สุขสุดท้ายที่ปลายทาง


เมื่อวานมีโอกาสได้ไปส่งคนไข้ในโปรเเกรมของทีมกลับบ้าน รับปากคนไข้ว่าจะไปส่งเเต่ไม่คิดว่าจะเป็นการส่งครั้งสุดท้าย วันก่อนเราวางเเผนร่วมกันในทีมว่า case นี้จะกลับไปดูแลต่อที่บ้านเเละคนไข้คงจะพอมีเวลาอีกหลายวัน เช้าตรู่   ภรรยาของคนไข้โทรหาเเละเเจ้งว่าจะเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้านจากบ้านในเมืองขอนเเก่นกลับเขื่อนอุบลรัตน์  "พ่ออาการบ่ดีเเล้วกุ้ง เอิ้นบ่ตื่นตั้งเเต่เมื่อคืนสามทุ่ม" นี่คือคำบอกเล่าผ่านสายโทรศัพท์ "แกบอกเเม่ไว้ว่าถ้าจะตายขอไปตายบ้านที่เขื่อนอุบลรัตน์ 

            ระหว่างการ conference ก่อนทำงาน ฉันได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลหอผู้ป่วย AE3 ว่าคนไข้ความดันตกเเล้ว เเละประสานรถจะขอกลับบ้านด่วน ฉันบอกให้รอทีมเราก่อนเราจะลงไป drip ยา morphine ให้คนไข้ระหว่างเดินทาง พูดจบฉันกับอาจารย์หมอศรีเวียงรีบวิ่งลงมาเจอคนไข้  ไม่ทันเเล้ว คนไข้ถูกยกขึ้นรถเรียบร้อย ลมหายใจเริ่มเเผ่วๆ เเต่ไม่มีอาการทุรนทุรายให้เห็น  อาจารย์วิ่งขึ้นรถไปดูคนไข้ก่อน ส่วนฉันยืนปลอบใจลูกชายลูกสาวที่อยู่ในอาการเศร้าโศก ยืนร้องไห้เพราะสงสารพ่อ  หลังตรวจคนไข้ อาจารย์ลงมาจากรถ EMS พร้อมส่งสายตาเเละหันมาบอกฉัน '' ไปเหอะกุ้งไปส่งคนไข้ หมอให้ไป คงไม่ต้องให้ยาเพราะคนไข้ไม่รู้ตัวเเล้ว"  ฉันกระโดดขึ้นรถไปนั่งข้างๆ ภรรยาคนไข้ที่ฉันเรียกเเกว่า  เเม่ทอง พร้อมบอกคนไข้ว่า " พ่อกุ้งจะพาพ่อกลับบ้านเด้อรถค่อยๆเเล่นออกจากขอนเเก่นมุ่งหน้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์  ทันทีที่ล้อหมุนฉันรีบโทรเเจ้งประสานทีมการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่เขื่อนอุบลรัตน์อีกครั้ง หลังจากเเจ้งไปเเล้วในช่วงเช้า ซึ่งอุบลรัตน์ถือเป็นเครือข่ายที่เข้มเเข็งของเรา ทางอุบลรัตน์ตอบรับด้วยความยินดีว่าจะมารอรับคนไข้กับเรา

        ระหว่างรถเเล่น ฉันนั่งมองเเม่ทองกอดสามีแกไว้แน่น พร้อมกับพร่ำรำพันต่างๆนานา เฒ่าข้อยสิพาเจ้ากลับบ้านเฮาเด้อ เฮ็ดใจเเข็งไว้เด้อ ฮอดเฮือนเฮา ฮอดเฮือนเฮา" เเต่ขณะพูดเเกไม่มีน้ำตาเเม้สักหยด ตลอดเวลาที่ดูคนไข้ฉันเห็นถึงความเข้มแข็งและความสามารถในการเผชิญสิ่งต่างๆ และเห็นถึงความรักความผูกพันที่มีให้กันที่แม่ทองบอกกับ เราว่าอยู่กันมา สี่สิบปี  ฉันเองก็ชวนเเม่คุยสลับไปมา ก่อนจะถึงทางเลี้ยวเข้าเขื่อนฉันสังเกตว่า chest คนไข้ไม่ move เเละลองคลำชีพจรดูเเละบอกตัวเองว่าคนไข้คงจะไปเเล้ว ฉันพยายามบอกเเม่ทอง เเต่แกไม่พยายามที่จะฟังในสิ่งที่ฉันพูด จึงคิดในใจว่า ความตั้งใจอยากให้สามีกลับถึงบ้านก็ต้องถึงบ้าน เเต่ด้วยความที่ครอบครัวเเละคนไข้เองได้เตรียมพร้อมมาระดับหนึ่งเเล้ว เเม่ทองคงได้ยินที่ฉันบอก เเต่เเกล้งไม่ได้ยิน กระมัง

       ในช่วงเเรกที่เข้ามาดูแล ( 11/พ.ย.54) เเละทราบว่าทุกคนเตรียมตัวเเล้วจึงได้เเนะนำเรื่องการเขียนเอกสาร living will เพื่อเเสดงเจตนาไม่รับการบริการทางสาธาณสุขที่ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานในระยะสุดท้าย เเละเอกสารเรียบร้อยดีเเล้ว   รถเเล่นไปถึงหมู่บ้านใกล้ทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา เเละที่สำคัญคือของคนไข้ เเม่ทองกระซิบข้างหูคนไข้ว่า "ฮอดบ้านเฮาเเล้วเด้อเฒ่า ฮอดบ้านเฮาแล้ว" ร่างของคนไข้ถูกเคลื่อนย้ายลงจากรถและวางลงในที่นอนที่เตรียมไว้ ฉันคลำชีพจรดูอีกครั้ง และทีมจากอุบลรัตน์มาถึงพอดี จึงช่วยกันยืนยันให้ครอบครัวทราบว่าคนไข้ได้จากไปแล้ว พูดจบแม่ทองปล่อยโฮเสียงดัง เจ้าบ่ต้องห่วงข้อยเด้อข้อยอยู่ได้ นี่คือประโยคแรกที่แม่ทองเอ่ยขึ้นปนกับเสียงสะอื้น ตั้งสติได้แกก็รีบไปหาชุดปกติขาวติดยศดาบตำรวจที่คนไข้ได้เตรียมไว้สำหรับตัวเองใส่ พลันชี้ให้ดูภาพถ่ายรูปข้าราชการเต็มยศ ที่คนไข้เตรียมไว้ตั้งหน้าศพตัวเองเรียบร้อย

        พวกเราช่วยกันใส่ชุดช่วยกันคนละไม้ละมือจนเสร็จ ฉันเห็นหน้าคนไข้ซีดๆเลยเลยรีบไปทาแป้งให้ดูพองาม เป็นครั้งแรกที่ได้เรียนรู้และทราบว่า ถ้าคนตายใส่โลงเย็น ไม่ต้องฉีดยาฟอร์มาลีน เมื่อทีมพยาบาลจากอุบลรัตน์แนะนำครอบครัว ซึ่งถือว่าเขาคงมีประสบการณ์ในการดูคนไข้ที่เสียชีวิตที่บ้านมากกว่าเรา  ฉันอยู่เป็นเพื่อนครอบครัวสักพักจึงขอตัวกลับก่อนกลับฉันเข้าไปกอดแม่ทองเพื่อส่งกำลังใจให้พร้อมกับพูดว่า “คนเก่ง กุ้งนับถือและชื่นชมในความเข้มแข็งของแม่ทอง เยี่ยมมาก ให้กำลังใจแม่เด้อ” “ขอบคุณกุ้งหลายๆเด้อลูก ฝากขอบคุณอาจารย์ศรีเวียงนำ” ค่ะกุ้งสิบอกอาจารย์ให้

  งานวันนี้เป็นส่วนเสี้ยวของงาน palliative care ของทีมหน่วยการุณรักษ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เเต่ละวันเราต่างก็ได้กุศลจากการได้ช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้ เเละบ่อยครั้งที่เราได้เห็นสุขสุดท้ายของคนใกล้ตาย เเละนี่เป็นหนึ่งสุขของคนไข้ที่ได้กลับไปเสียชีวิตที่บ้าน เชื่อว่าเขาสุขเเล้ว สุขสุดท้ายที่ปลายทาง  ณ บ้านที่เคยอยู่ บ้านที่เขารัก

    

 

             

คำสำคัญ (Tags): #palliative care kku
หมายเลขบันทึก: 470185เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2011 20:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 23:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

น้องกุ้งนาง ....สุดท้ายที่ปลายทาง อ่านตอนดึกๆ ไม่นึกกลัว แต่มีความตีบตันในลำคอไปกับน้องกุ้งด้วย

ค่ะลุงวอญ่า เเบบว่าเป็นปิติใช่มั๊ยคะ อิ่มบุญไปด้วยกันนะคะ

น้องกุ้งนาง ไม่ได้เข้าไปฟังวันที่น้องนำเสนอ เพราะติดอยู่อีกห้องหนึ่ง

แบบรักพี่เสียดายน้อง เข้าไปแล้วต้องฟังจนจบ

วันที่15 หันไปเห็นแล้วกะว่าจะเข้าไปทักตอนเสร็จเวที แต่พอหันไปอีกที ไม่อยู่เสียแล้ว

ไม่เป็นไรค่ะลุง ไม่ว่ากันค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปด้วยค่ะ

สุขสุดท้ายที่ปลายทาง ให้ความหมาย ให้ความประทับใจ

ของการเกิด แก่ เจ็บ ตาย

เขาตายให้ดูเป็นตัวอย่างกันทุกวัน  

ยังไม่ค่อยอยากจะดูกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท