อาจเพราะการเข้าถึงของเทคโนโลยี วัฒนธรรมและสังคมจากภายนอก จึงทำให้ชาวบ้านที่นี่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด จากที่เคยมีชีวิตแบบพึ่งพาป่า พึ่งพาน้ำ แต่ตอนนี้เริ่มพึ่งพาปัจจัยภายนอกมากขึ้น ชาวบ้านเริ่มเห็นความสำคัญของเงิน ๆ ๆ เริ่มมีการนำพืชเศรษฐกิจมาปลูกมากขึ้น สิ่งที่ตามมาอีกคือ รถยนต์ ถนน ที่ใช้สำหรับในการขนส่งผลผลิตต่าง ๆ ชาวบ้านจึงต้องร่วมแรงแข็งขันการทำถนนให้เข้าถึงเรือกสวนไร่นา ขุดดินผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า ได้ถนนลูกรังมาเส้นหนึ่ง ทำให้สะดวกมากขึ้นในการเดินทาง แต่หน้าฝนก็แย่มากเช่นกัน ชาวบ้านจึงนำไม้มาวางเรียงกันเป็นแนวตามถนน เพื่อทำให้รถวิ่งผ่านดอยได้
จากภาพพวกเราเข้าพื้นที่เข้าไปทำงานวิจัย แต่ไม่สามารถนำรถไปได้ จึงต้องเดิน ๆ ๆ ๆ ๆ นานหน่อยแต่ปลอดภัยจากการเดินทาง แต่ต้องเจอกับเจ้าทากเยอะแยะเลย พวกเราจึงได้บริจาคเลือดคนละนิดคนละหน่อยค่ะ
น่าเป็นห่วงอยู่นะ "ความเจริญทางด้านวัตถุ" กำลังจะฆ่าพวกเขาในอนาคต ...
รถเครื่อง ถ้าจะลำบากนะเนี่ย ;)...
นาน ๆ เดินทีค่ะ เดือนละ 2 เที่ยว ยังไหวค่ะ แต่ถ้านานไปอาจจะไม่ไหวแล้วค่ะอาจารย์
สังขาร ไม่ไหว อิอิ แต่เดินไม่เหนื่อยนะค่ะ เพราะค่อย ๆ เดินไป อากาศก็ดี แต่กลัวทากเล็ก
ทากน้อยแหละค่ะ เยอะจริง ๆ
คงเป็น "อายุ" อ่ะนะ อิ อิ
ปูนนี้ไปซะแล้ว ;)...
ทางเดินคนรถวิ่ง
ชีวิตคิดเลือกรู้เท่าทัน
ถนนใจเลือกอิสระ
ขอบคุณค่ะคุณหมอธิรัมภา
ว้าว ชอบๆ จัง... ถนนสายนี้ พิสูจน์ใจ :)
คุณ Poo ค่ะ หนาวนี้สนใจจะไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ไหมค่ะ
ติดต่อมาได้นะค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ