ชมรมเพิ่มพูนพลังคนพิการ อ.ตะโหมด ได้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว และมั่นคง ส่วนหนึ่งเกิดจาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ออกมาร่วมแรงกันผลักดันด้วย นับเป็นความสำเร็จของการเดินเรื่องตามแนวคิดไตรภาคีร่วมพัฒนาฯ โดย 2 ภาคีแรกคือราชการส่วนภูมิภาค อย่าง สสจ. รพ.และสอ. จับมือกันกับเครือข่ายคนพิการเองได้ อีก 1 ภาคี จะกระโดดเข้ามาเกื้อหนุนในทันทีทันใด เรื่องนี้มีเงื่อนไขลึก ๆ ที่ผมกำลังเขียนเป็นรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์อยู่ครับ
ในบันทึกนี้ตามที่จั่วหัวเรื่องมีที่มาที่ไปเกิดขึ้นที่ อ.ตะโหมดว่า คนพิการที่เป็นเด็กนักเรียน แท้ที่จริงแล้วหากเราเรียนกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนปกติได้ เขาควรจะได้เรียนที่นั่น แต่เมื่อผู้ปกครองนำไปเข้าโรงเรียนเขาถูกเก็บเงินโดยไม่ละเว้นอะไรเลย เรียกว่าทุกคนเท่ากันหมด แต่หากเขาไปเข้าโรงเรียนพิเศษของเขาเอง ก็จะได้รับการยกเว้น แต่ก็ทำความลำบากและยุ่งยากที่จะติดตามมาอีกหลายเรื่อง ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายทางอ้อมและมากเอาการเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นภาระที่ไม่ควรเป็นแก่ผู้ปกครองเลย จึงเป็นที่มาของคำว่า “เก็บเงินหนูทำไม?” ที่น้องนักเรียนระดับ ม.ปลาย ถามผมในที่ประชุม แล้วผมรับว่าจะนำมาตีแผ่ให้ แต่อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก การมาเขียนเป็นบันทึกก็เพียงช่วยได้นิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น
จริง ๆ ผมว่าโดยส่วนตัว หากละเว้นไม่ได้เพื่อความเท่าเทียมกัน เด็กกลุ่มนี้ควรจะได้เรียนที่โรงเรียนเดียวกันเช่นคนอื่น แต่น่าจะมีทุนการศึกษาให้จนเพียงพอที่จะไม่เป็นภาระแก่เขา เมื่อผมถาม ๆ ดูก็พบว่ามีอยู่เพียง 2-3 คน (เท่าที่รู้ในเบื้องต้น) ผมสนับสนุนที่จะให้เขาอยู่ได้ในสังคมปกติมากว่าที่จะเบียดผลักให้เขาไปอยู่ในที่ ๆ เรียกว่ารัฐจัดให้เป็นการเฉพาะ จึงอยากเรียกร้องไปยังท่านที่เกี่ยวข้องกับการจัด “การศึกษา” ในระบบ แทนเขาเหล่านั้นครับ
สิทธิพิเศษ สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ควรต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษนะครับ ที่ผ่านมาก็เพิกเฉย ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร
ขอบคุณพี่ชายขอบ ที่เป็นแรงหนุน...งานนี้
ขอบคุณจากใจ
น้องจตุพร
ตอนที่ฟังเขา ก็อึ้ง ๆ แต่ช่วยอะไรไม่ได้มาก นอกจากจะนำมาสื่อสาร และจะถ่ายทอดไปในทุกเวทีที่มีโอกาสนะครับ ส่วนหนึ่งที่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและเฉพาะที่คือทาง อบต.จะดูแลให้ก่อนนะครับ ช่วยเหลือเบื้อต้นเท่านั้น ยังไม่ใช่แก้ที่ระบบทีเดียว
คุณ adcordiality ครับ
ผมไม่แน่ใจนักว่าเสียผมจะดังได้แค่ไหน นานเท่าใด เขาจะรอไปอีกสักเท่าไหร่ แต่ผมก็จะเปล่งเสียงอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ ไปล๊ะครับ เพื่อคนชายขอบ
ขอบคุณนะครับที่มาช่วยทำให้เสียงผมดังขึ้นอีกนิด
นโยบายแห่งรัฐ....วางไว้อย่างสวยหรู
หากแต่ในความเป็นจริงหาใช่จะเป็นเช่นนั้นไม่...
คนทำงาน...ที่ทำงานกับคนด้อยโอกาส...
ได้ลงมือทำอย่างจริงจังหรือยัง...
หรือเพียงแค่ทำ...ว่าได้ทำ...
หากเมื่อใดก็ตามที่เรา...ลงมือแก้ไขปัญหานั้นอย่างจริงจัง....
ความด้อยโอกาส...แห่งคนนั้นอาจจะหมดไปได้....
Dr.Ka-poom
เห็นด้วยที่คนทำงานต้องทำอย่างจริงจังกันเสียที ในขณะนี้คนด้อยโอกาสเหล่านั้นต้องลุกขึ้นเองด้วยแรงหนึ่งครับ
คุณพี่พัชรา
ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยครับ ในการร่วมแรงร่วมใจช่วยผลักดันกันต่อไปครับ