คัดลอกมา จาก การสนทนากัน เมื่อเช้านี้ ผมคุยไปด้วย เขียนหนังสือไปด้วย
ตัวอย่างการคุยทาง MSN
คุณพิภพ เป็นวิศวกร ในโรงงานแห่งหนึ่ง
พิภพ says:
มาแล้วครับ ทราบแล้วเปลี่ยนเด้อ
วรภัทร์ says:
กำลัง เขียน หนังสือ LO เล่ม สาม อยู่
พิภพ says:
ครับ วันนั้นผมไปโอนตังค์เพื่อสั่งซื้อหนังสือ LO สองเล่ม เล่มละ 200 แต่ไหงเครื่อง ATM มันไม่ยอมโอนก็ไม่รู้ ปกติก็โอนไปให้คนอื่นบ่อยๆ
วรภัทร์ says:
อ่านรู้เรื่องไหม
พิภพ says:
ยังไม่ได้อ่านเล๊ย ยังสั่งซื้อไม่ได้
วรภัทร์ says:
วันอาทิตย์ ที่ 27 สค 49 รพ ปิ่นเกล้า แอน เอาไปขาย
พิภพ says:
เย้
พิภพ says:
ผมอ่านคำเทศนาของหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านสอนให้รู้จักกับผู้ดูผู้รู้ อ่านแล้วรู้สึกว่าท้อจัง ยากจัง เมื่อก่อนเห็นว่าง่ายๆ แล้วก็ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่พอมาอ่านของหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านบอกให้หาผู้รู้ให้เจอก่อน กระทั่งเดี๋ยวนี้ผมยังไม่รู้จักเลย รู้จักแต่สตินิดๆ หน่อยๆ ครับ ยิ่งอ่านยิ่งหนทางยาวไกล
พิภพ says:
มันก็ถูก ตอนโกรธก็รู้ แต่ตอนไม่โกรธไม่รู้ มีแต่เผลอๆๆๆ วันๆ รู้ตัวน้อยมากๆ จนกว่าจะมีอะไรมากระทบถึงจะรู้
วรภัทร์ says:
ลพ กล้วย สอนว่า อยากรู้จักฉัน (ลพ กล้วย) หาเธอ (พิภพ) ให้เจอก่อน
พิภพ says:
ก่อนหน้านู้น คิดว่าค้นพบตัวเองแล้ว แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้ว มีแต่เผลอๆๆๆๆ วันๆ เอาแต่ปรุงแต่ง รู้สึกตัวน้อยมากๆ สติน้อยมากๆ ตื่นเช้ามาสู้กับกิเลสก่อนตื่น ก็จะพอเห็นตัวดูลางๆ แต่ดูไปดูมากลายเป็นเพ่ง เพ่งไปเพ่งมาหลุดไปปรุงแต่งอีกแล้ว
วรภัทร์ says:
ตนเอง มันผลุบๆ โผล่ เจอ หลังมันไวๆ เหมือน ไปดูเสือในป่า เห็นวินาทีเดียว อย่ารีบ บอกว่าเจอแล้ว เจอจริงๆ คือ มันต้อง เอามาอุ้มเล่น ขี่หลังมันเล่นได้ นั่นแหละ ค้นพบ
พิภพ says:
ต้องใช้อะไรครับ สติหรือสมาธิ
วรภัทร์ says:
สมาธิในการรักษาสติ ไปคู่กันครับ สมาธิ คือ มือจับดาบ สติ คือ ดาบ ฟันกิเลส ให้บรรลัย
พิภพ says:
อ้อ
พิภพ says:
แต่ลองเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้ว เค๊าไปไกลกว่าเราหลายโยชน์ เรายังเตาะแตะๆ อยู่เลย ที่ตอบๆ ในเวบนะ มันมั่วๆ เอา ไม่ได้เป็นคำตอบที่ตัวเองสัมผัสมาซะหน่อย ไปแอบเอาของคนอื่นท่านที่เคยผ่านมาแล้วมาตอบ รู้สึกว่าละอายใจเหลือเกิน เมื่อก่อนไม่รู้ตัวหรอกว่าเราไม่รู้ ตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองไม่รู้
วรภัทร์ says:
เปรียบเทียบ ก็ถือว่า ยังมี เรา มีเขา หลายคนเวลาพาไปปีนเขา ชอบคิดเรื่อยเลยว่า เมื่อไร จะถึงยอดเขา
ปีนไป ดูเฉพาะหน้าที่ ดูก้อนหินที่เราไต่ขึ้นไป อย่ามีเขา อย่ามีเรา อย่าเห็นใครดีกว่า ตำกว่าเรา
พิภพ says:
งั้นชาตินี้ผมไม่เอาแล้วมรรคผลนิพงนิพพานอะไรนั่นนะ ขออยู่อย่างสบายๆ อย่างนี้ดีกว่า ดูจิตตัวเองไปเรื่อยๆ ได้รึไม่ได้ถึงรึไม่ถึงก็ช่างหัวมัน
พิภพ says:
เอ แต่ว่านะ ถ้าจับก้อนหินพลาดมีสิทธหล่นลงข้างล่างได้นะ ถ้าไม่มองรุ่นพี่ที่เค๊าไต่ไปก่อนหน้า ขออาศัยไปด้วย หากว่ากำลังจะหล่น ก็พอจะอุ่นใจได้บ้างว่าจะมีมือใครสักคนมาคอยดึงไว้
วรภัทร์ says:
เอา(นิพพาน) แต่ ไม่อยาก ไม่ใช่ไม่เอา
วรภัทร์ says:
การ Show & share ในการฝึก อยู่ในเรื่อง LO ใช้กับ ฝึกธรรมะได้ดี
พิภพ says:
เล่มสามนี้ คงจะแหวกแนวไปจากเล่มหนึ่งและสอง ใช่ไหมครับ
พิภพ says:
คงจะไม่ได้ต่อยอดจากเล่มหนึ่งและสอง (ลองเดาๆดู)
วรภัทร์ says:
สามเล่ม สัมพันธ์กัน แบบ วงกลมสามวง มี ศูนย์กลางเดียวกัน
พิภพ says:
งั้น อ่านเล่มหนึ่ง ก็ต้องติดตามอ่านเล่มสอง แล้วก็ต้องไปอ่านเล่มจบเล่มสามละสิถึงจะถือว่าปิดคำภีร์
วรภัทร์ says:
ประมาณนั้น ผมเอง ในแต่ ละวัน วิธีคิด เปลี่ยนไป เพราะ ผมตาย ทุกวัน อ่าน เล่มแรก คือ ผม คนนั้น อ่าน เล่มสอง คือ ผมอีกคน อ่านเล่มสาม คือ ผม ตอนนี้ นี่เพิ่งโพสต์ เข้า gotoknow อีกแล้ว
พิภพ says:
กำลังเข้าไปอ่าน
วรภัทร์ says:
เออ
พิภพ says:
ถูกต้องแล้วครับ พนักงานแค่เห็นห้าสอ ก็ขนหัวลุกแล้ว โกยเถอะโยม
พิภพ says:
คนทำระบบยังไม่รู้จักวัฒนธรรมองค์กรเลย ทำแต่ระบบ บางทีคนทำก็เบื่อๆ โคตรเซ็ง 555
วรภัทร์ says:
LO = องค์กรเปี่ยมสุข
พิภพ says:
ผมเห็นด้วยกับอาจารย์นะครับที่ทำ LO แล้วองค์กรจะยั่งยืน แต่ถ้าองค์กรดังกล่าวตอนนี้กำลังแย่ต้องการเงินๆๆ เข้ามาก่อน ทำ LO มันก็ต้องเสียตังค์แต่ผลตอบแทนมันช้า บางทีองค์กรเจ๊งก่อน
วรภัทร์ says:
ไม่เห็นต้องใช้ เงินทำ LO เลย
พิภพ says:
ถ้า LO = เปี่ยมสุข ตอนนี้ครอบครัว(องค์กร) เราจน เราต้องอดออม ทำงานให้หนักเพื่อเอาเงินไว้ก่อน ส่วนเรื่องความสุขนั้นเอาไว้ทีหลัง
วรภัทร์ says:
LO เป็น culture เป็นการปรับ พฤติกรรม ไม่ใช่ ระบบ ไม่ต้องมี ที่ปรึกษาแพงๆ
วรภัทร์ says:
ก็เพราะ บ้างาน มันถึง จนไงละ ทำงานแบบมีความสุข เงินจะตามมาเองแหละ
วรภัทร์ says:
จับกริบ (grip) เบาๆ จะตีลูกได้ไกล จับกริบแน่นๆเกร็ง เหนื่อยเร็ว
พิภพ says:
ในโลกนี้จะมีใครสอนเรื่อง LO เป็นซักกี่คนกัน เพราะพวกมาสอนก็อยากได้ตังค์ 555
พิภพ says:
ทำ LO ทำๆ ไปเถอะ เอาระบบไปอวดคู่แข่ง ลูกค้าเห็นว่ามีระบบมากมายจะได้ซื้อของเราเยอะๆ
วรภัทร์ says:
ก็ สอน อยู่นี่ไง
พิภพ says:
อาจารย์ไม่ใช่คนในโลกนี้ อยู่นอกโลก
วรภัทร์ says:
ทำ LO ไม่ใครรู้ ว่าเราทำ ไม่มีรางวัล ไม่มีใบรับรอง
พิภพ says:
งั้นดูผลที่ทุกคนในองค์กรเปี่ยมสุขทั้งเจ้าของและลูกจ้าง
วรภัทร์ says:
ผมอยู่ในโลก แต่ คนละมิติ กายอยู่ด้วย ใจไม่อยู่
วรภัทร์ says:
ใช่แล้ว ทุกคนมีความสุข
พิภพ says:
อย่าลืมคนรอบๆ องค์กรด้วย
วรภัทร์ says:
ภายใต้ บรรยากาศที่ไม่ตึง ความคิดแบบ innovative จะออกเอง จะทำงานง่าย ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ สื่อสารเร็ว
วรภัทร์ says:
LO นี่ พัฒนา ทั้งลูกเมีย พนักงาน และ ออกไปช่วยชุมชนด้วย
วรภัทร์ says:
ชุมชน นี่แหละ คือ แหล่ง ความรู้ แหล่งข้อมูล แหล่งแรงงาน ฯลฯ
พิภพ says:
จะปั๊มเหล็กขึ้นรูป เกี่ยวอะไรกับชุมชนด้วยเค๊าให้ความรู้อะไรเรา แต่ผมเห็นด้วยนะที่ว่า ชุมชนมีส่วนสำคัญกับองค์กร เพราะคุณปั๊มเหล็กเสียงดังบ้านข้างๆ มันจะอยู่ได้รึ ต้องทำ LO เพื่อให้บ้านข้างๆ อยู่ได้แบบเปี่ยมสุขเหมือนกัน
พิภพ says:
วันก่อนโน้นเจอก้อนหินขว้างเข้ามา เมื่อวานเจอครกกับสาก สงสัยวันนี้จะเจอมะละกอแน่ๆ 5555 ให้เอามาตำส้มตำกิน
วรภัทร์ says:
ปั๊มเหล็ก อาจจะมีเซียนเก่งๆ อยู่ในชุมชนก็ได้ คำว่าชุมชน ของผม ใหญ่กว่าแถวๆโรงงานน่ะ ครอบคลุม ไปถึงทั่วโลก
พิภพ says:
อะจ๊าก เข็มขัดสั้น
วรภัทร์ says:
นี่แหละ การเห็นอกเห็น คนข้างๆ โรงงาน ก็เป็น อีก มิติหนึ่ง ของการ เรียนรู้
พิภพ says:
องค์กรอยู่ได้ เจ้านายอยู่ได้ พนักงานอยู่ได้ ชุมชนอยู่ได้ อย่างเปี่ยมสุข เย้
วรภัทร์ says:
สุขตอนแรก เป็นสุขแบบโลกๆ พอสักพัก ก็เจอสุขแบบยั่งยืน สุขอย่างพอเพียง
พิภพ says::จะได้ไม่มีใครมาบ่นว่า ไตรมาสนี้ขาดทุนหว่ะ , ปีนี้ไม่เห็นมีโบนัส แล้วเมื่อไรจะขึ้นค่าแรงซะที , เมื่อไรไอ้โรงงานนี้มันจะเจ๊งซะทีว่ะ โครตหนวกหูแมร่งชิบ!
คำว่าพอเพียงนี่แปลผิดๆ ก็ไปคนละโลกเลยนะ
วรภัทร์ says:
เออ
วรภัทร์ says:
พอดี พอดี คือ ปกติ ปกติที่ ปกติ คือ นิพพาน นั่นเอง
พิภพ says:
ก็คำว่านิพพานนี่แหละผมแปลคำว่าพอเพียงผิด พอเพียงที่นิพพาน มันไปมองคนอื่นที่เค๊าปีสูงกว่าเรา ไม่ได้มองก้อนหินที่เรากำลังจับอยู่ โง่เจงๆ
วรภัทร์ says:
พอ = หยุด ไม่อยู่อยากอย่าง
วรภัทร์ says:
พอเพียงที่ = จิตว่าง
วรภัทร์ says:
จิตว่าง อาจจะมี เงินมากมายก็ได้ แต่ก็ใช้เงินอย่างมีสติ อาจจะจน แต่ก็ใช้เงินอย่างมีสติ ร่ำรวยแต่เค็ม งก ทรมานตนเอง ก็เรียกว่า ขาดสติ จนแต่ใช้ของแพง ก็เรียกว่า ขาดสติ ขาดสติ = ไม่พอเพียง
พิภพ says:
สาธุ
พิภพ says:
แต่หลวงพ่อปราโมทย์ท่านบอกว่า ถ้าดูจิตถึงระดับสูงๆ แล้ว ไปดูความว่างมันผิดทาง เพราะมันมีว่างกับไม่ว่าง จะไปเอาว่างให้ตลอดนั่นมันสุดโต่งไปอีกข้าง มันไม่ใช่อนิจจัง
วรภัทร์ says:
copy ไปลง mannagerroom.com ได้เลยนะ
พิภพ says:
ครับ อาจารย์ ก๊อปนะครับ
วรภัทร์ says:
เอาไว้ สูงๆค่อยว่ากัน ตอนนี้เอาล่างๆ ง่ายๆไปก่อน สุดท้าย ลพ กล้วย ให้เอา ความว่างไปดูความว่างครับ นี่ตอบแบบสูงปรี๊ดเลย ผมว่า เอาแค่ เห็น จิต เห็นความคิดไปก่อน พอชำนาญ จะเข้า เรือง ความว่างไปดูความว่างเอง ทั้ง ลพ ปราโมทย์ และ ลพ กล้วย ท่านสอนเรื่องเดียวกัน แต่ คนละสำนวนครับ
วรภัทร์ says:
เอาความไม่ว่าง ไปดูความว่าง = หลง ครับ เละเลยทีนี่ เป็น ปรุงแต่งทั้งนั้น
พิภพ says:
สาธุ ผมจะทำตามครับ ตอนนี้จะดูแค่จิตอย่างเดียวก็พอ เราแค่เห็นความคิดไปก่อน... แค่ตัวรู้นี่ยังไม่รู้จักเลย 5555 ยังจะไปหาอะไรกับความว่าง
พิภพ says:
อ่านมากธาตุไฟเข้าแทรก
วรภัทร์ says:
เออ ทำมาก = ธรรม มากๆ อ่านมากไม่ทำ = ไม่ธรรม
พิภพ says:
ไม่อ่านเลยก็ไม่รู้ พออ่านมากเลยเกินรู้ นี่ไม่ดี
วรภัทร์ says:
ผมโพสต์ เรื่อง วงเล่า เข้า gotoknow อีกแล้ว คุยไปด้วย ทำงานไปด้วย
พิภพ says:
555 ผมก็เรียนแบบอาจารย์ครับ ทำงานไปด้วยคุยไปด้วย
วรภัทร์ says:
ดูจิต ไปด้วย สาม สี่ อย่างเลย
พิภพ says:
เอ๊า! เผลออีกแล้ว
พิภพ says:
กำลังเข้าไปอ่าน
วรภัทร์ says:
เออ
วรภัทร์ says:
บายๆ จะพาแม่ ไป ทานข้าว
เหมือนได้ร่วมวง(ฟัง)ด้วยเลยค่ะ
ตอนนี้สมัคร Gmail กับเพื่อนไปแล้วแต่ไปต่อไม่เป็นค่ะ ไว้ว่างๆค่อยลองMSN
คุยกันเป็นกลุ่ม พร้อมกันก็ได้นะ
ผม สอนธรรมะ ทาง MSN ทุกคืน ตอน สี่ทุ่ม
เปิด หลายจอ คอมฯ ทำงานไปด้วย ตอบMSN ไปด้วย ดูบอล ดูลูก ไปด้วย
ดีจังดีจัง
พักหลังๆมาเรื่องดูจิตเหมือนคนรู้จักกันแต่ไม่สนิทน่ะครับ อยากเข้าไปสนทนาด้วยเพื่อ refresh บางครั้งก็งง งง (ยังจำที่อ.สอนได้ว่า ให้เอาความฉลาดที่มีมาฝึกยังทำไม่ได้เลยครับ) จะลองเข้าไปศึกษาวิธีสนทนาแบบนี้ดูบ้าง แล้วพบกันนะครับ