GotoKnow

แป๊ะเจี๊ยะ..สังคมอยุติธรรม?

คนถางทาง
เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2555 08:16 น. ()
แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2555 12:25 น. ()
เงินปจ.ที่ลงขันกันทั่วประเทศนี้เราก็เอามาตั้งเป็นกองทุนพัฒนารร.ห่วย ให้มีมาตรฐานเทียบเท่า รร. ดัง ที่กินแป๊ะเจี๊ยะ อีกหน่อยมีรร.ดังเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ระบบแป๊ะเจี๊ยก็จะหมดไป

ใครจะด่าระบบ แป๊ะเจี๊ยะ อย่างไรก็ตาม แต่ผมขอตะแบงแย้งว่า ถ้าจัดการดีๆ ไม่ให้มีโกง มันจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อประเทศชาติ

 

หนึ่งคือได้เงินงบประมาณการศึกษาเพิ่ม...... สองคือช่วยให้ลูกคนรวยมีอนาคตที่ดี (เพราะได้เรียนรร.ดี)...สามช่วยลูกคนจนให้มีการศึกษาดี

 

คนจนมักชอบด่าคนรวยว่าเอาเปรียบ   แต่สำหรับการศึกษานั้นอย่าลืมว่า ส่วนใหญ่แล้วงบสร้างและดำเนินการรร. นั้นมาจากภาษีเงินได้และภาษีนิติบุคคลของคนรวยเสียมาก ส่วนคนจนไม่เสียภาษีส่วนนี้ แต่ไปเสียโดยอ้อมผ่าน vat (ซึ่งคนรวยก็ต้องเสียด้วย) ดังนั้นคนรวย 1 คน เสียภาษีมาบำรุงโรงเรียนโดยเฉลี่ยน่าจะมากกว่าคนจนหนึ่งคนประมาณ 50 เท่า ....เท่ากับว่าเขาเป็นเจ้าของรร.มากกว่า 50 เท่า แต่ทำไมเวลาลูกจะเข้ารร. ต้องมีสิทธิเท่ากัน ...นี่มันระบบคอมมิวนิสต์หรือเปล่า

 

พวกลูกคนรวยนั้นถ้านับตามภาษีที่เสีย ควรได้สิทธิเข้ารร.ก่อนด้วยซ้ำไป แต่นี่เขายังต้องเสีย “ภาษีแป๊ะเจี๊ยะ” เพิ่มเข้าไปอีก ..แบบนี้ให้ลูกคนรวยเข้าไปเถอะครับ

 

อย่าลืมว่าอนาคตของชาติมักถูกกุมโดยลูกคนรวยมากกว่าลูกคนจน  (เพราะยังไงๆ ในสังคมแบบไทยๆ ลูกคนรวยก็มีโอกาสมากกว่า ไม่เชื่อไปดูสส. วันนี้สิครับ ลูกคนรวยมากกว่าลูกคนจนกี่เท่า ทั้งที่ปริมาณลูกคนรวยมีน้อยกว่าลูกคนจนกี่เท่า  เรียกว่าอัตราแลกเนื้อ 100 ต่อ 1 ก็ว่าได้  

 

ถามว่า...แล้วถ้าลูกคนรวยมันโง่และเลวล่ะ อนาคตชาติจะเหลือหรือ

 

ดังนั้นการให้ลูกคนรวยได้มีโอกาสเรียน รร. ดีๆ ด้วยการ “เอาเงินแป๊ะเจี้ยมาซื้อเอานี้”  ผมว่าเป็นผลดีต่อชาติทั้งระยะสั้นและระยะยาว...แถมได้เงินฟรีๆ อีกด้วย  อะไรมันจะดีปานนั้น

 

ส่วนพวกรร.ดังๆ ไม่ต้องเล่นแง่หรอกครับ ว่าบริหารงานจน.รร.ดังเด่นจนคนแย่งกันเข้า  แต่ต้องสละเอาปจ. ไปลงขันรวมกันทั้งชาติ    ไม่ต้องเสียดายเงินจิ๊บจ๊อยพวกนี้หรอก  เพราะท่านสามารถ “รีด” เงินจากพ่อแม่ของเด็กรวยๆ เหล่านี้ได้อีกนาน จากการขอรับบริจาคในโอกาสต่างๆ (ซึ่งการรีดเงินนี้ ก็มาช่วยนร. ที่เป็นลูกคนจนได้อีกหลายต่อ ทั้งโดยตรงและอ้อม เช่น ทุนการศึกษา เรียนดีแต่ยากจน)

 ความจริงรร.ดังต้องขอบคุณรร.ห่วยๆ เขาด้วยซ้ำ ที่มารองฐานทำให้พวกคุณกลายเป็นรร.ดัง เพราะถ้าพวกเขาพัฒนาเป็น รร.ดีดังเท่ารร.ของคุณกันหมด แล้วใครเขาจะมาแย่งกันเข้า รร.ของคุณให้เสียปจ.ให้ง่าวเล่า

 

เงินปจ.ที่ลงขันกันทั่วประเทศนี้เราก็เอามาตั้งเป็นกองทุนพัฒนารร.ห่วย  ให้มีมาตรฐานเทียบเท่า รร. ดัง ที่กินแป๊ะเจี๊ยะ อีกหน่อยมีรร.ดังเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ระบบแป๊ะเจี๊ยก็จะหมดไป

 

ผมเสนอเลยว่ารร.ดังให้มีโควตาเก็บแป๊ะเจี๊ยะได้ 20%  อีก 80% เปิดสอบแข่งขันเสรี   ซึ่งในการสอบนี้พวกลูกคนรวยที่มีเงินพอเสียแป๊ะเจี๊ยะได้ก็จะฟันที่นั่งไปเสียครึ่งหนึ่ง สรุปคือ รร.ดีดังเหล่านี้จะมีลูกคนรวย 60 คนจน 40  สัดส่วนพอทน ลูกคนรวยคนจนนะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

 

...คนถางทาง (๕ เมย ๒๕๕๕)

 

สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน


ความเห็น

คนถางทาง
เขียนเมื่อ

ลูกคนรวยที่เข้ารร.ดีดังไม่ได้ เขาไปไหนกันรู้ไหมครับ

ตอบ. .ไปเรียนมัธยมเมืองนอก

ซึ่งส่งผลให้สูญเสียเงินตราต่างประเทศมหาศาลปีละล้านต่อหัวเป็นอย่างน้อย สู้เอาเงินนี้มาบำรุงการศึกษาไทยไม่ดีกว่าหรือ

ชลัญธร
เขียนเมื่อ

ชลัญสงสัยมากเลยอาจารย์ในเรื่องของมาตรฐานการศึกษานี่ แปลก ชลัญรู้สึกว่าทุกวันนี้เรากำลังดูถูกครูที่สอนเรามา อย่างเช่น คนที่มีตำแหน่ง ศ. รศ. ผศ. ดร. ทั้งหลายในปัจจุบัน การศึกษา ระดับต้นมันก็ไม่ได้ เหมือนทุกวันนี้ บางคนเรียนตั้งแต่ไม่มีกระดาษ ใช้กระดานชนวนด้วยซ้ำ บางคนเรียนโรงเรียนวัด แต่ทุกวันนี้เราโคตรเก่งเลย แล้วทำไมรุ่นลูกรุ่นหลายเราปัจจุบันนี้ พ่อแม่ถึงต้องพยายามแข่งขันกันเอาลูกเข้าโรงเรียน ที่มีชื่อเสียง ทั้งๆ การเรียนภาคบังคับก็เหมือนกันทั่วประเทศ และ ในมหาวิทยาลัย คณะที่เปิดสอน มันก็ไม่ได้มีคณะเทวดาน้อยที่รับเฉพาะคนที่จบจาก รร......... เป็นต้น คนเรียนจบ รร.วัดก็มีสิทธิ์สอบ ชลัญงง ว่าค่านิยมพวกนี้มันเกิดมาได้อย่างไร ทุกคนเน้นการศึกษาในส่วนของความเจริญทางด้านวัตถุนิยม และเทคโนโลยีกันมากไปหรือเปล่า อย่างชลัญอยู่นี่ มักจะโดน พี่ๆพยาบาลบ่นแทบทุกวัน ว่าไม่เอาไอ้หมวยน้อยไปเข้าโรงเรียนในจังหวัด ที่เขานิยมนำลูกไปเรียน เพื่อให้โคตรเก่ง กะคนอื่นเขา ทั้งๆที่กำลังทรัพย์เรามี ชลัญไม่ได้ตอบโต้ แต่งง เท่านั้นเอง ว่า ไอ้หมวยน้อยมันเรียนในอำเภอ ก็ยังดูท่ามันจะเก่งอยู่นา แถม EQ ดี เหมือนแม่ด้วย

คนถางทาง
เขียนเมื่อ

คุณ ชลัญฯ ครับ ..ต้องแยกระหว่างสมองดี กับโอกาสดีครับ สองสิ่งนี้บางทีมันทดแทนกันได้ หรือไม่ได้สุดแล้วแต่ "โอกาส" ครับ ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านสมองดีมาก แต่โอกาสไม่ค่อยดี ก็เลยเป็นพระบ้านนอก อยู่พุมเรียง นี่ถ้าท่านมีโอกาสได้เป็น พระัสังฆราช ดำรงตำแหน่งสัก 10 ปี ป่านนี้ผมว่าประเทศไทยเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองไปแล้ว

เด็กเล็กๆ เอาอยู่ใกล้พ่อแม่ไว้ก่อนเป็นดี ไม่ว่ารร.จะไม่ดีอย่างไร เลย 16 แล้วค่อยว่ากันอีกที

ชลัญธร
เขียนเมื่อ

อ๋อ ! เข้าใจล่ะ แต่ชลัญว่าหลายคนไม่เข้าใจนะ ลูกหมอที่ รพ. ต้องนั่งรถตู้มา รร.ใน นม.ตั้งแต่ ตี 5 แค่เรียนอนุบาลเอง ไอ้หมวน้อยยังได้ลั่นล้าอีกตั้งหลายชั่วโมง

ปล.วันนี้ไม่ได้อู้งานนะ กำลังสรุปวิจัย 10 หน้า ส่ง สวรส. ติด 1 ใน 20 เพื่อคัด วิจัยดีเด่นน่ะ เรื่อง ผลของการรับรู้นวัตกรรมกราฟชีวิตลิขิตเบาหวาน ต่อระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวาน โรงพยาบาลพิมาย ทำเองกะมือ เก่งมั๊ย อิ อิ

ทองหยอด
เขียนเมื่อ

เป็นธรรมเนียม

ที่ไหนก็มีครับ

คนถางทาง
เขียนเมื่อ

นั่นสิครับท่านทองหยอด ผมถึงจะเอาปจ. ใต้ดินมาขึ้นบนดินซะ ให้มันโปร่งใสไปเลย ไม่ต้องเขิน อีกหน่อยซื้อเสียงทำแบบนี้ก็ดีนะผมว่า :-)

kwancha
เขียนเมื่อ

คนถางทางค่ะ.. แม้กระทั่งโรงเรียนเอกชนที่เป็นที่นิยม...หากใครจะให้ลูกหลานเข้าเรียน..ก็ต้องจ่ายแป๊ะเจี๊ยและสอบด้วย... แถมยังกะต้องเก็งราคาด้วยนะ จะให้กันเท่าไหร่ ไม่มีrate ลูกเรียนไม่เก่ง อาจจะสอบพลาด แต่ถ้าเสนอ ปจ.มาก ก็มีสิทธิ์เข้าเรียน..เรียกได้ว่า ฝึกการลงทุน คิดผลกำไร/ขาดทุนไว้ตั้งแต่เล็กๆ :-))

เรียนรู้จากที่บ้าน..การที่หลานสาวและหลานชาย (เกิดมาก็อยู่่ที่กทม. ไม่เหมือนพ่อและอาๆ ที่เป็นเด็กตจว.) เริ่มชีวิตการเรียนตั้งแต่วันเด็กที่กทม...เข้าสู่อนุบาล และประถมก็ เริ่มเรียนที่อัสสัม มีชื่อแถวๆสีลม (เด็กผู้ชาย) และวัฒนาฯ..(สำหรับเด็กผู้หญิง) พ่อแม่ให้เรียนที่นี่ก็ด้วยหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นนอกจากจะเชื่อว่า การจัดการเรียนการสอนมีคุณภาพแล้วก็คือผู้ปกครองไปรับส่งสะดวก..โห..เห็นพี่ชายเปรยให้ฟัง..เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ กับระบบ ปจ. เดี่ยวนี้ดีหน่อยเจ้าคนโต ไปสอบเรียนได้ที่สวนกุหลาบ ยังไม่เห็นว่าต้องจ่าย ปจ. คนเล็กยังอยู่ที่เดิมวัฒนา..แต่ที่น่าประทับใจ คือ จ่ายเงินต่างไปจากโรงเรียนทั่วไปแต่พ่อแม่ก็ได้รับการตอบกลับมาที่เป็นประโยชน์ในการ ที่โรงเรียนและบ้าน..ร่วมมือพัฒนาคน..เช่น..ในวันประกาศผลการสอบของเจ้าตัวเล็ก (ระดับประถม) .ก็สามารถเข้าดูผ่าน internet และสามารถเข้าดูได้ว่า หลานเค้าเข้าห้องสมุด ยืมหนังสือไปกี่เล่ม อ่านเรื่องอะไรบ้าง ยืม/คืนหรือยัง ..ฝึกเด็กๆทั้งการเคารพกฏกติกา และดูความสนใจของเด็กได้จากการชอบอ่านหนังสือ....ส่วนนี้ที่ทราบเพราะ มาดูเปิดที่บ้านกัน และอาได้ขอเข้าไปดูว่า ทางโรงเรียนแจ้งข้อมูลอะไรบ้าง..ดูแล้วชอบจังค่ะ..keep the customer satisfied :-)) ไม่ทราบโรงเรียนอื่นๆมีวิธีเช่นเดียวกันไหม๊ ถ้ามีก็ขอชื่นชมด้วยค่ะ

คนถางทาง
เขียนเมื่อ

รร.หัวเมืองใหญ่ๆ ใช้ระบบนี้มานานแล้วครับ เช่น ราชสีมาวิทยาลัย


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย