ระหว่างที่ผมและภรรยาทำความสะอาดกกุฎิ...เรียงหนังสือเข้าตู้...และกองให้เรียบร้อย
ผมเรียงหนังสือไป...อ่านหนังสือไป
ท่านอาจารย์ปัญญานันทภิกขุ ท่านกล่าวว่า...
ที่เขาพูดให้เราฟัง และให้เราทำดีตาม เสียงนั้น
ถ้าเสียงไม่ดี ฟังแล้ว ไม่สบายใจ ไม่เป็นประโยชน์
อีกเรื่องเล่าธรรมะของ ท่านหลวงปู่บุดดา ถาวโร...
เมื่อได้รับนิมนต์ไปฉันเพลบ้านโยม...
มีลูกศิษย์หลายคนนั่งเฝ้าและคุยกันเบา ๆ เพื่อไม่ให้เสียงดัง
ทันใดนั้นเอง ข้างห้องซึ่งเป็นร้านขายของ เดินลากเกี๊ยะกระทบพื้นบันได
ดังเกี๊ยะ เกี๊ยะ ขึ้นไปชั้นบน
ศิษย์คนหนึ่งทนเสียงเกี๊ยะไม่ได้ จึงพูดขึ้นมาว่า...
หลวงปู่ซึ่งนอนหลับตาอยู่จึงพูดว่า...
"เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเองหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง..."
ผมชอบเรื่องราวของเรื่องราวที่เกี่ยวกับหูจังครับ...เพราะผมก็เหมือนกัน คือ
หูไม่มีสติ
อยากได้ยินและฟังแต่สิ่งที่ดี ๆ และไพเราะหู
และเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่ดี และไม่ไพเราะหู...กลับไม่ต้องการ
โกธรคนที่พูดกรอกหู
เมื่ออ่านแล้ว...get แล้วครับ
หูเราสามารถบังคับและเลือกรับเสียงได้ครับ...
ผมมองลงมาที่กุฎิ...เมื่ออ่านเรื่องราวของหูจบ...และยิ้มให้กับตนเอง
ผมเห็นหลวงปู่และลูกชาย...ทิมดาบ...
นั่งปุจฉา-วิสัชนา กันเบาเบา
ผมกับภรรยาต่างคนก็เช็ดถูปัดกวาดกุฎิหลวงปู่ให้สะอาดมากที่สุด
มากที่พวกเราจะทำได้ครับ...
ขอบคุณค่ะ หูทำหน้าที่ของเขาในการได้ยิน แต่จิตเราเลือกที่จะฟังในสิ่งที่มีสาระประโยชน์ ..ทำหูทวนลมเสียได้ในเรื่องที่ไม่น่ายินดี เช่นเรื่องนินทากาเล เหมือนเทน้ำ..
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าอะไรควรฟัง อะไรไม่ควรฟัง คำว่าฟัง มีความหมายต่างจากคำว่าได้ยิน ธรรมะของหลวงพ่อสอนเรื่องสติได้เป็นอย่างดี คือการฟังต้องใช้สติครับ
จะเก็บไว้เตือนตน "เขาเดินของเขาอยู่ดี ๆ เราเองหูไปรองเกี๊ยะเขาเอง..."
ขอบคุณคะ ได้ข้อคิดฝังใจ :-)
อย่าเอาหูไปรองเกี๊ยะ..
เสียงไม่ได้ทำให้เราสะเทือน
ที่สะเทือนเพราะเราแปลความ