ชมรมสร้างเสริมสุขภาพโรงพยาบาลบ้านตาก:เริ่มต้นจากคนไม่เจ็บป่วย


มติของเราก็คืออย่าไปเก็บเงินเลยแม้จะ 5-10 บาท จะดูเป็นเงินไม่มาก แต่พื้นที่เรามีคนยากจนเยอะ เด็กๆเยาวชนอีกถ้าต้องเสียเงิน จะทำให้เป็นอุปสรรคปิดกั้นการเข้าถึงบริการห้องออกกำลังกายของประชาชน
เมื่อปี 2545 ทางโรงพยาบาลบ้านตากได้ปรับปรุงคณะกรรมการกีฬาและสันทนาการมาเป็นชมรมสร้างเสริมสุขภาพโรงพยาบาลบ้านตากพร้อมกับเปิดบริการห้องออกกำลังกาย(Fitness center)ให้บริการแก่เจ้าหน้าที่ญาติและประชาชนทั่วไป โดยเปิดให้บริการฟรีแก่บุคคลทั่วไปด้วย ปรากฎว่ามีผู้สนใจมาใช้บริการมากำอสมควรประมาณวันละ15-20 คน ทุกวัย พอเปิดบริการไปสักระยะหนึ่งทีมงานก็มาปรึกษากับคณะกรรมการบริหารรพ.ว่าจะเปิดรับสมาชิกและเก็บเงินดีไหมเพราะพอคนมาใช้เยอะเครื่องมือออกกำลังกายก็จะสึกหรออาจต้องซ่อมแซมหรือซื้อใหม่จะได้ไม่เป็นภาระของโรงพยาบาล แต่ปรากฎว่ามติของเราก็คืออย่าไปเก็บเงินเลยแม้จะ 5-10 บาท จะดูเป็นเงินไม่มาก แต่พื้นที่เรามีคนยากจนเยอะ เด็กๆเยาวชนอีกถ้าต้องเสียเงิน จะทำให้เป็นอุปสรรคปิดกั้นการเข้าถึงบริการห้องออกกำลังกายของประชาชน ถ้าของมันจะต้องเสียเพราะใช้งาน เพราะชาวบ้านมาออกกำลังกาย เพราะการมาสร้างเสริมสุขภาพก็ช่างมันเถอะ ถ้าโรงพยาบาลจะเสียเงินเพราะเรื่องพวกนี้ก็ไม่เป็นไร แต่คงจะไม่ทำให้โรงพยาบาลเจ๊งหรอก(ปัจจุบันโรงพยาบาลบ้านตากมีหนี้สินประมาณ 10 ล้าน แต่ก็สามารถบริหารสภาพคล่องไปได้อยู่โดยยังไม่เสียเครดิต) ทุกวันนี้ในโรงพยาบาลบ้านตากเวลาเย็นๆก็จะมีประชาชน(รวมเจ้าหน้าที่บางส่วน ยังไม่ใช่ส่วนใหญ่)มาใช้บริการห้องออกกำลังกายที่เปิดถึง 2 ทุ่ม มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขึ้นเวรมาอยู่คอยดูแลแนะนำ บางคนก็มาวิ่งบนถนนในโรงพยาบาลรอบอาคารที่มีบรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เริ่มโต มีลมพัดดีเพราะอยู่บนเขา เด็กนักเรียนมัธยมก็มาเล่นบาสเกต็บบอลที่สนามบาสที่เปิดไฟให้เล่นจนถึง 2 ทุ่มเช่นกัน(ทำแบบนี้มาเกือบ 10 ปีแล้ว) บางส่วนก็มาเล่นตระกร้อที่สนามตระกร้อ ส่วนผู้ใหญ่ๆหน่อยก็รวมตัวกันมาเล่นเปตอง และเด็เล็กๆก็จะมาเล่นของเล่นที่สนามเด็กเล่น มีคุณพ่อหรือคุณแม่มาคอยป้อนข้าวลูกด้วย บรรยากาศที่เห็นจึงเป็นภาพที่ไม่เหมือนโรงพยาบาลแบบโรงซ่อม เราจะพยายามผลักดันให้เป็นโรงสร้างให้ได้ชัดเจนขึ้น สิ่งที่พวกเราคิด วางแผนไว้แต่ยังไม่ได้ทำเพราะกำลังหาเงินสนับสนุนอยู่คือการจัดทำห้องสมุดเพื่อสุขภาพที่มีหนังสือ หุ่น โมเดล ตัวอย่างความเจ็บป่วยและอินเตอร์เน็ตไว้บริการแบบห้องออกกำลังกาย รวมทั้งห้องลูกบอลแบบที่มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าเพราะอยากให้เด็กบ้านนอกที่อยู่ไกลๆได้มีของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการให้มากขึ้น นอกจากนี้ชมรมสรางเสริมสุขภาพเรายังสนับสนุนการจัดแข่งกีฬาข้าราชการอำเภอ กีฬาเยาวชนอำเภอ กีฬาสาธารณสุข การจัดแขจ่งบาสเกตบอล วอลเลย์บอลให้แก่เยาวชนอีกด้วย และอีกการแข่งขันหนึ่งซึ่งผมประทับใจมากคือการจัดแข่งกีฬาเปตองครอบครัว ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นพ่อหรือแม่กับลูกที่อายุไม่เกิน 15 ปี รายการนี้สนุกมากแล้วก็ทำให้พ่อแม่ลูกมีกิจกรรมดีๆร่วมกันด้วย  นี่ก็เป็นกลุ่มตัวอย่างของการพยายามทำให้ประชาชนรุ้ว่าสุขภาพไม่ใช่แค่การรักษาโรคเท่านั้น  การไม่ป่วยจะดีกว่าสุขกว่า แล้วถ้าใครอ่านแล้วเกิดความคิดอยากช่วยเด็กบ้านนอกจะร่วมบริจาคทำห้องเด็กเล่นเสริมพัฒนาการเด็กก็ยินดีครับ ติดต่อได้ที่ผมโดยตรง นพ.พิเชฐ  บัญญัติ 01-888-9011 ครับ คงพอแค่นี้ก่อนครับ หิวข้าวแล้วเดี๋ยวบ่ายโมงก็จะต้องไปประชุมประจำเดือนของสสจ.ตากอีกครับ
คำสำคัญ (Tags): #kmกับงานประจำ
หมายเลขบันทึก: 4672เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2005 12:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 14:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท