การดำเนินชีวิตของแต่ละครอบครัว เจาะไปที่การใช้จ่าย ดู ๆ แล้ว ก็น่าจะไม่มีอะไรต่างกัน แต่ลึก ๆ ลงไป ก็มีอะไรที่น่าสนใจ ผมเคยถามเพื่อนๆ ว่า เขาใช้เงินร่วมกับภรรยาอย่างไร โดยผมเล่าของผมก่อนว่าผมอยู่กันอย่างนี้ มีเงินจ่ายรายวันอย่างน้อย ๆ ก็สองสามพันเพราะภรรยาเอาไปซุกไว้ให้ จ่ายไป จ่ายไป บางวันจ่ายหมดไปภรรยาไม่ได้ทันที่จะซุกให้ ก็บอกภรรยา บางครั้งภรรยาก็บอกว่าหมดเหมือนกัน แล้วตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นคนไปถอนเงินจากธนาคารมาใช้ บางครั้งก็ผม บางครั้งก็ภรรยา ได้มาแล้วก็แบ่งกัน ใครหมดกระเป๋าก่อน ก็ขอกัน ไม่มีกฎเกณฑ์การใช้จ่าย ไม่เคยทำบัญชีครัวเรือน เมื่อไรรู้สึกว่าเงินเหลือจ่าย จากที่สำรองไว้คราจำเป็นบ้าง ก็ซื้อหาข้าวของที่จำเป็น ไม่มีเครื่องประดับ ไม่มีตู้โชว์ ไม่เอาด้วยกับการซื้อของเงินผ่อน นอกจากรถยนต์ และบ้าน มีเงินเหลือเมื่อไร เป็นต้องพอกให้เจ้าหนี้จนหมด บัตรเครดิตไม่เอาด้วย ภรรยาใช้แต่บัตรเดบิต ตอนลูกกำลังเรียนก็ให้เป็นก้อน ๆ ไม่ได้มากมายอะไร สองร้อยสามร้อย พอลูกจ่ายหมดก็ให้ไปอีก หรือ มีอะไรพิเศษที่ต้องจ่ายก็ให้อีก
พอเล่าเพื่อน ๆ แล้ว ก็ได้รับคำตอบกลับมาในลักษณะที่เหมือน ใกล้เคียง และต่างกัน ในสิ่งที่ซื้อหาเข้าบ้าน หรือการซื้อการจ่ายที่เป็นรายละเอียด
มีอยู่คนหนึ่งที่ต่างกันออกไป เขาเล่าให้ฟังว่า พอสิ้นเดือนภรรยาจะต้องส่งเงินเดือนมาทั้งหมด แล้วเขาก็ทำหน้าที่แจกจ่ายให้ภรรยา และลูก และครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่น่ารัก อยู่กันด้วยดีทั้งสามีภรรยาและลูก
การใช้จ่ายของแต่ละครอบครัวจึงน่าจะมีรูปแบบของตัวเอง รูปแบบไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็น่าสนใจ แต่การที่จะบอกว่ารูปแบบไหนดีไม่ดีอย่างไร ก็น่าจะอยู่ที่ความไม่เดือนร้อนจากการใช้จ่าย จากรายได้ที่เป็นเงินเดือน
ครอบครัวผมเองนอกจากไม่เดือดร้อนแล้ว ไม่เครียดด้วย งานประจำจึงทำเต็มที่ คำว่ามีเวลาว่างอยู่สบาย ๆ ได้เงินเดือนฟรี ๆ ไม่มี ทำอย่างนี้จนเป็นนิสัยโดยไม่คิดรวยจากรายได้เสริมกันทั้งสองคน แม้จะมีช่องทางที่ทำได้ ก็ไม่เอาด้วย
ที่เขียนมานี้ก็อยากเชิญชวนให้ลองสอบถามเพื่อน ๆ ที่ใกล้ชิด หรือ ที่พอจะคุยกันได้ ที่อยู่กันด้วยดีมีความสุข แล้วจะเรียนรู้ว่าแต่ละครอบครัวเขามีวิธีการประจำบ้านว่าด้วยการใช้จ่ายในครอบครัว และมีการดำเนินชีวิตทั่ว ๆ ไป กันอย่างไร แล้วอาจนำเอาสิ่งดี ๆ ที่เพื่อน ๆ เขามี มาพัฒนาวิธีการใช้จ่ายของเราบ้าง ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งของการยกระดับคุณภาพการดำเนินชีวิตในครอบครัวให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
เรียนอาจารย์ ชัด......วันนี้วันแข็ง เป็นวันดีที่เป็นการมาบรรจบพบกัน
วันนี้ชวนคุยเรื่องครอบครัว
เรื่องค่าใช้จ่าย น่าจะมีหลายวิธี
ผมภรรยาทำงานบ้านมีกิจการจากสวน เป็นของส่วนตัว เงินจากการทำงานหลวง หมื่นครึ่งจึงเป็นเป็นเรื่องของผม
บางเรื่องที่อยากมีหน้า ก็ยังต้องมีหนี้ ประมาณว่า "กู้ฉุกเฉินไปจ่ายสามัญ พอจ่ายไม่ทันก็กู้สามัญมาจา่่ยฉุกเฉิน พอจ่ายเพลินเพลินก็กู้ฉุกเฉินมาจ่ายสามัญ"
เพราะฉะนั้นเวลาไปประชุมสัมมนา หรือไปทำกิจกรรมอาสา ผมต้องพึ่งงบประมาณจาก ...มอ.
ครับ...ท่านวอญ่า มีหลายวิธีแล้วแต่ว่าใครจะทำงานอะไร ทั้งเป็นมนุษย์เดือน และทำงานส่วนตัว ผมลองยกประเภทเงินเดือนมาตั้ง เป็นแนว ให้ดูก่อนว่า ผมทำอย่างไรครับ
ท่านพูดถึงเงินกู้สหกรณ์ 555 มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมมีชื่อในบัญชีลูกหนี้ของสหกรณ์ ทุกเดือน เมียบอกแล้วว่าอย่าสมัคร ๆ ก็ไม่ฟัง พอต้นเดือนขึ้นมา พวกเด็ก ๆ ที่ทำงานด้วยเข้ามาหา "อาจารย์ครับ เดือนนี้ ผมแย่ ขอฉุกเฉินก็ไม่ได้แล้ว ขอใช้ชื่ออาจารย์ได้ไหมครับ" เด็ก ทีเราเคยคุย เคยใช้เขา เมื่อเขาเดือดร้อนก็ต้องช่วย เราจึงพลอยเป็นหนี้ ทั้ง ๆ เมียบอกแล้ว ระวังนะจะใจอ่อนหากใครมาให้ค้ำประกันหนี้เงืนกู้สหกรณ์ หลังจากนั้นจึงเลิกการเป็นสมาชิกสหกรณ์ อย่างถาวรมาเลยครับ การค้ำหนี้เงินกู้สหกรณ์ นี้ เป็นหนี้หัวโต เพราะเพื่อนเราเผาเรือน มามากต่อมากแล้วใช่ไหมครับ ตอนขอให้ค้ำนี่สุดแสนจะดี ชักหน้าไม่ถึงหลังเมื่อไร ใครก็อาจกลายเป็นคนโกงได้