"หนุ่มเมืองจันท์" ได้เล่าไว้ในหนังสือ "ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่" ในตอน "คิดในมุมใหม่" เกี่ยวกับ ความคิดที่นอกเหนือจากสิ่งที่ตาเห็น
ผมขอยกตอนสั้น ๆ มาบางส่วน ...
วันหนึ่ง ผมได้รับบทความแปลสั้น ๆ ชิ้นหนึ่งจาก "ตี้" ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ
เป็นเรื่องดี ๆ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
เขาเริ่มต้นเรื่องว่า "หลายครั้งในชีวิต...ไม่ใช่ใครอื่นหรือเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมหรอกที่ทำให้ชีวิตคุณดูเหมือนไร้ทางออก หากเป็นทัศนคติของคุณเองต่างหากที่เป็นตัวการใหญ่"
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งในประเทศกานาครับ
วันหนึ่งในวิชาภาษาอังกฤษ ครูยกกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่ขึ้นมา
กระดาษแผ่นนี้มีจุดสีดำเล็ก ๆ อยู่จุดหนึ่งที่มุมล่างด้านขวาของกระดาษ
"เด็ก ๆ พวกเธอมองเห็นอะไรบ้าง" ครูชี้ไปที่กระดาษ
"จุดสีดำ" พวกเด็กตะโกนตอบพร้อมกัน
คุณครูยิ้ม นิ่งไปสักครู่หนึ่งก่อนตั้งคำถาม
"ทำไมไม่มีใครสักคนเห็นสีขาวของกระดาษ"
เธอตั้งคำถาม "พวกเธอมองเห็นแต่เพียงจุดสีดำเล็ก ๆ"
แล้วคุณครูก็สอนมุมมองใหม่ให้กับนักเรียน
"นี่คือ สิ่งที่แย่มากของธรรมชาติมนุษย์ ไม่มีใครมองเห็นด้านดีและภาพในมุมกว้างของสิ่งต่าง ๆ เลย ขอให้พวกเธออย่าใช้ชีวิตที่เหลือกับทัศนคติแบบนี้เป็นอันขาด"
นี่คือ บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบทหนึ่งของเด็กชายคนนี้
เป็นบทเรียนจาก "กระดาษสีขาว" และ "จุดสีดำ"
มันดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่มันทำให้มุมมองของเด็กชายคนหนึ่งต่อโลกใบเดิมเปลี่ยนไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง
ครับ เด็กชายคนนี้ชื่อ "โคฟี่ อานัน" (อดีต) เลขาธิการสหประชาชาติคนที่ผ่านมา
.....................................................................................................................................................................
๑. "เลือกมองด้านดีที่เขามีอยู่" ดั่งคำที่ท่านพุทธทาสได้สอนเอาไว้ในบทกลอนธรรม ส่วนสิ่งที่ชั่วของเรา เราอย่าไปรู้ของเขาเลย ;)...
๒. เหมือนเรื่อง "อิฐสองก้อน" ไหมครับ ที่หลวงพ่อท่านหนึ่งได้ก่ออิฐกำแพงวัดขึ้นมา แต่ปรากฎว่า มีอิฐอยู่สองก้อนที่เอียง ไม่ได้รูป หลวงพ่อท่านนั้นก็รู้สึกอาย ไม่กล้าพาใครมาชมกำแพง จนกระทั่งมีญาติโยมท่านหนึ่งมาดูแล้วบอกท่านว่า อิฐที่เหลือ ๙๙๘ ก้อนดีและสวยงามมากครับท่าน ส่วนสองก้อนนั้น ผมมิได้มองเลย ทำให้หลวงพ่อท่านหนึ่งดวงตาเห็นธรรมว่า ไยจึงไม่มองอิฐก้อนดี ๆ ที่เหลือตั้งเยอะล่ะ
๓. "ครูไทย" ควรขวนขวายหาเรื่องน่าคิดดี ๆ แบบนี้มาสอนเด็กไทย เหมือน "ครูกานา" ท่านนี้บ้าง ??? (ใช่ไหมเนี่ย ;)...
บุญรักษา หาความคิดกันทุกท่านครับ ;)...
.....................................................................................................................................................................
หนุ่มเมืองจันท์ (นามแฝง). ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่. พิมพ์ครั้งที่ ๑๒. กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๔.
.....................................................................................................................................................................
ขอบคุณค่ะ จุดดำเป็นพื้นขาว หรือ จุดขาวบนพื้นดำ
..
เคยได้ยินเรื่อง นักรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ได้รับการยกย่อง ท่านหนึ่ง
ได้รับการวินิจฉัยเป็น "Dyslexia" เขียนอะไรแล้วมักสะกดผิด (สงสัยตัวเองก็จะเป็นหน่อยๆ :-)
แต่เขาปรับตัวให้"จุดดำ" กลายเป็น จุดดี
เขากล่าวว่า เพราะข้าพเจ้ากลัวเสมอว่าตนจะสะกดผิด
สาธารณชนกลับมาองว่า เขาใช้คำง่ายๆ สั้นๆ แต่สื่อความคิดอย่างมีพลัง
ส่วนใหญ่ก็จะมองเพียงจุดเล็กๆ :)
สวัสดียามสายค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn,
คมมาก ได้ใจเหมือนเดิมค่ะ
ความคาดหวังของตัวเองเท่าที่สังเกตคือพื้นสีขาวนั้นคือความเป็นปกติ เป็นเหมือนสิ่งที่มันควรจะเป็น เหมือนวันที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด คิดว่านี่แหละชีวิตฉันค่ะ แต่วันไหนรู้สึกไม่สบาย จุดสีดำปรากฎขนาดใหญ่ขึ้นจนพื้นที่สีขาวนั้นไม่มีเหลืออีก เพราะจุดสีดำคือสิ่งที่คิดว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นกับฉัน
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ ในเช้าวันจันทร์ให้ได้คิดว่าไม่ว่าขาวหรือดำก็เกิดขึ้นได้เสมอกับชีวิตธรรมดาๆ ชีวิตนี้ค่ะ
ขอให้วันนี้ของอาจารย์มีสีความสุขกับทั้งสองสีที่อาจมีขึ้นในวันนี้ค่ะ
สวัสดีเช้าวันหยุดค่ะอาจารย์เสือ
เคยได้ยินเรื่องจุดสีดำบนกระดาษขาว และอิฐสองก้อนมาแล้วค่ะ เป็นอีกมุมมองความคิดที่น่าสนใจจริงๆ
ตอนที่อ่านพบ ดาวตอบเหมือนครูตุ๊กแกเลยค่ะ ว่าเห็นจุดดำบนพื้นขาว 555
โดยส่วนตัวแล้ว ดาวมองว่า เพราะมีพื้นขาว เราจึงเห็นจุดดำ เพราะมีอิฐที่เป็นระเบียบ เราจึงมองเห็นอิฐที่เอียงได้เด่นชัด...ในทางกลับกัน หากเป็นจุดขาวบนกระดาษสีดำ นักเรียนคงจะตอบว่าเห็นจุดสีขาวเป็นแน่เท้...^v^
ทุกสิ่งล้วนมีความหมายในสิ่งที่มันเป็นอยู่
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆ นะคะ
สวัสดีครับท่านอาจารย์
ผมเคยอ่านองค์ความรู้นี้ในหนังสือท่านอาจารย์ อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ครับ ผมยังนำมาบูรณาการในการสอนของผมด้วย เกี่ยวกับเรื่อง "มุมมองของมนุษย์ที่เราควรมีให้แก่กัน" คนเรามักมองเพียงแค่จุดสีดำของคนอื่น เพราะเป็นความคุ้นเคยจนชิน สิ่งใดแม้เพียงเล็กน้อยที่เขาทำเราก็อาจรีบด่วนสรุปตัดสินในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ว่าไม่ดี (คือจุดดำ) ทั้งที่ความดีงามในชีวิตของเขาที่สะสมมาเปรียบเสมือนพื้นที่สีขาวที่มีอยู่มากมาย ที่แน่ๆก็คือ มากกว่าพื้นที่สีดำแน่นอน เราก็ไม่พยายามไปรับรู้กัน ผมนำเรื่องนี้ไปแนะนำพวกหัวหน้างาน ให้เลิกใช้พฤติกรรม"จับผิด"ลูกน้องกันได้แล้ว เปลี่ยนมา"จับถูก"น่าจะดีกว่าไหม? หัวหน้าควรเป็นตัวเซ็นเซอร์ (ในรถยนต์) ตรวจความถูกต้อง ลูกน้องทำดีลงไปค้นไปหา ยกย่องเชิดชูเขา คนทำดีเขาจะมีกำลังใจ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆด้วย ไม่ใช่คอยแต่จะหาจุดดำ (ความบกพร่องผิดพลาด) แล้วนำมาประจานกัน ผมมองว่ามันไม่สร้างสรรค์ แต่ผมก็ไม่ได้ต่อว่านะครับ เพราะผมเข้าใจว่าพวกเขาถูกบ่มเพาะมาเช่นนี้เหมือนกันครับในอดีต สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมอยากจะบอกกับทุกๆองค์กรว่า "คุณบ่มเพาะคนไว้เช่นใด คุณก็จะได้รับผลกรรมเช่นนั้น"
ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากนะครับ ทีทำให้ผมทราบถึงที่มาที่ไปของ "กระดาษสีขาว กับ จุดสีดำ"
ใช่แล้วคุณหมอบางเวลา ป. ;)...
หากเราพลิก "จุดดำ" เป็น "จุดดี" จุดนั้นตอนนี้เขาเรียกว่า "เอกลักษณ์" หรือ "อัตลักษณ์" ไงครับ ;)...
ขอบคุณข้อแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาก ๆ ครับ ;)...
เราสามารถมองได้ทุกแง่มุมครับ พี่พยาบาล สีตะวัน ;)...
เพียงแต่เลือกมุมที่มีประโยชน์ที่สุด ณ สถานการณ์นั้น ๆ
อากาศเช้านี้ เชียงใหม่หนาวจัดมากครับ ไม่อยากลุกออกจากผ้าห่มเลย
ขอบคุณมากครับ ;)...
ส่วนใหญ่ก็มองจุด "สีดำ" ด้วยอาจมาจากหลักจิตวิทยาก็ได้ครับ พี่ หนูรี มองเห็นสีเข้มบนพื้นสีอ่อน ;)...
ขอบคุณมากครับพี่ ;)...
Good Afternoon ครับ อาจารย์ ...ปริม ทัดบุปผา... ;)...
ตัวอย่างที่อาจารย์ได้ยกมาเรื่อง "การเจ็บป่วย" หรือ "ความทุกข์" คือ เป้าหมายของการเล่าเรื่องนี้จริง ๆ ครับ
เวลาเราทุกข์ใจ ความทุกข์นั้นจะใหญ่เสมอ
แต่หากเรามองให้เห็นว่าเป็นจริง เดี๋ยวก็หายได้ ความทุกข์นั้นก็จะเล็กลง
ขอบคุณข้อแลกเปลี่ยนของอาจารย์มาก ๆ นะครับ
สบายดีนะครับ ;)...
สวัสดีครับ คุณหมอดาว blue_star ;)...
หยุดทำงานเหมือนกันหรือครับ วันนี้
เป็นหลักการออกแบบน่ะครับ ว่า เราจะใช้ตัวหนังสือสีอ่อนบนพื้นที่เข้ม หรือ ตัวหนังสือสีเข้มบนพื้นสีอ่อน
มันทำให้ผู้ที่เราต้องการสื่อสารออกไป อ่านได้ชัดเจนมากขึ้นครับ
แต่ในแง่นี้ ... เขาคงอยากบอกพวกเราว่า หากจุดดำมีความสำคัญน้อยกว่า ไยจึงไม่มองมาที่พื้นสีขาวส่วนใหญ่ล่ะ
เป็นบันทึกหาแง่และมุมมองของทุกคนน่ะครับ
ชอบมากเลย
ขอบคุณนะครับ ;)...
สวัสดีเช่นกันครับ ท่านอาจารย์ ธนากรณ์ ใจสมานมิตร ;)...
การแลกเปลี่ยนของอาจารย์ ตรงเป้าหมายของเรื่องราวเรื่องนี้เป๊ะ ! ครับ เขาต้องการบอกเราเช่นกันจริง ๆ
"มุมมองที่มนุษย์ควรมีให้แก่กัน"
ขอบคุณมากครับ ;)...
ขอยืมไปสอนมั่งนะคะ...
และก็ขอยืมไปให้สมาชิกอ่านกันมั่งท่าจะดี...
น่าจะได้มุมมองใหม่ๆ...^_^
สวัสดีค่ะ
เขาว่ากันไว้ว่า ......
.ธรรมชาติของมนุษย์พยายามมองหาจุดด้อยของทุกๆอย่าง..ยกเว้นตัวเอง..
กิ่งไผ่ฯว่า..จริงแท้แน่เชียว
ได้สิครับ น้องคุณครู เทียนน้อย ;)...
เราจะได้หลากหลายมุมมองเลยล่ะครับ หนูลองเอาไปใช้แล้วเอามาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
"สมาชิก" ที่ว่านี่คือ สมาชิกครูผู้อาวุโส ใช่ไหมครับ ;)...
ขอบคุณมากครับ
เช่นนั้นแล ครับ คุณ กิ่งไผ่ใบหลิว ;)...
หากมนุษย์ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นกว่าปกติได้ เราจะมีมุมมองดี ๆ เกิดใหม่อย่างแน่นอนครับ
ขอบคุณมากครับ ;)...
มองอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น
.เพิ่งดู ปายอินเลิฟ จบ นึกถึงอ. เสาเรือ เลย :)
อืมม ว่าแต่เพื่อนสนิทอ. หายเงียบไปเลยเนาะ
นั่นมัน The Classic ไปแล้วครับ คุณ Poo ;)...
ความสุขนั้นอยู่ที่ทัศนะการมองโลก และมองใจของตนเองครับ
ขอบคุณเรื่องราวจากหนังสือที่ละเมียดละไมอยู่เสมอครับ
ขอบคุณมากครับ คุณ พ่อน้องซอมพอ ;)...