หมออยากรู้(กับเขาบ้าง)


หลังจากถูกตัดขาดจาก internet ไปสองวัน สามคืน
ข้าพเจ้ากลับมาอยู่เวรตรวจผู้ป่วยที่
ศูนย์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน :TTCM (แผนที่)
ซึ่งยังไม่มี internet เช่นกัน
ตกเย็น จึงกระโจนใส่คอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกนี้
...

เหตุเกิด ณ TTCM


ภาพ : เมื่อครั้งนักศึกษาญี่ปุ่นมาดูงาน

.
ระบบของที่นี่ ซึ่งจะให้แพทย์แผนสามัญ พบผู้ป่วยใหม่ก่อนทุกราย
เพื่อช่วยคัดกรองภาวะที่เป็นข้อห้าม หรือต้องรักษาด้วยแผนสามัญก่อน
.
ในนั้นเขียนอาการนำว่า "อัมพฤกษ์มา 3 เดือน"

สักครู่  ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานท่านหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องตรวจ
ข้าพเจ้าชะงัก คิดว่าเป็นญาติผู้ป่วย จึงถามว่า ผู้ป่วยอยู่ไหน
เพราะในจินตนาการ
"อัมพฤกษ์-Paresis หรือ อัมพาต-Paralysis "
ที่หลังเกิดภาวะหลอดเลือดสมอง 3 เดือน 
ผู้ป่วยควรอยู่บนล้อเข็น หรือ มีไม้ช่วยพยุง

"ผมนี้แหละครับ"..."ทำไมหรือครับ"

"แต่ดูไม่เห็นมีอ่อนแรงเลยนี่ค่ะ"

"อ๋อ มีนี่ครับ" ผู้ป่วยกำมือ แล้วกางมือ ปรากฎว่า นิ้วชี้กางได้ไม่สุดนิดหนึ่ง
"แต่ตอนหลังเกิดเหตุ (หลอดเลือดสมองตัน) มันอ่อนไปทั้งซีก ยกไม่ขึ้นเลย"

ข้าพเจ้าชักสนใจ เหตุใดร่างกายจึงฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้
"เดี๋ยวให้ผู้กำกับ (ภรรยา) มาบอกด้วย" ผู้ป่วยพูดอย่างอารมณ์ดี
ก็ได้ความว่า 
หลังจากอ่อนแรงครึ่งซีก ผู้ป่วยก็เสาะแสวงหาสารพัดวิธี
มาเสริมกับการรักษาแผนสามัญ
ทั้งแผนจีน แผนไทย ธรรมชาติบำบัด
บางวิธี ลองแล้วทรุดกว่าเดิม ก็ถือว่าเรียนรู้ไป
บางวิธี ลองแล้วรู้สึกดี ก็ทำต่อเนื่อง

"ผมฝังเข็มมาหลายที่ หลายหนจนผิวเป็นไต
แต่ก็รู้สึกดีขึ้น..จนจะจำจุดฝังได้หมดแล้ว"

"แล้วผมยังได้สูตรมาจากลูก ชื่อว่า Garlic juice
ผ่านคนรู้จักในต่างประเทศอีกที
ส่วนผสมที่เห็นในภาพ
ผมกับภรรยา ก็ไปตามหาเอาแบบนั้นเป๊ะๆ
มาลองทำกินเองดู
ชอบครับ เพราะรสชาดดีด้วย
กินครั้งละช้อนชา ก่อนอาหารเช้า
อยากกินเองเลย แบบไม่ต้องจำแบบยาฝรั่ง
ตอนแรกก็กลัวๆ ว่ามีส่วนผสมน้ำผึ้ง จะทำให้เบาหวาน น้ำตาลขึ้น
แต่ตรวจแล้วก็ไม่เป็นไร"
เมื่อเห็นข้าพเจ้าฟังตาแป๋ว
ผู้ป่วยจึงบอก
"ผมจะส่งสูตรให้ทางอีเมล์ให้ไปศึกษาดูนะครับ"

ภาพ : หน้าแรกของสูตรธรรมชาติบำบัด

เหตุที่ข้าพเจ้าไม่นำทั้งหมดมาเผยแพร่
และไม่อาจเป็นแหล่งเผยแพร่ต่อ
(แม้ในเอกสารนี้ เขียนท้ายว่า ให้ส่งต่อๆ กันไป ก็ตาม)
เนื่องจากเรื่องเล่า และภาพเอกซเรย์ในนั้น 
ยังไม่มีการอ้างอิงในลักษณะที่แผนสามัญยอมรับคุ้นเคย
จึงจำต้องใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล

ความรู้ของข้าพเจ้าในศาสตร์นี้จำกัดเกินกว่าจะตัดสิน..
อย่างไรก็ตาม
ความงามที่ข้าพเจ้าเห็นเป็นส่วนผสมของธรรมชาติบำบัด  
ในผู้ป่วยรายนี้คือ
"ความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง" - self efficacy
ผนวกกับ ความเอื้ออาทรของคนในครอบครัวที่แสดงออกได้เต็มที่
สองสิ่งนี้ ก็มีพลังมหาศาลแล้ว 

###

ขอขอบคุณ ผู้ป่วยและภรรยา 
ที่ได้ให้ประสบการณ์เป็นวิทยาทาน 
ช่วยให้สมหวัง
หมอก็อยากรู้ (กับเขาบ้าง) ค่ะ 

หมายเลขบันทึก: 491707เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 สิงหาคม 2013 08:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • นิยมสมุนไพรบำบัดเช่นกัน พร้อมไปกับการเฝ้าระวังสร้างความสมดุลของร่างกายด้วยความไม่ประมาท

ตอนนี้ชลัญกำลังถอดรหัสพาร์กินสันจากอาหารอยู่เหมือนกัน ก็บันทึกไว้บ้าง แต่ตงยังเผยแพร่ไม่ได้ ไว้สำเร็เมื่อไร จะบอกหมอ ป.คนแรกๆล่ะกันนะ แต่เท่าที่ได้านี้เนื้อสัตว์แทบทุกชนิด ไม่เหมาะกับพาร์กินสันอย่างชลัญ ผักบางชนิดได้บางชนิดไม่ได้ ไว้เดี๋ยวได้ข้อมูลมากกว่านี้เมื่อไหร่ จะบอกอีกทีค่ะ

This is another example of self-care and community-test medicine. Medicines can come from other sources --not necessary pharmaceutical/drug companies. Community can test "their" medicines and make the results known -- so everyone (not just doctors and nurses) know how good the medicines are.

One problem! We need to change our way of believing (that only medicines from laboratories are good -- there are evidence that proves that belief is wrong), we are to look at medicine as an evolutionary process: we have a new drug, it gets tested by people, if the drug is ineffective people won't use it anymore. If it is effective then they talk and tell others (like in this case).

This may be the way of indigenous knowledge. Science has some miles to catch up.

เห็นด้วยกับคุณหมอในเรื่อง Self-efficacy ครับ ขอบคุณมากครับ

ผู้ป่วยก็พูดแบบนี้ค่ะ 
ว่า ตอนกินยาเยอะๆ ปัสสาวะออกมาเป็นกลิ่นยาเลย
จึงอยากหาทางเลือก ใช้ธรรมชาติ อยู่อย่างสมดุล 

น่าสนใจมากค่ะ อาหารกับ พาร์กินสัน ยังไม่เคยอ่านที่ไหนมาก่อน หากคุณชลัญถอดรหัสเสร็จแล้วมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เราอาจได้ นวัตกรรมใหม่ก็ได้ค่ะ...

คิดถึง care giver ท่านหนึ่ง ที่ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ ตั้งข้อสังเกตว่า
คนที่เป็นมักมีประวัติ ใช้สมองคร่ำเคร่งมากๆ ใช้ชีวิตเร่งรีบ ไม่กินข้าวเช้า..
เราเชื่อว่า การบริหารสมอง ช่วยป้องกันความจำเสื่อม
แต่ใช้สมองแบบหักโหมไป แถมให้อาหารมันไม่พอ กลับทำให้เสื่อม...
ทางสายกลาง น่าจะเป็นคำตอบดีที่สุดค่ะ

  • ศรัทธาและกำลังใจช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว เมื่อสุขภาพจิตดีสุขภาพกายก็ดีตามไปด้วย..
  • ขอบคุณประสบการณ์ดีๆนี้ครับ

น่าสนใจมากค่ะหมอป. เป็นความรู้ที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ เพราะเราก็มาจากธรรมชาติ

ขอบคุณค่ะ คุณครู 
การคุยกับผู้ป่วยที่เปิดใจให้ฟังว่าใช้วิธีบำบัดอะไรบ้าง
ทำให้รู้ว่า นอกเหนือวิชาแพทย์ที่เรียนมาแล้ว

มีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก
ตอนแรกก็รู้สึกแปลกๆ เพราะอยู่นอก comfort zone
แต่ก็สนุกดี ที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
จะได้ต้องร้อง "อ๋ายย..เสื่อมแล้วเหรอ" แบบในบันทึกคุณครูนะค่ะ 

 

We need to change our way of believing that only medicines from laboratories are good.

I am one used to stick with only evidence based medcine.
However, I have learned that sometime "evidence" was built for commercial rather scientific reason.
Many trials were funded direct or indirectly by pharmaceutical companies themselves.
Therefore now I have ambivalent feeling with so called evidence based medicine.
 

ขอบคุณค่ะ อ.ดร.ป๊อป

Self efficacy ความมั่นใจในตนเองว่าสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ 
ทำให้ผู้ป่วยรายนี้ เมื่อเกิดโรคขึ้น ก็ไม่คิดหวังพึ่งแต่ผู้อื่น ไม่โทษสิ่งรอบตัว
กล้าจะทดลองแล้วสังเกตสิ่งที่เกิดกับตัวเองอย่างมีสติ 
...
ทำอย่างไรให้คนไข้โรคเรื้อรังของเรา มี Self efficacy
เพื่อจะ "บริหาร"โรคของตน ได้ด้วยตนเอง

ขอบคุณค่ะคุณครูธนิตย์

"ศรัทธา กำลังใจ" มีอิทธิพลกว่าที่เคยคิดไว้

แม้การศึกษาตัวยา ระบุว่า การให้ยา ดีกว่าไม่ให้ยา 
แต่สิ่งที่แฝงไว้เป็นที่รู้กันคือ

หมอสองคนให้ยาอย่างเดียวกัน ให้ผลไม่เท่ากัน :)

ทางเลือกที่หลากหลาย.. อย่างน้อยก็ทำให้ได้กำลังใจในการรักษา.. ธรรมชาติบำบัด เป็นส่วนหนึ่งของแพทย์ทางเลือก

คุณหมอป. ลองเข้าไปดูเว็บไซด์สำนักการแพทย์ทางเลือก อาจได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นค่ะ http://www.thaicam.go.th/

 

เห็นด้วยค่ะ
ธรรมชาติจะหาจุดสมดุล
เราไม่ปฎิเสธเทคโนโลยี 
เพียงรู้จักใช้มัน ไม่ปล่อยให้มันใช้เรานะค่ะ 

ขอบคุณที่แนะนำแหล่งความรู้ค่ะ

ทางเลือกเยอะมาก จนไม่สามารถบอกได้ว่าทางไหนดีที่สุด

จึง back to the basic ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้...กาลามสูตร
 

น่าสนใจดีค่ะ กับอาหารและธรรมชาติบำบัด ดิฉันไม่ได้ทานอะไรชัดเจน แต่ทานผสมผสานกันไป พยายามไม่ให้อาหารซ็ำกันค่ะ ลูกน้องมักจะนำน้ำผึ้งป่า ที่เป็นของแท้จริงๆ มาให้เรื่อยๆ ก็จะนำมาปรุงอาหาร และเครื่องดื่มเสมอค่ะ กล้วยหอม+น้ำผึ้ง+นมสด ทำเป็นสมู๊ดตี้ ก็อร่อยค่ะ มีประโยชน์มาก หรือกระดูกหมูอบน้ำผึ้ง ก็แสนอร่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณอรชร 
ฟังเมนูแล้วน่าทานทั้งนั้น
การทำให้อาหารเป็นยาไปในตัวนั้นดีอย่างนี้นี่เอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท