หน้าแรก
สมาชิก
ก้านกล้วย
สมุด
บล็อกไร้สาระ
"ขงเบ้ง" ตัวละครใ...
ก้านกล้วย
นาย กิตติ ยกเทพ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
"ขงเบ้ง" ตัวละครในนวนิยาย เรื่อง "สามก๊ก"
ขงเบ้ง
"ขงเบ้ง" ตัวละครในนวนิยาย เรื่อง "สามก๊ก" หรือ "Romance of the Three Kingdoms"
ขงเบ้งถูกเขียนให้เป็นทั้งผู้บัญชาการที่ฉลาด และนักยุทธศาสตร์ที่เฉียบแหลม มีความสามารถสูงในประเมินความเคลื่อนไหวของศัตรูได้อย่างถูกต้องแม่นยำอย่างน่าอัศจรรย์ รวมทั้งยังใช้ประโยชน์จากพลังธรรมชาติในการทำสงครามด้วย
นอกจากความสามารถทางด้านวรรณกรรมแล้ว ขงเบ้งยังเป็นบุคคลตัวอย่างในยุคสามก๊ก เมื่ออายุ ๒๗ ปี เขาเริ่มช่วยเล่าปีสร้างอำนาจ ขงเบ้งเป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่เลือกที่รักมักที่ชั่ง เคร่งครัดในระเบียบวินัย และยึดมั่นในระบบการให้รางวัลและการลงโทษอย่างเข้มงวด
ในช่วงต้นราชวงศ์ฮั่นตะวันตก มีบทสนทนาที่น่าสนใจระหว่างนักยุทธศาสตร์สองคน คือ ลูเจี่ย และ หลิวปัง
ลูเจี่ยถามว่า "กษัตริย์ของท่านจะปกป้องประเทศได้ด้วยวิธีใด ?
หลิวปัง ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "จากการต่อสู้อย่างทรหดบนหลังม้าศึก"
ลูเจี่ยถามต่อไปว่า "ท่านได้ประเทศมาจากการสู้รบบนหลังม้าศึก แล้วท่านปกครองประเทศจากบนหลังม้าศึกได้หรือไม่?"
คำสนทนานี้มีนัยสำคัญที่วควรนำมาพิจารณา คือ วิธีการต่อสู้ทางทหารไม่สามารถนำมาใช้กับด้านการเมืองเพื่อบริหารประเทศได้
ขงเบ้งได้แสดงความเห็นของเขาไว้ใน ๑๖ กลยุทธ์บริหารคนที่น่าสนใจมากมาย และโปรดจำคำแนะนำของขงเบ้งที่กล่าวว่า
"...อย่าปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา แต่จงยึดมั่นในการบริหารทรัพยากรบุคคล..."
กลยุทธ์ที่ 1 ... การปกครองประเทศ
ยืนหยัดมั่นคงอยู่บนหนทางที่ถูกต้องเฉกเช่นดาวเหนือ
- การปกครองบ้านเมืองเปรียบได้กับการดูแลครอบครัวเราต้องสร้างรากฐานให้มั่นคงเสียก่อนเมื่อรากฐานมั่นคงแล้ว ส่วนอื่น ๆ ก็จะมิเกิดความผิดพลาด รากฐานของครอบครัวก็คือ หัวหน้าครอบครัว
- ในการปกครองประเทศ ผู้ปกครองเปรียบเหมือนดาวเหนือ ซึ่งทำหน้าที่นำทาง
ขงเบ้ง กล่าวว่า "...ข้าราชบริพารเปรียบเหมือนดวงดาวที่โคจรอยู่ใกล้ดาวเหนือ ประชาชนเปรียบเสมือนบริวารของดาวดวงอื่น ๆ ในท้องฟ้ายามราตรี ตำแหน่งและทิศทางของดาวเหนือต้องไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้การโคจรของดาวดวงอื่น ๆ สับสน ดังนั้น การเป็นผู้ปกครองที่หนักแน่นและมั่นคง พร้อมด้วยแผนดำเนินการที่เหมาะสม ถือเป็นรากฐานสำหรับการเจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งของรัฐ หรือ องค์กร..."
กลยุทธ์ที่ 2 ... ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา
จงทำให้ความเคารพนับถือและความจงรักภักดี เป็นโซ่ร้อยรัดระหว่างกัน
- ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของตนด้วยความเมตตาปรานี
- ผู้ใต้บังคับบัญชามีหน้าที่ปฏิบัติงานของตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
- ผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของตนอย่างสุภาพ
- ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องรับใช้ผู้บังคับบัญชาของตนด้วยความจงรักภักดี
- ผู้บังคับบัญชามิควรออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว แต่ควรแสดงความใส่ใจ เป็นห่วง และชื่นชมด้วย
- ผู้บังคับบัญชาต้องเมตตาและคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
- ผู้ใต้บังคับบัญชาควรยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรมประจำใจ
- มีเพียงคนชั่วไร้ความภักดีอย่างจริงใจเท่านั้นที่จะกลับกลอกเมื่อต้องตกที่นั่งลำบาก
- ผู้บังคับบัญชาที่ไม่ไว้วางใจผู้ใต้บังคับบัญชา ในที่สุดก็จะเหลือตัวคนเดียว
- เมื่อใดที่ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ากันได้ดี ประเทศชาติก็จะมีสันติสุขและเจริญรุ่งเรือง
- เมื่อใดที่ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน หรือ เกลียดชังกัน ประเทศชาติก็จะมีแต่ความระส่ำระสายและความทุกข์ยาก
กลยุทธ์ที่ 3 ... เปิดหูเปิดตาให้กว้าง
จงเป็นผู้นำที่ฉวยโอกาสตามสถานการณ์
เล่าปี่ : ท่านขงเบ้ง ผู้นำควรเปิดหูเปิดตาให้กว้าง เพื่อที่จะได้รู้สถานการณ์ต่าง ๆ ในบ้านเมืองใช่หรือไม่
ขงเบ้ง : ถูกต้อง ท่านเข้าใจได้ดีมาก
เล่าปี่ : ข้าสามารถมองเห็นดวงจันทร์และดวงดาวอันไกลโพ้น
ขงเบ้ง : การเข้าใจสิ่งต่าง ๆ อย่างผิวเผิน ไม่เพียงพอสำหรับการเป็นผู้นำ
ท่านจะอ้างว่า ท่านมีสายตาแหลมคมไม่ได้ ถ้าท่านมองไม่เห็นความทุกข์ยากของราษฎร
ท่านจะอ้างว่าท่านมีหูไวไม่ได้ ถ้าท่านไม่ได้ยินเสียคร่ำครวญของราษฏร
กลยุทธ์ที่ 4 ... รับฟังความเห็นของผู้อื่น
เปิดใจให้กว้างกับความคิดเห็นของผู้อื่น เพราะคำพูดที่ดีมีแต่ให้ประโยชน์
- ผู้ปกครองที่ฉลาดควรเปิดใจให้กว้าง กับข้อเสนอแนะ ความเห็น และแม้กระทั่งคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้อื่น
- ผู้ปกครองที่ฉลาดมักจะแวดล้อมไปด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา
- ผู้ปกครองที่โง่เขลาก็จะมีแต่ลูกน้องที่ชั่วร้ายประเภทชอบเลียแข้งเลียขารุมล้อม
ท่านขงเบ้ง กล่าวว่า "...ยาดีมักจะมีรสขม คำแนะนำที่ดีมักจะไม่เสนาะหู ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง แต่ยินดีรับฟังแม้แต่คำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมา นับเป็นบุคคลที่น่ายกย่องสรรเสริญ..."
กลยุทธ์ที่ 5 ... มีความหยั่งรู้
สามารถเข้าใจรายละเอียดปลีกย่อย และแยกแยะระหว่างความถูกต้องกับความผิดได้ชัดเจน
- สองอย่างนี้แตกต่างกัน แม้มันจะคล้ายกันมากก็ตาม
- คนเขลาบางคนเข้าใจผิดคิดว่า หินสีขาว คือ หยกที่มีค่า และเข้าใจว่า ตาของปลาคือไข่มุก
- ขุนนางที่ดี กับ ขุนนางที่ชั่วร้าย ต่างกันไกลราวคนละขั้วโลก แต่ก็ยากที่จะแยกแยะ ถ้ามองแต่เพียงภายนอก
- เราอาจจะถูกชี้นำไปในทางที่ผิด ถ้าตัดสินอย่างผิวเผิน จากคำพูดและการวางตัว
- ผู้ปกครองจะต้องตัดสินด้วยความรอบคอบอย่างมากว่า อะไรถูก อะไรผิด
กลยุทธ์ที่ 6 ... การบริหารคน
ให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อชักจูงให้มาเป็นพวกเดียวกัน
- ผู้ปกครองประเทศต้องให้ราษฎรรู้ถึงเป้าหมายและแผนการของตน เพื่อจะได้เข้าใจนโยบายของราชสำนัก
- ผู้ปกครองประเทศต้องร่างระบบกฏหมายที่ครอบคลุมขึ้นมาเป็นสิ่งแรก
- และต้องให้ประชาชนรับรู้โดยทั่วถึงกัน
- เมื่อประชาชนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว ก็จะสามารถชนะสงครามได้ทุกครั้ง
กลยุทธ์ที่ 7 ... การสรรหาบุคลากร
สรรหาผู้ที่เหมาะสมและว่าจ้างผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
- หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของการปกครองประเทศ คือ การบรรจุคนที่ตรงไปตรงมา มีความรู้ความสามารถในตำแหน่งสำคัญ ๆ เพื่อป้องกันการใช้เล่ห์เหลี่ยม ประจบสอพลอ และฉกฉวยประโยชน์ใส่ตน
- หลักสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ คือ ควบคุมการหายใจให้สม่ำเสมอ และสร้างสมพลังหลักสำคัญในการบริหารประเทศ คือ การสรรหาผู้ที่เหมาะสมและว่าจ้างผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงาน
- ประเทศที่ผู้ปกครองมีความรู้ความสามารถเปรียบเสมือนบ้านที่มีเสาหลักคอยค้ำจุน
- ต้นไม้ที่ให้เนื้อไม้ที่ดีสำหรับนำมาทำเป็นเสาหลักได้ มักจะถูกพบในป่าลึกบนภูเขาที่ห่างไกล คนมีความสามารถเหมาะสมที่จะช่วยนำความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติ มักจะปะปนอยู่ในกลุ่มคนธรรมดาสามัญ ซึ่งจะต้องค้นหาอย่างตั้งใจจริง
- ผู้ปกครองประเทศจะสร้างสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติได้ต้องมีคนดีมีฝีมือเข้ามาช่วยทำงาน
- นักปราชญโบราณ พยายามอย่างมากที่จะเสาะหาคนดีมีความรู้ ความสามารถ
- คนดีมีฝีมือเป็นกุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จในทุกกิจการ
กลยุทธ์ที่ 8 ... การประเมินผลงาน
ส่งเสริมคนดีมีปัญญาและถอดถอนคนเลว
- ถ้าผู้ปกครองต้องการให้ราชสำนักปราศจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง มีความเข้มแข็งมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง เขาจำเป็นต้องจัดให้มีการประเมินผลการทำงานของเหล่าขุนนาง
- ผู้ที่มีผลงานดีเยี่ยม สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ผู้ที่ไม่มีผลงานก็สมควรถูกปลด
Q : การประเมินผลงานเป็นสิ่งสำคัญ เกณฑ์ในการประเมินมีอะไรบ้างครับ ?
A : ผู้ปกครองจะต้องเข้าใจความทุกข์ยากของราษฎรและใช้ความรู้สึกของราษฎรเป็นเกณฑ์ในการประเมินเหล่าขุนนาง
- ขุนนางบางคนใช้อำนาจไปในทางมิชอบ หาประโยชน์ให้ตัวเอง หลอกลวงผู้บังคับบัญชา และกดขี่ข่มเหงราษฎร
- ขุนนางอีกประเภทหนึ่ง คือ ไม่ทำตามกฎหมายบ้านเมือง และใช้วิธีการลงโทษตามความพอใจของตนเอง
Q : มีขุนนางบางประเภทรวมตัวกันเป็นก๊กเป็นเหล่าแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวจากเงินของประเทศ
A : ขุนนางที่ฉ้อราษฎรบังหลวงทุกคนต้องถูกปลดออกให้หมด
- ผู้ปกครองที่โง่เขลา มักจะมีวิสัยทัศน์แคบ และชอบใช้ความรู้สึกส่วนตัว เป็นเกณฑ์ตัดสินการประเมินผู้ใต้บังคับบัญชา
Q : ท่านใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเลื่อนตำแหน่ง หรือ ปลดผู้ใต้บังคับบัญชา ?
A : ก็ใช้เกณฑ์ที่ว่า เขาอุทิศเพื่อความสำเร็จของราชสำนักหรือไม่ การใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาเป็นเกณฑ์ตัดสิน เป็นสิ่งอันตราย
กลยุทธ์ที่ 9 ... การบริหารจัดการกองทัพ
วางแผนยุทธศาสตร์ให้รัดกุมแล้วจะเป็นผู้ชนะ
- การระดมผล การเปิดฉากสงคราม และการป้องกันประเทศ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งจะต้องไม่ด่วนตัดสินใจ
กลยุทธ์ที่ 10 ... การให้รางวัลและการลงโทษ
ใช้ระบบการให้รางวัลและการลงโทษ เพื่อการจัดการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
- ผู้ปกครองที่ต้องการให้มีการปกครองที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ต้องรู้จักให้รางวัลผู้ทำความดี และลงโทษผู้กระทำผิด
- การให้รางวัลและการลงโทษต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม
- การให้รางวัลไม่ได้ขึ้นอยู่กับยศตำแหน่ง แต่ขึ้นอยู่กับผลงานของเจ้า
- การลงโทษจะต้องเท่าเทียมกัน ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
กลยุทธ์ที่ 11 ... การใช้อารมณ์
อย่าให้อารมณ์ครอบงำ
- ผู้ปกครองควรมีบุคลิกลักษณะที่สง่าผ่าเผย และไม่หงุดหงิดง่าย
- ผู้ปกครองต้องระมัดระวังบุคลิกของตัวเองและควบคุมตัวเองให้ได้
- ผู้ปกครองอาจแสดงความไม่พอใจได้ แต่ต้องไม่เกรี้ยวกราด
- ผู้ปกครองอาจจะสนุกสนานร่าเริงได้ แต่ต้องไม่เกินเหตุ
- ผู้ปกครองไม่ควรเอาผลประโยชน์ของชาติไปเสี่ยงเพราะต้องการระบายความแค้นส่วนตัว
- ผู้ปกครองไม่ควรหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องส่วนตัวจนละเลยการบริหารประเทศ
กลยุทธ์ที่ 12 ... การจัดการความวุ่นวาย
จงรอบคอบเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ที่วุ่นวาย
Q : ถ้าการบริหารราชสำนักเกิดความสับสนวุ่นวาย ต้องแก้ปัญหาอย่างไร ?
A : ข้อแรก ปลดขุนนางที่มีมากเกินไปออก แล้วบังคับใช้ระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
- ถ้าการปฎิรูปไม่ได้ทำอย่างเหมาะสม หรือ หุนหันพลันแล่นเกินไป จะยิ่งทำให้เกิดความระส่ำระสายมากขึ้น
- การปฏิรูปต้องทำอย่างรอบคอบ สอดคล้องตามสภาวการณ์ของประเทศและความต้องการของประชาชน
กลยุทธ์ที่ 13 ... ความรู้และการออกคำสั่ง
ทำตัวเองให้ดีก่อน ก่อนจะออกคำสั่งกับผู้อื่น
- ผู้ปกครองประเทศที่ทำอะไรตามสบาย แต่กลับเข้มงวดกับลูกน้องของตน ถือเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
- ผู้ปกครองที่เข้มงวดกับตัวเองก่อนออกคำสั่งกับลูกน้อง ถือเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง
- ผู้ปกครองที่ดีแต่สั่งลูกน้อง โดยที่ตัวเองไม่เคยทำเลย จะสั่งลูกน้องให้ทำตามคำสั่งได้ยาก และเมื่อลูกน้องเพิกเฉยต่อคำสั่งก็จะเกิดความระส่ำระสายขึ้น
- ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ทำตัวเองให้ถูกต้อง แล้วค่อยออกคำสั่งกับผู้อื่น นี่เป็นหลักการง่าย ๆ ที่ได้ผลสำหรับความเป็นผู้นำ แต่ก็มักจะถูกมองข้ามไป
กลยุทธ์ที่ 14 ... การจัดการกับปัญหา
ดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อยุติปัญหาตั้งแต่แรกเริ่ม
- ประเทศต้องมีกฎหมายเช่นเดียวกับบ้านต้องกฎระเบียบ เมื่อกฎหมายและกฎระเบียบถูกกำหนดขึ้นมาแล้ว ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
กลยุทธ์ที่ 15 ... วิสัยทัศน์
มองการณ์ไกลและวางแผนอย่างรอบคอบ
- ผู้ปกครองที่ขาดวิสัยทัศน์ หรือไม่มีการวางแผนอย่างรอบคอบจะต้องเผชิญกับความยุ่งยาก
- ความหวังของประชาชนอยู่ที่ผู้ปกครองประเทศ ถ้าผู้ปกครองประเทศไม่สนใจอนาคตของชาติ หรือไม่วางแผนเพื่อพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ผลกรรมที่ทำเอาไว้ก็จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
- ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราต้องมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อความสำเร็จ
กลยุทธ์ที่ 16 ... การสังเกต
อุทิศตนเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ
- เราไม่จำเป็นต้องไปอาบน้ำถึงแม่น้ำ ตราบใดที่เราสามารถชำระล้างสิ่งสกปกครองออกจากตัวเองได้
- ม้าไม่จำเป็นต้องเป็นม้าสายพันธุ์ดี ตราบใดที่มันสามารถวิ่งได้เร็ว
- ถ้าเสนาบดี หรือ ขุนพลของเราฉลาดและมีความสามารถเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเอานักปราชญ์มารับตำแหน่ง
- ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น ผู้ที่มีความมุ่งมั่นย่อมประสบความสำเร็จ
- ผู้ปกครองประเทศ ควรนำความสามารถหลากหลายของราษฎรมาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ
- แต่ละคนจะมีประสบการณ์และความสามารถแตกต่างกันไป ผู้นำที่ฉลาดต้องรู้จักใช้ความสามารถที่หลากหลายของบุคคลเพื่อเอาชนะอุปสรรคที่ยากลำบาก
- ดูเหมือนว่าทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรยอมแพ้เสียง่าย ๆ
**************************************
แหล่งอ้างอิง
หวังเซียนหมิง. 16 กลยุทธ์บริหารคน. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2550.
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ก้านกล้วย
ใน
บล็อกไร้สาระ
คำสำคัญ (Tags):
#ขงเบ้ง" ตัวละครในนวนิยาย เรื่อง "สามก๊ก
#"สามก๊ก"
หมายเลขบันทึก: 491291
เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 18:06 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:57 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
Dr. Ple
เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 19:46 น. (
)
ขอบคุณคะ บทความดีดีนี้ค่ะ
บริหาร "คน"
บริหาร "ใจ"
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ก้านกล้วย
สมุด
บล็อกไร้สาระ
"ขงเบ้ง" ตัวละครใ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท