เห็นแล้วน้ำลายหยดติ๋งๆ เลยครับ
น่ากินมากๆ
แต่เสียดายที่เชียงใหม่คงไม่มีขาย
น่ารับประทานเชียงครับ
มาหาของหวานหลังอาหารค่ำ ลดความอ้วนสักนิด
มาเยี่ยมเยือนพร้อมภาพสวยงาม
ขอบคุณคุณบีเวอร์ค่ะ
ขนมพื้นเมืองนั้นมีเสน่ห์ในตัวเองด้วยวัตถุดิบที่เป็นเอกลักษณ์ อร่อยมิใครเหมือน :)
ขอบคุณค่ะท่านอาจารย์โสภณ เปียสนิท
ชิมขนมที่หน้าบันทึกนี้รับรองไม่อ้วนค่ะ
ขอบคุณสำหรับภาพน่ารักๆนะคะ:)
ขอบคุณค่ะน้องมะปรางเปรี้ยว:)
คล้ายถ้วยฟูโบราณบ้านพี่
แหม พึ่งกินไปเมื่อวานนี่เองค่ะ อร่อยค่ะ
ขอบคุณอ.จันค่ะ
พี่หนูรีชอบขนมบ้านๆแบบนี้ค่ะ เหมือนเป็นเสน่ห์
ที่อยากค้นหาถึงที่ไปที่มา แล้วลองทำดูบ้าง:)
ขอบคุณค่ะพี่โอ๋ โอ๋-อโณ:)
เหมือนขนมญี่ปุ่นร้านยามาซากิ ชื่ออะไรสักอย่าง แต่โรยงาด้วย อร่อยครับชอบ ไม่เลี่ยนไม่ทันมาก
ถ้าไม่มีน้ำตาลโตนด.ทำไงดี
ใช้น้ำตาลปี๊บแทน.
ใส่ผงฟู.ด้าย?
อยากทาน.แต่ไม่มีน้ำตาลโตนด.
ใช้น้ำตาลปีบแทน
เติม ยีสต์แห้ง (ที่ทำขนมปัง)ได้ ดีกว่าผงฟู
โรยๆลงไปนิดๆแค่หยิบมือ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ
หาน้ำตาลโตนดมาใส่แล้วค่ะ
ทำไมนึ่งแล้วหน้าตาออกมา.เหมือนขนมน้ำดอกไม้
หน้าบุ๋ม.ต้องนึ่งนานเท่าไหร่ค๊ะ
สังเกตุน้ำตาลโตนดอย่างไร.หากเอาน้ำตาลมาใหม่ต้องทิ้งนาน?ค๊ะ
จึงเอามาทำขนมได้.ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำดีๆ.^^
เหมือนขนมน้ำดอกไม้ แสดงว่าน้ำตาลโตนดมีเชื้อยีสต์ในธรรมชาติอยู่น้อย
ที่ซื้อมานั้นมักเก็บไว้นานๆ (ด้วยเหตุไม่ได้ทำสักที) วางจนถุงพองมีฟองฟู
เทออกมาล้นถ้วยอย่างนี้
หากเป็นน้ำตาลโตนดใหม่จะไม่ค่อยขึ้น (เพราะเชื้อน้อยนั่นเอง เจอบ่อยค่ะ)
การแก้ปัญหา คือ เติมยีสต์แห้ง(ยีสต์ผงที่ใช้ทำขนมปังนั่นเลยค่ะ)ใส่แบบหยิบมือ(ประมาณ1/8 ชช.)แล้วโรยบนแป้งที่ผสมเสร็จ แล้วคนๆนิดหน่อยแล้วปิดฝาทิ้งไว้ ในที่อากาศร้อนๆ หรือจะนำออกวางตากแดดก็ได้ แป๊บเดียวก็ฟูฟ่องแล้วล่ะค่ะ
ลองดูนะคะ:)
การนึ่งขนม ต้องต้มน้ำให้เดือดพล่านก่อนจึง นึ่งขนมได้ จากนั้นก็จับเวลา
เวลานึ่ง...
ใช้ถ้วยตะไล ประมาณ 15 นาที
หากนึ่งในถาดก็ประมาณ 20-25 นาที
เวลาขึ้นอยู่นั้นขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใช้ด้วยนะคะ
ซึ่งจะบอกแน่นอนไม่ค่อยได้ ต้องใช้วิธีสังเกตุลักษณะขนมว่าสุกหรือไม่ด้วยนะค่ะ :)
สำหรับความรู้ จะได้นำไปใช้
แล้ว.จะแวะมาส่งข่าวนะค๊ะ.^^
ขอบคุณมากๆ..อีกครั้งค่ะ..
สวัสดีค่ะ อยากลองทำ แต่ดูสูตร แล้ว ที่คุณทดลองแป้ง150น้ำ225น้ำผึ้ง250 จากตำรับ แป้ง1.5ลิตร น้ำ1ลิตรน้ำผึ้ง1ลิตร คำนวนจากอะไรคะ
สวัสดีค่ะคุณ คุณอัมพวัน
การทำสูตรอาหารหรือขนมนั้น ก็ต้องมีเทียบสัดส่วนค่ะ
...
ตำรับเดิมแป้ง 1.5 ลิตร ต่อ น้ำ 1 ลิตร ต่อ น้ำตาลเหลว 1ลิตร
เทียบสัดส่วน ก็เท่ากับ ... 1.5 : 1.0 : 1.0 ( แป้ง: น้ำ : น้ำตาลเหลว)
สมมติ เราเริ่มต้นกำหนดสูตร ที่ ...
แล้ว ต้องมาดูต่อ ปรับสูตร ตวงเป็น สูตรน้ำหนัก เพื่อให้ได้สูตรมาตรฐาน (สูตรชั่ง สะดวกว่าสูตรตวง ตามคนทำถนัด)
ก็จะได้ ....สูตรที่สัดส่วนเป็นกรัมออกมา
จาก การเปรียบย้อนกลับ
1)แป้ง 1ถ้วย มีกี่กรัม คำตอบ = 100 กรัม หนึ่งถ้วยครึ่งจึงเท่ากับ 150 กรัม
2)น้ำเปล่า 1ถ้วย (ถ้วยตวงเมืองไทย)ส่วนใหญ่ = 225 กรัม
3)น้ำตาลเหลว ก็ต้องลองซื้อมาแล้วตวง ที่ 1ถ้วยตวง แล้วนำไปขึ้นตาชั่ง จากการทดลอง= 250 กรัม
โอเค ไหมค่ะ ...
.......
ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ ว่าคุณถาม ฉันเพื่ออะไร อยากจะลองว่าฉันมั่วเอาหรืออะไร ไม่เป็นไรหรอก ฉันอธิบายที่มาให้คุณเท่านี้
ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มันจะมีประโยชน์อย่างไรก็การอธิบายเรื่องราวเหล่านี้
ขอบคุณที่สอบถามที่มาที่ไปนะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะ คือสับสนเรื่องน้ำหนักของเหลวกะของแห้ง และเรื่องของมาตรตราวัดค่ะ ต้องขอบคุณสำหรับสูตรและความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการชั่งตวงด้วยค่ะ
ได้ลองทำหลายครั้งโดยยึดสูตรนี้เป็นหลักแล้วปรับปริมาณตามความรู้สึกนิดหน่อย.อร่อยมากๆเลยค่ะ
ขนมปำสูตรนี้ ทำให้อร่อยกันทั้งบ้านเลยล่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ ติดตามอ่านมานานอยุ่ค่ะ แต่ไม่เคยลองทำ อยากถามเป็นความรู้หน่อยนะค่ะ ถ้าไม่มีน้ำตาลตะโหนดเหลว ใช้น้ำตาลมะพร้าวของเพชรบุรีที่เป็นก้อนๆแทน ต้องใช้น้ำกับน้ำตาลในอัตราส่วนเท่าไรค่ะ คุณหนูรี ของคุณมากค่ะ