การแลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้ จุดดูงานที่สาม

การแลกเปลี่ยน ณ กลุ่มผู้ปลูกผักคลองพิไกร

การแลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้ จุดดูงานที่สาม ณ กลุ่มผู้ปลูกผัก ตำบลคลองพิไกร  อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร…………………………………….

ด้วยกองพัฒนาการเกษตรพื้นที่เฉพาะ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานการจัดการความรู้ (KM) ตามนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มีการดำเนินงานและขอดูงาน KM ที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเวลา ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๙-๑๑ สิงหาคม๒๕๔๙ เนื่องจากจังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดนำร่อง และมีความก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน นำทีมดูงานโดย นายสุรัตน์ สงวนทรัพย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานเกษตรชลประทานและพื้นที่เร่งรัด

                       

                          “แลกเปลี่ยน...เพื่อเรียนรู้” ครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดีจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร (คุณสายัณห์ และคุณวีรยุทธ)  ได้ให้คำปรึกษา คำแนะนำ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ได้นำคณะทำงานจาก กพฉ. ไปดูงานตามที่ต่างๆ เช่น กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชน บ้านหนองกอง ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง กลุ่มเกษตรธรรมชาติ บ้านนาป่าแดง ตำบลคุยบ้านโอง อำเภอพรานกระต่าย และกลุ่มผู้ปลูกผัก ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จากการดูงานกลุ่มผู้ปลูกผัก ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย โดยมีคุณเสนาะ    ยิ้มสบาย นักส่งเสริมการเกษตร จากอำเภอพรานกระต่าย เป็นผู้ต้อนรับ และเป็นวิทยากรหลักในการนำเสนอข้อมูล ร่วมด้วยคุณลุงใส คุณสำเนียง หมู่ 6 ที่ได้ให้ความรู้แก่คณะทำงานในเรื่องพืชผักที่ปลูก เมื่อเราไปถึง ณ บริเวณนี้ ได้เห็นพืชผักนานาชนิด เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักชี้ ผักบุ้ง ฯลฯ และเมื่อตั้งเวทีเริ่มจากคุณเสนาะได้เล่าเรื่องความเป็นมาของกลุ่มพืชผักพอสังเขป ว่าภายในกลุ่มมีสมาชิกร่วมโครงการ จำนวน 120 ราย ซึ่งปลูกพืชผักกันหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นพืชผักกินใบ และแนะนำเจ้าของสวนผักเพื่อเล่าความเป็นมา โดยเริ่มจากคุณลุงใส ซึ่งก่อนจะมาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร นั้น ตนเองเป็นคนพื้นเพ จ.พิษณุโลก และมีอาชีพทำไร่เป็นหลัก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนพี่สาวปลูกผัก ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร จึงหันมาปลูกพืชผักเพราะพอมีความรู้จากพี่สาวมาบ้าง การเริ่มต้นเป็นอย่างไม่รู้เท่าไรนัก ลองผิดลองถูกมาเรื่อย   โดยทำด้วยตนเอง และได้เข้าร่วมกลุ่มผู้ปลูกพืชผักกับตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย เป็นการปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ซึ่งมีผู้ที่ขับเคลื่อนให้เกิดกลุ่มนี้ขึ้นได้แก่ ผอ.ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบล ซึ่งท่านจะฝังตนเองอยู่กับชาวบ้าน สอนขบวนการโรงเรียนเกษตรกร จัดตั้งกลุ่ม และเป็นครูสอนพิเศษให้แก่นักเรียนในวิชาเกษตร เพื่อให้รับรู้ และมีความรู้ในเรื่องเกษตรกับไปเพื่อช่วยเหลือทางครอบครัว การปลูกพืชผักของกลุ่ม จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1.       การปลูกพืชผักที่ใช้สารเคมี

2.       การปลูกพืชผักที่ใช้สารเคมีบ้างแต่อยู่ในขั้นปลอดภัย

3.       การปลูกพืชผักปลอดภัย หรือผักอินทรีย์

                                     คุณสำเนียง เป็นเกษตรกรอีกรายหนึ่งที่ได้หันมาปลูกพืชผัก ได้กล่าวว่า เช่าที่ดินแห่งนี้เพื่อปลูกผัก แต่ลักษณะดินเป็นดินทราย ซึ่งไม่สามารถปลูกพืชผักได้ ดังนั้น จึงใช้เศษหญ้า ฟางข้าว มาใส่แล้วไถกลบหน้าดิน แล้วทิ้งไว้ 20 วัน ทำซ้ำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น จึงทำการเพาะปลูกพืชผักซึ่งปัจจุบันนี้ได้ผลผลิตดี ซึ่งความรู้ต่างๆ ที่ได้มานั้น ผอ.ศูนย์ถ่ายทอดจะพาสมาชิกกลุ่มไปศึกษาดูงานกับบุคคลที่มีประสบการณ์ และประสบผลสำเร็จ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนากลุ่มของตนสิ่งที่กลุ่มผู้ปลูกพืชผักได้ปฏิบัตินั้นทำให้คณะดูงานได้แนวคิดที่จะนำมาปฏิบัติงาน ดังนี้

1.       การเป็นผู้นำในชุมชน

2.       การหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้กลุ่มพัฒนา

3.       การใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน

4.       การจัดองค์ความรู้ที่จำเป็นในการทำงาน

                                  จากการที่ได้เข้าร่วมกลุ่มในครั้งนี้ ทางคณะทำงาน KM ของ กพฉ. คิดว่าปัญหาที่มีความสำคัญอีกอย่างของกลุ่มผู้ปลูกผักนี้ ก็คือ การตลาด ราคาผัก พ่อค้าคนกลางจะเป็นคนเสนอราคาในการซื้อขายเอง จึงทำให้กลุ่มผู้ปลูกผักโดนกดราคา ทั้งที่ผักของกลุ่มมีคุณภาพมากกว่า ฉะนั้น รัฐบาลหรือหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องควรจะให้ความสนใจมากกว่านี้

............................................................    นงนุช แตงทรัพย์  ผู้บันทึก                          

[สิงห์ ป่าสัก]

เรียน คุณอาณัติ และคุณนงนุช

• บันทึกได้ดีมากครับ กรมส่งเสริมการเกษตรคงเกิดคุณลิขิตที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นอีก
• ภาพยังไม่ขึ้นครับ  ลองไปดูว่าส่งภาพขึ้นไฟล์อัลบัมหรือยัง  หากส่งขึ้นแล้วดูต่อว่าได้ปลดล๊อคการแสดงภาพออกหรือยัง
• ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ ท่าน เขียนบันทึกต่อไปนะครับ

[อา]

ขอบคุณครับครู....