดี รักษาคุณสมบัติ รักษาคุณธรรม ก็จะได้เปรียบกว่าผู้มีอายุน้อย ถ้ามีผู้สูงอายุที่รักษาความดี รักษาสุขภาพ รักษาคุณธรรมไว้ มากๆ ประเทศชาติ ก็จะเจริญก้าวหน้า ก็ฝากความหวังไว้กับพวกเราชมรมผู้สูงอายุทุกๆ คนรวมทั้ง ทันตาภิบาล ทันตบุคลากร ที่ได้พาผู้สูงอายุตรงนี้ มา จะได้เรียนรู้ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถจากผู้สูงอายุที่มารวมตัวกัน ณ ที่นี้ ที่จะได้ทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า พัฒนาภูมิปัญญา และเจริญกันทุกๆ คน

รวมเรื่อง ขยายเครือข่าย ... ร่วมด้วยช่วยกัน ให้ สว. ฟันดี

 

หมายเลขบันทึก: 492117เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สว.ฟันดี พัทลุงจัดมหกรรม สว.วันดี ในวันที่ 17 สค. มาให้กำลังใจสว.กันครับ

  • Blank
  • ล่าสุด ที่จัดประชุม สว. ภาคใต้ ที่เมืองตรัง
  • ท่านทั้งหลายบอกว่า อยากไปแลกเปลี่ยนกับภาคเหนือบ้าง
  • อนาคต ถ้ามีโอกาส คงจะได้จัดแลกเปลี่ยนข้ามภาคกันมั่งนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท