อยู่มาวันหนึ่งผมได้เกิดความสงสารคนไทยผู้นิยมกินปลาทูนึ่งยิ่งนัก จึงได้คิดค้น สร้าง ทดลอง เครื่องนึ่งปลาทูแบบใหม่ ที่สะอาด ประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา และเพิ่มคุณค่าสารอาหารให้ปลาทู กว่าวิธีการ "ต้ม" แบบปัจจุบัน
ก่อนอื่นมาดูวิธีการ "ต้ม" ปลาทู แบบปัจจุบันกันก่อน ...เรียกกันว่าปลาทูนึ่งแต่จริงๆแล้วคือ ปลาทูต้ม นะครับ
...แรกๆ น้ำต้มก็ใสดีอยู่ แต่พอต้มนานๆไป น้ำเริ่มข้นคลั่กขึ้นเรื่อย จนออกฟองสีเขียวๆ ลอยฟ่อง (ไม่ต่างอะไรกับน้ำลวกก๋วยเตี๋ยวตอนบ่ายๆ) ถ้าไปเห็นด้วยตาแล้วจะกินปลาทูไม่ลงไปอีกนาน เพราะสารพิษมันสะสมอยู่ในน้ำมากหลาย ...อีกทั้งสารอาหารในเนื้อปลาทูก็ลดลง เพราะสารมันไหลออกไปสู่น้ำที่ต้มนั่นแล
ผมมาคิดว่าทำไมเขาไม่นึ่ง ก็มาได้คิดว่ามันคงแพง และเสียเวลา เสียพลังงาน ก็เลยสุกเอาเผากิน แล้วมาหลอกปชช.ว่าเป็นปลาทูนึ่ง ส่วนกระทรวงสาธาฯ อย. และ กขค.. ทั้งหลายก็ไม่สนใจจะพิทักษ์สิทธิ์และสุขภาพประชาชนแต่อย่างใด ....เผลอๆมันไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า ปลาทูนึ่งมันสกป.ปานใด
เมื่อได้เห็นภาพรวมดังนั้นแล้ว ผมจึงได้มาคิดประดิษฐ์หม้อนึ่งปลาทู ที่ดีพร้อมไปหมดทุกอย่างคือ นึ่งจริงๆ และรวดเร็วกว่าเดิม สะอาดกว่าเดิม ประหยัดเวลากว่าเดิม 25% ประหยัดพลังงานกว่าเดิมไม่น่าน้อยกว่า 50% สารอาหารในปลาทูมีเหลือมากกว่าเดิม และท้ายสุด อร่อยกว่าเดิม (เนื้อนุ่มหวานหอมกว่าเดิม)
งานนี้ผมสามารถจดสิทธิบัตร สร้างความร่ำรวยให้ตนเองได้มากหลาย ไม่แต่นึ่งปลาทู แต่นึ่งสารพัดร้อยแปด เช่น ซาละเปา ฮะเก๋า ไก่ ข้าวโพด ข้าวนึ่ง
การนึ่ง มันไม่ง่ายแบบที่ใครๆคิดหรอก เช่น นึ่งซาละเปา ข้างล่างสุกก่อนข้างบน พอข้างบนสุก ข้างล่างก็แฉะแล้ว ..ผมท้าให้ปริญญาเอกวิศว หรือ ฟิสิกส์ ไปทำเครืื่องนึ่งใ้ห้สุกพร้อมกันทั้งด้านล่างด้านบน แถมเร็ว ประหยัดพลังงาน รับรองว่าหาเงาไม่เจอ อิอิ
สำหรับเครื่องผม คิดปุ๊บ ออกแบบปั๊บ ทดลองในใจอยู่ 3 เดือน (ลองผิดลองถูกในใจ) แล้วให้นศ. ป. ตรี วิศวเครื่องกล มทส. สร้าง ทดลอง ออกมา (เป็นโครงงานวิศวกรรมระดับปริญญาตรี) ทำครั้งแรก ใช่เลย ไม่มีผิด (จรวดนาซ่าลองงานเป็นสิบปีกว่าจะ work) ..แสดงว่าพระเจ้าช่วยผมแน่นอน ลำพังผมหัวเีดียวกระเทียมลีบ มันไม่น่าโป๊ะเชะได้ครั้งแรกปานนี้ (เพราะนึ่งปลาทูมันยากกว่าทำจรวดมาก รู้ไหม)
นั่นเป็นการเขียนแบบ ต่อมาการสร้างจริง (เฉพาะเนื้อในยังไม่รวมเปลือกนอก)
ต่อมาการทดลองนึ่ีงจริง
ปลาทูออกมาผิวสวยมาก เต่ง ตึง หอม ...เราทดลองสูตรหมักด้วย 5 สูตร เช่น เกลือ น้ำปลา เกลือ+น้ำปลา เกลือ+น้ำปลา+ตะไคร้ แล้วให้มีการทดลองชิมจากเพื่อนนศ. ปรากฎว่า สูตรเกลือ+น้ำปลาได้ัรับการโหวตสูงสุดว่าอร่อยมาก
การต้มปกติตามแบบท้องตลาด นอกจาก สกป. แล้ว ยังใช้เวลา 15-20 นาที ส่วนของเราใช้เวลา 12-15 นาทีก็สุกสนิทแล้ว อีกทั้งเราใช้น้ำน้อยกว่าการต้มปกติ 20 เท่า เดาว่าน่าจะใช้พลังงานน้อยกว่าประมาณ 3 เท่า (ไม่ได้วัด แต่นี่คือการประมาณการขั้นต่ำ เพราะเราใช้เวลาน้อยกว่า และใช้น้ำน้อยกว่ามาก )
อย่าลืมสารพิษน้อยกว่า สารอาหารมากกว่า ด้วย เพราะการนึ่งไม่ทำให้สารอาหารหลุดลอยไปกับน้ำต้ม
ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของเพื่อนร่วมชาติ เราเอาิวิธีการนึุ่่่งนี้ ไปเสนอแจกฟรีให้หน่วยงานราชการไทยที่ทำหน้าที่พิทักษ์รักษ์สุขภาพคนไทย ปรากฎว่าไม่มีใครสนใจ แม้แต่จะตอบรับว่าได้รับแล้ว
บางหน่วยผบ.สูงสุดระดับ c10-11 นัดกันไว้แล้วว่าจะให้เราเข้าไปนำเสนอ (ค่ารถ น้ำม้ัน เสี่ยงภัยจราจร เวลา เราออกเองหมด) จู่ๆ ก็มาขอเลื่อนนัด สองครั้งติดกัน เราเลยบอกลา ไม่ขอไปนำเสนอแล้ว เพราะเราไม่ใช่หมูหมานะ สมองของชาติ ที่รักชาติอีกตะหากนะเฟ้ย ที่ทำทั้งหมดนี้เพราะเป็นห่วงสุขภาพเพื่อนร่วมชาิติ เงินไม่ได้สักหลึง แุถมจ่ายออกไปหลาย ทั้งเิงิน เวลา อารมณ์
...คถท. (พค. ๒๕๕๕)