ลักษณะทั่วไปของการปลูกพืชโดยเฉพาะการปลูกพืชเชิงเดี่ยวนั้น เมื่อจะมีการปลูกพืชชาวไร่จะต้องถางพง ตัดต้นไม่ใหญ่ออกให้หมด ซึ่งชาวบ้านคิดว่า การถาง หรือตัดต้นไม้ใหญ่ออกนั้น จะเป็นการทำให้ไม้ใหญ่มาบดบัง หรือแย่งอาหารจากไม้ หรือพืชที่ปลูกของตน
ดังเช่นในการณีของการปลูกยางพาราก็ตามทีซึ่งนักวิชาการบอกว่า ก่อนจะปลูกยางพาราจะต้อง เตรียมพื้นที่โดยตัดต้นไม้ใหญ่ออกให้หมด ชาวบ้านก็พากัน ถางพง ตัดต้นไม้กันยกใหญ่ แตในความเป็นจริงแล้ว พืชไม่ว่าจะเป็น ต้นเล็กต้นน้อยเหล่านั้นในธรรมชาติจะมีการอาศัยเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ต้นไม้เล็กจะได้ปุ๋ยจากต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่อาศัยต้นไม้เล็กในการคลุมดินเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น และอีกมากมายที่เรายังคาดไม่ถึงในขบวนการอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างต้นไม้เล็กและต้นไม้ใหญ่
ดังเช่นการปลูกพืชบนคันนาก็ตามโดยเกษตรกรจะนำเอาวิธีการพึ่งพากันตามธรรมชาติเหล่านั้นมาใช้ในการปลูกพืชบนคันนาของตน
โดยส่วนมากแล้วต้นไม้ที่ปลูกเป็นไม้ใหญ่ได้แก่
1.สะเดา
2.ยางนา
3.ขนุน
4.แคบ้าน
5.มะม่วง
และอีกหลายชนิดตามความเหมาะสมในพื้นที่ของเกษตรกรเอง
พืชชั้นกลางได้แก่
1.มะละกอ
2.ชะอม
3.มะเขือพวง
4.มะเขือเปราะ
5.หน่อไม้ฝรั่ง
6.กล้วย
พืชชั้นล่าง
1.พืชที่มีลำต้นใต้ดิน ชนิดต่างๆ เช่น ตะไคร้ ข่า ฯลฯ
2.พืชที่มีหัวอยู่ใต้ดิน เช่น ขิง มันเทศ มันแถว มันสำประหลัง(มัน 5นาที)
ซึ่งการอาศัยเกื้อกูลกันของพืขทั้ง 3 ระดับนี้ทำให้เกษตรกรได้ได้ใช้ประโยชน์จากคันนาได้เต็มที่ และยังเป็นการทำให้ธรรมชาติมีขบวนการจัดการของมันเอง
จะขอสูตรไปปรับใช้กับการปลูกพืชอาหารสัตว์ไว้เลี้ยงโคในฤดูแล้งนะค่ะ เพราะผสมผสานดี
พืชสามชั้นดีมากมากปัจจุบันนี้ผมทำมา 3 ปีแล้ว มีผลผลิตได้กินทั้งปี