สถานที่ : วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์
ในพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
กรมหลวงสงขลานครินทร์ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
ถ่ายภาพ :
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
วันเวลา
: ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕
- ขอบคุณมาก... สำหรับข้อมูลดีๆๆ เช่นนี้ นะคะ
เพิ่งได้ไปชมมาเป็นครั้งแรกครับ ไม่เคยทราบและไม่เคยเห็นเลยเหมือนกันครับ แต่เห็นป้ายชื่อวัดตามข้างทางถนนกลับบ้านที่หนองบัวนครสวรรค์ พอดีได้กลับไปบวชหลานและขอรบกวนให้น้องที่เคยทำงานด้วยกัน เขาจะกลับไปเยี่ยมแม่และญาติพี่น้องทางเดียวกันกับที่ผมจะไปงานบวชหลาน เลยรบกวนขอให้เขาไปส่งและขอพาแวะชมไปด้วยกันแทนการขอบคุณ วัดนี้ก่อสร้างบนภูเขาครับ นานๆเดินขึ้นเขาและหลายแห่งก็เป็นบันไดชันมาก สลับกับโดนแดดและอากาศก็อบอ้าวสุดขีด ก็เกือบจะถอดใจที่จะไม่ขึ้นไปให้ถึงศาสนสถานที่อยู่ยอดบนสุดเสียแล้วละครับ พอไปถึงและได้สัมผัสองค์ประกอบทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเห็นระบบคิดที่จัดวางไปบนสภาพแวดล้อมในธรรมชาติได้เป็นอย่างดีหลายเรื่องครับ ไม่สวยครับ การสร้างก็หยาบ ขาดความลงตัวและความละเอียดพิถีพิถัน แต่แนวคิดและการจัดวางองค์ประกอบความเชื่อมโยงต่างๆนี่ดีครับ สามารถสัมผัสระบบวิธีคิดต่างๆในอีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญ ที่มีต่อสังคมไทย สังคมโลก และสรรพสิ่ง ได้
ขอบคุณครับคุณแสงแห่งความดี
อ๊ะ จะต้องมีความหมายที่อธิบายได้ด้วยรึ !!!?? ต้องมีความหมายอย่างไรดีล่ะ ? ไม่ได้ต้องการให้มีความหมายน่ะสิครับ ได้แต่ต้องการทำรูปประจำตัวเสียใหม่ เพราะหลังจากออกไปทำงานและดำเนินชีวิตที่ยังไม่มีสังกัดแล้ว ภาพที่ใช้อยู่แต่เดิมมันดูดีไปหน่อยน่ะสิ อีกทั้งเป็นภาพที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มเขียนบล๊อกใน Gotoknow นี้ในช่วงที่เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนนี้จะยังใช้อย่างเดิมอยู่ก็คงไม่เหมาะ(กระมัง)
แต่ครั้นจะเปลี่ยน ไปเป็นรูปที่มันต่างไปจากเดิมมาก ในทางการทำสื่อและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ สำหรับการทำงานแบบค่อยๆทำอย่างสั่งสมนี่ ก็มีหลักให้คิดว่าไม่ควร เพราะจะทำให้คนที่เขาติดตามอ่านหรือคนที่เคยรู้จักหาไม่เห็น เลยทำให้พอมีลักษณะโดยรวมๆได้อารมณ์และบุคลิกของภาพที่ใช้แต่เดิม พอปรากฏขึ้นหน้าจอรวมๆกับข้อมูลมากมายบนจอ คนอ่านก็จะสะดวกที่เห็นแล้วก็พอจะจำได้
พอคิดอย่างนี้แล้วก็ใช้ เม้าส์ลากแบบไม่ต้องมีรูปทรง ลากไปเรื่อย แค่สู้กับการเมื่อยมือและกำกับทิศทางไม่ได้นี่ก็แย่แล้ว จะไปทำให้ได้ความหมายระดับการอธิบายเอาอย่างเขียนหนังสือนี่ถ้าจะไม่ไหวล่ะ ครับ ซึ่งในทางศิลปะก็เรียกว่าทำเพียงให้เกิดโครงสี แสงเงา ลีลาความเคลื่อนไหว และอารมณ์ภาพที่สื่อสะท้อนอารมณ์กับตัวตนคนทำให้สัมผัสได้แบบรวมๆ แต่ไม่รู้ว่าสื่อได้อย่างไรนี่ ก็อยู่ที่คนอื่นที่เขาชมและให้ความหมายเอาเอง ในแง่นี้ หากมองอย่างศิลปะ เขาก็จะให้ความเป็นตัวของตัวเองของทุกคน ที่คนเขาอยากจะดูและก็สามารถคิดให้ความหมายไปตามความชอบของเขาได้น่ะสิครับ
สวัสดีค่ะพี่ชาย
สวัสดีครับคุณครูนก จุฑารัตน์
ตอนที่พี่เห็นครูนกอยู่ในรถขณะขับถึงบ้านที่จัดงานบวชลูกน้องสาวพี่และเป็นเพื่อนครูนกนั้น
แว๊บแรกก็นึกอยู่นะครับว่าคลับคล้ายคลับคราครูนก
แล้วก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเป็นไปได้
เพราะเพื่อนๆของน้องพากันมาร่วมงานหลายคน
มีครอบครัวเพื่อนของน้องบางครอบครัวมาจากโน่น นครปฐม
เห็นกันหลายงานแล้ว และคุณครูนกเองนี่ก็ไปจากกำแพงเพชรเลยเชียว
เดินทางกัน ๓-๔ ร้อยกิโลเมตรเพื่อไปงานของเพื่อนๆด้วยกันนี่
เห็นแล้วก็น่าประทับใจดีครับ พี่สบายดีครับ
หากมีโอกาสผ่านไปทางเชียงใหม่
ทั้งพาเด็กๆและทีมทำงานไปหรือไปกับครอบครัว ก็แวะไปแอ่วกันบ้างนะครับ
มีความสุขเสมอๆเด้อ
ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาชมและให้กำลังใจครับ
คุณแสงแห่งความดี ดร.Somsri
ท่าน
sr บังวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- และกราบนมัสการขอบพระคุณพระคุณเจ้า
พระมหาแล อาสโย ขำสุข ด้วยความเคารพยิ่งครับ