เมื่อ...สิ่งที่คิดเป็นจริง


        

          วันนี้ผู้เขียนไม่ได้ไปทำงาน  ต้องเก็บของหนีน้ำท่วมเป็นวันที่สอง  เก็บแล้วเก็บอีก  ไม่เสร็จซะที  หนุนจนไม่รู้ว่าจะหาสิ่งใดมารองให้ของสูงขึ้นจากพื้นแล้ว  เหนื่อย  เมื่อยแล้วก็ล้า  อุปกรณ์การทำนา ของแม่ บางอย่าปล่อยจมน้ำ บางอย่างต้องยกขึ้นบ้าน  ถึงเหนื่อยขนาดไหนก็ต้องทน  เพราะเห็นน้ำตาจากหญิงชราคนหนึ่ง (แม่)  ร้องขอให้ช่วยยกเครื่องรถไถนาขึ้นที่สูง เครื่องรถเครื่องนี้เป็นเครื่องแรกที่แม่ซื้อ มาใช้ทำนา  แม่บอกว่า  "ที่มีมาทุกวันนี้  ก็เพราะเครื่องรถไถนาเครื่องนี้แหละ จะปล่อยให้เขาจมน้ำได้ยังไง"  สองคนกับพี่ชายช่วยกัน วันนี้น้ำมาเร็วกว่าเมื่อวานนี้...

          บ้านผู้เขียนเป็นบ้านใต้ถุนสูงบันได ๙  ขั้น  เลยโชคดีที่ไม่ต้องยกพื้นหนีน้ำท่วม  ที่ผ่านๆ  มาก็คิดว่าที่ ที่ปลูกบ้านสูงแล้ว ถมไว้สูงระดับถนน  สูงกว่าพื้นบ้านหลังเดิม  แต่ก็ยังไม่พ้นน้ำ 

          ชีวิตเกิดมาแล้ว ๔๒ ฝน ไม่เคยเจอก็ได้เจอ น้ำไหลย้อน น้ำเปลี่ยนทิศ  ครั้งแรกในชีวิต นั่งมองน้ำหน้าบ้านไหลย้อนขึ้นมา  นึกถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น 

          วันแรกที่รับรู้ น้ำจะเข้าอำเภออุทัย  รู้สึกเครียดมาก  ฟังข่าวจนกลายเป็นความเครียดชนิดไม่รู้ตัว  ข่าวมาหลายทางจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  "ประตูวัดกระสังข์พังแล้ว"  "น้ำเข้าข้าวเม่าแล้ว"  "อีกสี่ชั่วโมงน้ำจะมา ๑.๕๐ เมตร"  สารพัด  เราก็เลยโทรบอก  พรรคพวก  แรกก็มีแต่คนว่าเราบ้า ตื่นตนกไม่เข้าท่า   คืนวันที่ ๕  ฝนตกทั้งคืน  เช้าวันที่ ๖ ตุลา  เก็บของกันวุ่นวาย น้ำมาพอเป็นกระสัยยา  พอวันที่  ๗  บ้านผู้เขียน น้ำขึ้นเร็วกว่าวันที่ ๖ ถนนปูนหน้าบ้านท่วม เป็นช่วงๆ ไป ขณะนี้ทางเข้าออก  ไป -  มา  ไม่ได้แล้ว น้ำท่วมทาง รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ เข้าออกไม่ได้  (เข้าออกทางเดียว)  เดินค่ะ   เดินเท่านั้นที่ทำได้  เรือไม่มีค่ะ  มีแต่ถังกลมๆ จุน้ำได้ ๑,๕๐๐  ลิตร ใช้ทำเรือ  รองพายดูค่ะ  กลับขึ้นบ้านมานั่งพักใหญ่เห็นจะได้ เพราะเวียนหัว  พายเรือกลมๆ  บังคับไม่เป็นค่ะ หมุนอยู่นั่นและ  สนุกสนานอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ (แล้วจะนำภาพมาลงให้ดูค่ะ)

           ยังมีคนที่ลำบากกว่าผู้เขียนอีกมากมายนัก  ได้โทรศัพท์ปลอบใจให้กำลังใจกัน เพื่อต่อสู้กันต่อไป

           วันนี้ เวลาประมาณ  ๑๖.๐๐ น.  ผู้เขียนได้โทรคุยกับเพื่อนร่วมงาน  "พี่เกษ"  ประโยคแรกที่ได้ยิน  "อรพี่หมดตัวแล้ว"  รู้สึกหดหู่มากๆ  ได้แต่ปลอบใจ "พี่ยังเหลือบ้านนะพี่  ยังมีครอบครัวที่พร้อมจะเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยนะ  อย่าท้อ" อีกมากมายที่พูดให้พี่เกษรู้สึกดี  ให้มีสติ

           โทรหาเพื่อนร่วมร่วมงานอีกคน  "พี่แหม่ม" ผู้เขียนชวนพี่แหม่มมาอยู่ด้วยกัน  แต่พี่ไม่มาพี่บอกว่า  "พี่ไม่ทิ้งบ้านหรอกนะ ถ้าท่วมมากก็ลอยคออยู่กับหมานี่แหละ  พี่มีโต๊ะนั่งกินข้าวอีกตัว ไว้นั่งถ้าน้ำท่วม"  ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่แหม่มเป็นไงบ้าง

            เจ้านาย  น้ำก็ท่วมมหาศาล  ไม่รู้จะคุยอะไรโทรหาตอนกลางคืน ก็เลยบอกว่า  "ผอ.  มองพระจันทร์ซิ  พระจันทร์คืนนี้สวย  ดาวเยอะเลยไม่เห็นมานานแล้ว"

 

ยังมีเรื่องอีกมากมายที่ผู้เขียนพบเจอ

ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องคนไทยทุกคนนะคะ

สู้ สู้ ท้อได้ แต่อย่าถอย

 

 

คำสำคัญ (Tags): #น้ำท่วม
หมายเลขบันทึก: 464116เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2011 23:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2012 15:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นภาพความทุกข์ยากลำบากทั้งกายใจกันทั่วหน้าค่ะ ตอนนี้ยังเป็นฝ่ายออกไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยอยู่ อีกไม่นาน คงเตรียมใจสำหรับสถานะการณ์ที่อาจเปลี่ยนไป ขอให้กำลังใจนะคะ

ให้กำลังใจซึ่งกันและกันครับ ชีวิตต้องสู่ต่อไปใจอย่าเสีย

ขอเพียงมีชีวิตอยู่ต้องสู้กันต่อไป....

ขอเป็นกำลังและได้จัดส่งปัจจัยกำลังทรัพย์ ไปตามอัตภาพ

ที่พัทลุง เห็นความตาย เจ้าของควายคร่ำครวญน่าสงสารมาก

คุณแม่ก็คงผูกพันกับเครื่องมือทำกินชิ้นนี้น่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท