ในปัจจุบัน ผมคิดว่า คนจำนวนมากทีเดียว ไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร
อยู่กับความจริง หรือ อยู่กับความฝัน
กำลังฝัน หรือ กำลังตื่นอยู่
เชิงอุปมา แต่เป็นจริงในชีวิตของผม
ก็คือ
ในสมัยเด็กๆ ช่วงสักประมาณ ๑๐-๑๔ ขวบ ผมเคยทำได้แทบทุกครั้ง อยู่หลายปี แต่พอโตขึ้น ความสามารถนี้หายไป
ในช่วงที่ผมทำได้นั้น ผมจะรู้ตัวตลอดเวลาว่า ขณะนี้
"ผมกำลังฝัน หรือ กำลังตื่นอยู่"
โดยทุกครั้งที่ฝัน จะเริ่มคิดหาความสัมพันธ์ ว่า ที่ผมเห็นนั้น หรือ กำลังเป็นอยู่นั้น มันเป็นจริงไปได้หรือไม่ ตามสถาวะปกติที่พบมา
โดยการลองหยิกตัวเอง และหลายๆวิธี และหาความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ถ้าเชื่อมโยงได้หมด ไม่มีอะไรติดขัด รู้สึกได้จริง ก็น่าจะเป็นจริง
แต่ทุกครั้งที่ผมกำลังฝัน จะต้องมีอะไรที่ไม่สามารถเชื่อมโยงได้
แล้วผมจะสรุปว่า "กำลังฝัน"
ต่อจากนั้น ผมก็จะสนุกสนานกับมัน และไม่ต้องสนใจ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะมันเป็นแค่ "ความฝัน" เดี๋ยวมันก็จบ และหายไปเมื่อตื่น หรือถ้าอยากให้หายไปก็รีบตื่นขัดจังหวะการฝันก็จะจบลง
อยากจะฝันใหม่ก็เริ่มนอนใหม่ คิดเรื่องใหม่ๆที่อยากฝัน
ดังนั้น ผมจึงยังจำความฝันส่วนใหญ่เหล่านั้นได้จนถีงทุกวันนี้
แต่...ทุกวันนี้
ผมสูญเสียการ "รู้ตัว" ในระหว่างฝันไปนานแล้ว
เชิงอุปมัย ในสังคมปัจจุบัน
ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเป็นนี้ มันอาจจะเกิดเป็นจริงกับคนบางคนที่ "กลับกัน"
คือ
ไม่เคยคิดหาเหตุผล ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แล้วก็จบชีวิตลงอย่างไร้จุดหมาย ไร้สาระ และไร้ความหมาย
แม้ใครจะพยายามบอก
ความจริงเสมือนนี่ ที่เกิดกับคน และใช้ในสังคมนี่ มันร้ายกาจจริงๆ
อยู่ในทุกวงการ สร้างปัญหาได้แทบทุกเรื่อง
สงสัยจะเป็น "ธรรมดา" ของโลกครับ
แต่ ถ้าเราคิดมากไปก็จะกลับกลายเป็นความทุกข์ไปเปล่าๆ
ปล่อยให้ "สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม" บ้าง
คงจะง่ายดีนะครับ
ทางออก ที่เหลืออยู่ เท่าที่ประเมิน
จุดเริ่มที่อาจพัฒนาได้ก็คือ
โดยทำให้เขาเคยชินกับสิ่งดี
จนไม่คุ้นเคยกับสิ่งไม่ดี เขาก็จะเป็นคนดีของสังคมได้
แบบสำนวนอีสานว่า "ทางบ่เทียว มันฮก" (ทางที่คนไม่ใช้บ่อยๆ มันรก)
เมื่อฝึกความเคยชินได้แล้ว ทุกอย่างจะอัตโนมัติ ยากแค่ไหนก็จะกลายเป็นง่าย
เป็นแนว เป็นร่อง เป็นคลอง เป็น "ความสะดวก" โดยธรรมชาติ
ที่เราเรียกว่า "ทำนองคลองธรรม"
ที่สามารถทำได้ทุกเรื่อง เพียงขอให้ "ชิน" และ "ใช้บ่อย"
แต่กับสิ่ง "ไม่ชิน" ง่ายแค่ไหนก็เป็นยาก อย่างเป็นธรรมชาติ
น่าจะเป็นแนวทางการจัดการความรู้ เพื่อลดผลเสียของ "ความจริงเสมือน"
ให้มาอยู่กับ "ความเป็นจริงกว่า" หรือ แม้กระทั่ง "ตวามจริงแท้" และ "การสร้างสรร" ทั้งตัวเองและสังคม
นี่คือความเชื่อ และความฝันของผม ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ครับ
ขอบคุณครับ
"สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม"
ขอบคุณครับอาจารย์ ;)...
อ.แสวงคะ
อาจารย์เปรียบเทียบได้เห็นภาพชัดมากๆ เลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
น่าจะประกวดเล่านิทานนะครับ อิอิ
อาจารย์ได้ช่วยเฉลยสิ่งที่สงสัยและหาคำตอบมานานแล้ว
ขอบคุณค่ะ
ชอบ ลึกซื้งครับ
เรื่องรู้สึกตัวขณะฝัน ผมก็ยังเป็นอยู่แต่ไม่ทุกครั้ง จะเกิดได้บ่อยเวลาฝันร้าย ก็จะคิดว่า นี่ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ เพราะว่ามันไม่สมเหตุสมผล หรือว่าเกินจริงมากเกิน ก็จะบังคับตัวเองให้รู้สึกตัว หรือว่าบางทีก็ถึงกับบังคับให้ตื่นขึ้นมาตั้งต้นนอนใหม่เลย ผมว่าดีเหมือนกัน เพราะว่าเราเลือกได้ว่า จะอยู่กับฝันดีได้ และหากฝันร้ายก็จะไม่ฝันต่อครับ
ขอบคุณครับ
ดีใจที่มีคนที่มีลักษณะคล้ายผมบ้าง ไม่แปลกประหลาดอยู่คนเดียว
ดีใจที่มีเพื่อนครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล่อยให้ "สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม" บ้าง
บอกมาก โดนหาว่าเป็นพวกโรคจิต ไปทำให้พวกเขาเครียด
ชีวีตมันจะมีอะไรมากกว่า ขอใช้ชีวีต ไร้สาระไปวันๆ แค่นั้นก้อพอ
ผมเลิกบอกคนอื่นแล้วครับ
ปล่อยให้ "สัตว์โลก เป็นไปตามกรรม"