กำหนดโปรแกรมวันอาทิตย์ไปเที่ยวตลาดขายปลาและชิม Sushi (すし)ที่
Tsukiji Market (築地市場, Tsukiji shijō)
ในช่วงเช้า (ศึกษาที่นี่)
ก่อนไปเที่ยวงานเทศกาล Sanja
Festival(三社祭 ) ที่เขต
Asakusa ปรากฏว่าเขาหยุดซื้อขายปลากันในวันอาทิตย์
...ปัทโธ่ ทำไมไม่แจ้งติดประกาศ
ผิดหวังจริงเชียว
เนื้อปลาสดๆ แร่เป็นชิ้นวางขายให้เลือกซื้อ
มองเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่น-ชาติอื่นๆ หลายคนก็หลงมาเช่นกัน
ที่แปลกใจคือมีคณะทัวร์พากันมากิน Sushi (すし) ในวันนี้
น่าจะได้ดูตลาดขายปลาแถมด้วย ไม่ใช่แค่มากินเฉยๆ
สาวสามเรียงใบเถาจึงได้แต่เสียดายที่การเดินทางมาครั้งนี้ได้กิจกรรมไม่ครบสูตร
เดินเลือกร้าน Sushi
(すし) จากภาพโฆษณาที่ติดราคาพร้อม
เข้าไปสั่งSushi
(すし) กินกันอย่างอเร็ดอร่อย
...ยกเว้นผู้เขียนที่มีอาการหลอนจากเนื้อดิบทุกชนิดอย่างรุนแรง
หากฝืนกลืนเข้าไปอาการขย้อนจะทำปฏิกิริยาสวนออกมาทันที-ทันใด
ธรรมชาติมักจะเล่นตลกจัดสรรให้มนุษย์มีความแตกต่างกันอยู่เสมอๆ (
ศึกษาเรื่อง Sushi
(すし) ที่นี่)
ที่เห็นแปลกไปจากธรรมดาคือ
มีการทอดไข่ขายกันอย่างเป็นร่ำ-เป็นสัน
ชิมดูแล้วก็ไข่ทอดธรรมดาๆนี่แหละ
เพียงแต่ทอดแบบนุ่มๆ ใช้วิธีการเดียวกันกับออมเล็ต
แต่ใส่น้ำตาลลงไปให้มีรสหวานแปร่ม –แปร่ม (หวานนิดเดียว)
หลังทาน Sushi (すし) รสชาติถูกใจสองสาวแล้ว จึงนั่งรถไฟ
ใต้ดินไปลงสถานี Asakusa เพื่อไปชมงานเทศกาล
Sanja Festival(三社祭)
ซึ่งจัดเฉลิมฉลองขึ้นเป็นประจำทุกปี ในสัปดาห์ที่ 3
ของเดือนพฤษภาคม
ยิ่งใหญ่ขนาดปิดถนนสายสำคัญไป 2-3 สายเลยทีเดียว
ฝูงชนแน่นขนัดมากราบไหว้พระ-ขอพร และชมขบวนแห่กันอย่างสนุกสนาน
(ศึกษาเทศกาล
Sanja Festival ได้ที่นี่)
Tokyo
SkyTree มองเห็นเด่นชัดด้านหลัง/ ฝูงชนแออัด
ขนมหลากสี/ ข้าวโพดปิ้งฝักละ 156
บาท
ขบวนแห่สวยงาม
เคลื่อนมาให้ชมเป็นระยะๆ
มีคนอุตรินำแมวมาวางไว้
2 ตัว
นักท่องเที่ยวเดินผ่านไป-มาหยุดแวะถ่ายภาพเป็นชั่วโมงๆ
หวนให้นึกถึงเทศกาลงานไหว้พระประจำปีของเมืองชากังราว(กำแพงเพชร)
ในเดือน 3 ทีเรียกว่า งานนบพระเล่นเพลง
มีการจัดขบวนแห่คล้ายกัน
แต่งานนี้ญี่ปุ่นเขาไม่แห่พร้อมกัน ใครพร้อมใคร่แห่
ก็แห่กันไป ตั้งแต่เช้า-เย็น
ภาพบรรยากาศงานเทศกาล
ขากลับแวะละลายทรัพย์ที่ Akihabara ศูนย์รวมแครื่องไฟฟ้าราคาถูก
คุณภาพดี และเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังลดราคาจากป้ายถึง 30
% มาอยู่ญี่ปุ่นได้สองสัปดาห์
ใช้เงินส่วนตัวซื้อของจำเป็นเพื่อฝึกประสบการณ์ในการใช้ภาษาญี่ปุ่นไปหลายรายการแต่ตัวเลขยังจำกัดอยู่หลักที่ห้า
สัปดาห์ที่สองของการเรียน
มีการจัดเวลาให้ศึกษาด้วยตนเองอยู่ครึ่งวัน
ชักชวนสมัครพรรคพวกไปเที่ยวชมสวน ที่พระราชวัง Tokyo Imperial
Palace แต่ไม่มีใครร่วมขบวนด้วย
เนื่องจากบางคนเคยไปเที่ยวชมมาแล้ว
แต่บางคนแม้ยังไม่เคยไปชมมาก่อนแต่ความสนใจเรื่องนี้มีน้อย
ดังนั้นผู้เขียนจึงลุยเดี่ยวแบบสบายๆ
มุมมองจากสวนสาธารณะ Wadakura-Fountain
Park
หลายคนชอบแซวว่า ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม
แหม....อะไรจะปานนั้น โลกกว้างใหญ่ไพศาล –
หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปทุกเวลา-ทุกนาที
เรื่องที่ต้องศึกษาเรียนรู้มีอีกตั้งมากมาย....ทนไม่ศึกษาเรียนรู้ได้ไง
หยิบแผนที่รถไฟติดมือไปด้วยเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
การเดินทางไปไหน-มาไหนในญี่ปุ่นมีความปลอดภัยสูง
จึงไม่ค่อยรู้สึกกังวลใดๆ
แม้ประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อในเรื่องของความเครียดที่ต้องรีบเร่งแข่งกับเวลา
แต่ผู้คนที่ได้พบปะล้วนมีน้ำใจ
ยินดีหยุดฟังและบอกทางอย่างชัดแจ้ง เคยถามทางนักเรียนสองคนบนถนน
เขาเกรงว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจ
พาเดินไปดูแผนที่ประกอบการอธิบายเลยทีเดียว
ป้ายบอกชื่อถนน ชื่อสถานที่ และบอกข้อมูลต่างๆ
มีมากมายตลอดระยะทาง ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
สะดวกดีแท้เชียว
สดชื่น-สบายตา
ทุกมุมมอง
เดินชมสวน Tokyo Imperial Palace
อย่างสบายใจ
สองครั้งที่แล้วไม่มีโอกาสมาเดินชมด้านในได้แต่ถ่ายภาพอยู่ด้านนอก
ครั้งนี้จึงไม่พลาดโอกาสเดินเข้าไปชมจนทั่วอาณาบริเวณ
เวลาสอน…ชอบฝึกให้นักเรียนค้นคว้า-ศึกษาเรียนรู้หาคำตอบด้วยตนเองมากกว่าจะป้อนข้อมูลแบบหมดเปลือก
บอกเฉพาะข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น ให้ไกด์ไลน์ บอกชื่อเวปไซต์
ฯลฯ บางครั้งถูกนักเรียนนิสัยเกียจคร้าน
ย้อนถามราวกับปรามาสครูว่า " ครูรู้จริงเหรอ
ไม่รู้ละมั๊งถึงไม่ยอมบอก ".... หุหุหุ....
หนูเอ๋ย…ไม่รู้จะบอกได้เหรอ ว่าคำตอบของพวกเธอ มันผิดหรือถูก
แล้วควรศึกษาค้นคว้าที่ไหนได้...."
ม้านั่งจัดวางไว้ให้พักพิงทุกระยะ
สวนที่นี่ตกแต่งแบบเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ
ไม่มีสิ่งใดพิเศษต่างไปจากที่อื่นๆ รู้สึกได้ถึงความสุข- สดชื่น
อบอุ่น- ปลอดภัย และสบายใจ
นี่เรากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนของพระมหาจักรพรรดิ์งั้นเหรอ
พระองค์ยังคงเสด็จมาทอดพระเนตรอยู่บ้างหรือเปล่านะ
คำถามมากมายผุดขึ้นอยู่กลางใจ .... พลอยให้นึกถึงพระราชวังสวนจิตรลดาของพ่อหลวงไทยฯ
ขึ้นมาอย่างฉับพลัน มีทั้งนาข้าว โรงทดลอง
โรงเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ความรู้สึกตื้นตันใจในพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพสกนิกรฯ
ก่อตัวขึ้นมาจนล้นใจ " ทำไมนะ
ทำไมคนไทยบางคนถึงชอบทำร้ายพ่อหลวงของเรานัก
ช่างไม่รู้จักบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ช่างอกตัญญู
ไม่สมกับการเกิดมาเป็นคนเสียเลย "
ภาพวาดจากลายเส้นที่จิตกรนิรนามเก็บรวบรวมไว้ในเล่ม
เพลิดเพลินกับบรรยากาศในสวนฯ
จนถึงเวลาที่ต้องออกจากสถานที่นี้ ....
ระหว่างทางได้ช่วยเป็นล่ามให้กับครอบครัวนักท่องเที่ยวที่พลัดหลงจากกลุ่มทัวร์
แปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อถามจิตกรชาวญี่ปุ่นที่มานั่งวาดรูปพระราชวังอยู่ด้านหน้าและแปลคำตอบภาษาญี่ปุ่นกลับไปเป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง
เพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นัดหมายจากตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่เขียนไว้
แถมช่วยแนะนำสถานที่ที่จะหาซื้อของที่ระลึกให้กับชาวยุโรปที่มาถามข้อมูลเรื่องนี้อย่างไว้วางใจ ....
ผู้เขียนรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสใช้ภาษาญี่ปุ่นช่วยเหลือผู้อื่น
และได้ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของการเป็นนักช้อปแนะนำผู้อื่นได้ด้วย
จิตกรนิรนาม
ฝีมือวาดภาพลายเส้นงดงามจับตา
***… ขอบคุณมากค่ะ(どうも ありがとうございます= Domo Arigatou gosai
masu)…***