วัฒนธรรมท้องถิ่น : ชีวิตสามเณร 2


ฮักหอมซุมแซงเซื้อเครือเดียว...ให้หลิงหลำกันเด้อ...

          ช่วง 9 โมงเช้า  สามเณรทุกรูปก็เข้าไปหาพระอาจารย์  ท่านแจกหนังสือเจ็ดตำนาน  และกำหนดให้ท่องจำบทสวดมนต์ต่าง ๆ  โดยหาสถานที่ภายในวัดแล้วท่องจำ...เวลา 11. 00 น. มีเสียงกลองเพลดังมาก ๆ  เป็นสัญญาณทั้งชาวบ้านและพระเณรมารวมกันที่ศาลา  พระและเณรร่วมกันฉันเพลมีกำหนดถึงเที่ยงเท่านั้น...ต่อจากนี้ไปก็ได้แต่ดื่มน้ำจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่  เราจึงได้ฉันภัตตาหารเช้าอีกครั้งวนเวียนอยู่อย่างนี้ครับ ฮา ๆ เอิก ๆ 

           ผมบวชอยู่ไม่กี่เดือน...ก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นสามเณร  9 รูป และพระอีก 3 รูป  หมู่บ้านนี้เคยเป็นเมืองเก่า...ดั้งเดิม...มาจากประเทศลาว...ผู้คนยังไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ...พึ่งห่างกันก็อยู่ในช่วงลาวเปลี่ยนการปกครองครับ..ผู้คนในหมู่บ้านนี้รัก...สามัคคีกันดีมาก...

           สมดังผญาที่ว่า...ฮักหอมซุมแซงเซื้อเดรือเดียวกัน...ให้หลิงหลำกันเด้อ...พวกผองเฮาพี่น้องอย่าเมินหน้าหน่ายแหนง...ฮักแพงหอมห่อไว้ได้เป็นเพื่อนคราวพลอยแท้นา...พ้องพ่อผองภัยพาลได้เพิ่งพงค์พันธ์เซื้อ...เด้อ...นางเอย....

           ช่วงบ่ายบางวันพวกเรานำถังใส่รถล้อเข็นไปตักเอาน้ำในบ่อ...ไกลวัดประมาณ  3  กิโลเป็นสำหรับดื่ม...บางวันพวกเราไปขอขี้ควายของชาวบ้านโดยเข้าไปตักถึงใต้ถุนบ้านเลย...เพื่อนำมาเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้มีการปลูกผักในวัดด้วยครับ...

             บางครั้งพระหนุ่ม ๆแอบทำว่าวมีเสียง...เวลาสมภารไม่อยู่ก็สั่งให้สามเณรถือเชือกว่าววิ่งออกไปกลางทุ่ง...พอว่าวติดลมบนแล้วก็ผูกเชือก

ไว้กับรั้ววัด...แล้วฟังเสียงมันดังเหมือนเสียงเครื่องบินเล็กเลยครับ...

            หมู่บ้านนี้มีครอบครัวอยู่ประมาณ  500  หลังคาเรือน  มี  2  วัด  ผมอยู่วัดทุ่ง  อีกวัดหนึ่งอยู่กลางป่า

              เขาเรียกวัดรอยพระบาท  เพราะมีเรื่องเล่าว่า   10  ปีก่อนที่ผมจะมาอยู่หมู่บ้านนี้...ในค่ำคืนฝนตกหนัก...รุ่งเช้าชาวบ้านขับเกวียนออกไปทุ่งนา...พอไปถึงกลางป่าก็เห็นต้นไม้ใหญ่ ๆหักโค่นลงหลายต้น...และที่สำคัญ...เกิดมีรอยเท้าใหญ่ ๆ 2 รอย  ห่างกันเหมือนคนยักษ์สูงประมาณ  30 เมตร  ก้าวเดินไป...ช่วงที่ผมไปดูครั้งแรก  อยู่ริมทางเกวียน  เป็นลักษณะรอยเท้าคน  ยาวประมาณ  1  เมตร  ลึกประมาณ  1  ฟุต  ทั้ง 2  รอยครับมีสิ่งที่ผู้คนนำมาบูชาเยอะมาก ๆ

             ผมสงสัยและเข้าใจว่า...ฟ้าผ่า...เป็นหลุมลึก...หรือไม่ก็มีอุกกาบาต...ตกลงมา...และคนไปทำให้เกิดเป็นรอยขึ้นครับ...วันหนึ่งผมไปที่วัดป่าและเดินไปที่เกิดรอยนั้น...รอยกำลังเลือนลาง...

เหลียวช้ายแลขวาไม่เห็นมีใคร...ผมใช้ทั้งมือและไม้ไผ่ขุดรอยเท้าทั้งสองนั้น  เพราะมันเป็นดินปนทรายครับ...ลึกกว่าเดิมสำเร็จ...ฮา ๆ เอิก ๆ  ไม่บอกใคร...พึ่งมาบอกคุณนี้แหละ...

              ปี 2538  ผมไปที่นั้นอีกที...เปลี่ยนแปลงไปมาก...คือมีพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนามาบูรณะทำศาลาเทปูนทับรอยพระบาทนั้น...แล้วป่าแถบนั้นหายไปหมด...ครับ...เสียดาย..ธรรมชาติ...

              ชีวิตของสามเณรน้อย ๆ ทุก ๆวันพระ  15 ค่ำ  เราหาดอกจำปามา  5 คู่ใส่พานมีเทียนไขสีขาวด้วยครับเราไปขอศีล 10  กับพระอาจารย์  บางวันช่วงบ่ายพระอาจารย์เรียกไป...เห็นท่านนอนหงายยื่น

แหนบเพื่อให้ผมถอนหนวดเคราและขนจั๊กแร้ด้วยครับ...ฮา ๆ เอิก ๆท่านเป็นหมอยาแผนโบราณ...ผมช่วยฝนยาให้...มีชาวบ้านมารับยามากครับ...

               โปรดติดตามตอนต่อไป 

                                                   ด้วยความปราถนาดี 

                                                         จาก...umi    
หมายเลขบันทึก: 44624เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2006 06:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ตอนที่ผมเป็น สามเณร ผมคิดย้อนกลับไปแล้ว ทำไมผมซนขนาดนั้นก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมยังเด็ก

มันทำให้ผมคิดว่า ผมทำแบบนั้นจะบาปหรือเปล่า ผมไม่เคยสำรวมเลยครับ วิ่งจีวรกระจาย ขึ้นต้นไม้ กระโดดน้ำ...(ยกเว้นยิงนก)

หนีเข้าไปเที่ยวในป่า แอบกินข้าวเย็น...

....

เฮ้อ เหนื่อนแทนเจ้าอาวาสเลยจริงๆ 

  • เคยเป็นสามเณรครับ แตทำไมไม่ซนไม่ทราบ
  • เพิ่งมาซนตอนโตแล้วหลังจากเป็นคุณครูนี่ละครับ
  • งง ตัวเองมาก
.....ก็เคยเป็นสามเณรเหมือนกันครับ....เพราะตื่นสายทำวัตรเช้าไม่เลยถูกทำโทษโดยการโกยมูล.....ในห้องน้ำออกจากถัง  โดยไม่ต้องใช้รถดูดส้วมครับ..กับเพื่อน ๆสามเณรหลาย ๆ คน.....ประสบการณ์ในอดีต เฮ้ยดูน่าขำดีครับ.........

มารายงานตัวตามความเคยชินของการมาเยือนที่ต้องทิ้งรอยคะ....

....

เรื่องเล่าสามเณรนี้อาจารย์..คงย้อยรอยไปนานหลายปีนะคะ...(แอบแซว)...

แต่ยังมีมโนภาพแจ่มชัดที่ผู้อ่านสัมผัสได้...จับได้แล้วคะว่าใครคือคนขุดรอยนั้น..(ฮาๆ..เอิกๆ...ตามอาจารย์คะ...)

กะปุ๋ม

สวัสดีครับ  คุณจตุพร

เด็กซนคือคนฉลาดเมื่อโตขึ้นครับ...ฮา ๆ เอิก ๆ

ส่วนจะบาปหรือเปล่า...คงเกี่ยวข้องกับเหตุปัจจัยหลายอย่าง...โดยเฉพาะ...เจตะนาหัง ภิกขะเว กัมมัง

วะทามิ. ครับ

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi 

สวัสดีครับ  คุณขจิต

อาจจะยังไม่ฉายแววฉลาดออกมาขณะยังเป็นเด็กครับ...แต่ปัจจุบัน...มีใครที่ไม่รู้จัก...คุณครูขจิตบ้าง...

ยกมือขึ้นครับ...ฮา ๆ เอิก ๆ

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

สวัสดีครับ  คุณ น.เมืองสรวง

ความลำบากสร้างคนให้มีคุณค่า...ครับ...ผมเห็น...คุณ...เขียนคำ..ไทดำ...ผมเคยฟังเพลงที่ว่า...สิบห้าปี...ที่ไทเฮาห่างแดนลาว...

ขอบคุณครับที่เราได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ...

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

สว้สดีครับ  คุณกะปุ๋ม

มากกว่า 15 ปีครับ...ฮา ๆ เอิก ๆ 

ความลับไม่มีในโลก...ครับ...

ขอบคุณครับ...นี่คุณกะปุ๋ม...อดีตสามเณร...นึกว่ามีแต่ผม...ฮา ๆ เอิก ๆ  ขอชื่นชมเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนครับ...ที่เคยเป็นนักบิน...ด้วยกันทั้งนั้น..ยังมีอีกมั๊ย.....

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

"ขอบคุณครับอาจารย์........เช่นกัน อาจารย์สอนอยู่ปัตตนี โอ๋..ไกลจังครับ....ได้ยินเพลงนี้.."ไทดำลำพัน" ก็อดคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ครับ

สวัสดีครับ  คุณ น.เมืองสรวง

แก้ไข...ผมเป็นข้าราชการตำแหน่ง  อาจารย์  สอน..

ป. ตรี  และ ป. โท ทางด้านปรัชญาและศาสนา

ที่ มอ. ปัตตานี  เริ่ม 1 ก.ค.2539 - 16 มี. ค. 2549 ครับ...ปัจจุบัน...ผมทำงานอยู่  ม. ทักษิณ  สงขลา

ทำงานอยู่บนเกาะยอ...ครับผม

ดีครับ...บรรยากาศเก่า ๆ ก็ทำให้เราสุขใจได้...ฮา ๆ เอิก ๆ

ด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ

จาก...umi

อาจารย์คะ....หากมีโอกาส...

กะปุ๋มจะไปขอ...ลปรร.ปรัชญา...และเรื่องเล่าอินเดีย

แบบ F2F ...กับอาจารย์นะคะ...ไปคราวก่อนได้แค่ผ่านหน้า ม.ทักษิณ....แต่ไปคราวนี้จะบุกถึง...เกาะยอเลยคะ....(อิอิ...)

กะปุ๋ม...

 

สวัสดีครับ คุณกะปุ๋ม

ด้วยความยินดียิ่งครับ...สิ่งไหนที่ผมรู้...ผมเข้าใจ...

จะถ่ายทอดให้ฟังครับ...

ด้วยไมตรีจิตรมิตรภาพ

จาก...umi

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท