วันที่ 27 กรกฏาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่ดิฉัน กับครอบครัว มีความสุขกับความสำเร็จ เพราะเมื่อเหลียวหันกลับไปมอง 5 ปี ของชีวิต ที่ผ่านมาในความมุ่งมั่นกับการเรียนเพื่อให้ได้มาซึ่งปริญญาเอก มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนาน และเป็นทุกข์ และมีหลายครั้งที่ตนเองอยากจะยุติการเรียน ดิฉันได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนที่เรียน ก็มีความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกัน ความคาดหวังจากบุคคลรอบข้างทั้งครอบครัว และหน่วยงาน ไม่สามารถทำให้เราทำในสิ่งที่คิดได้
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดิฉันอยากจะบอกว่านอกจากความรู้ที่ได้รับแล้ว สิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือ มิตรภาพระหว่างเพื่อน ดิฉันคิดว่า ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนขณะเรียน หรือทำงาน นอกจากความสนใจในตัวเองแล้ว ถ้าเราลองหันมองคนไปรอบๆตัวเรา เราจะพบว่ามีอีกหลายคนที่ทุกข์และต้องการความช่วยเหลือ ตัวดิฉันเองพูดได้ว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จ คือเพือน อยากจะฝากบอกกับผู้ที่กำลังเรียนอยู่ว่า เพื่อนไม่ใช่คุ่แข่ง แต่เพือ่นจะเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดของเราเมื่อจบออกไปแล้ว
การเรียนในระดับปริญญาเอกจะไม่ยากเลยสำหรับคนที่มีวินัยกับตัวเอง และสามารถจัดการกับปัญหาหลายๆอย่างในขณะเดียวกันได้ โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัว ลูกเล็ก และทำงานไปด้วย ดังนั้นความเข้าใจของคนในครอบครัวก็มีความสำคัญ ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เรียนอยู่ ...ให้สำเร็จและกลับมาเป็นกำลังของชาติต่อไป ท้อแท้ได้ แต่อย่างถอย
ยินดีด้วยนะคะ ที่พยายามจนสำเร็จ อยากมีวันนั้นบ้าง เพราะเป็นคนที่ชอบเรียน แต่ ขาดทุน ทรัพย์ และ กำลัง มีลูกเล็ก ไม่อยากวางความฝันทิ้งไว้เลย
การเป็นครู พยาบาล ยากมากมั้ย
ท้อแท้ เหนื่อนใจ
เรียน ป.เอก มา 4 ปีแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อเช่นกัน
กำลังตัดสินใจเรื่องเรียน ป.เอก ค่ะ ได้ทุนมาบางส่วนแล้ว แต่หนักใจลูกเล็กมาก มีโดยไม่ได้แพลน ระหว่างประกาศทุนพอดี เรียนที่เมืองไทยนี่แหละค่ะ แต่ก็กลุ้มใจกลัวเรียนไม่จบ ดูแลลูกได้ไม่ดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
แนะนำเทคนิค การเรียน ให้จบภายใน สามปีครึ่งถึงสี่ปี บ้างซีคะ เพราะทุนได้มาแค่สามปี ปีที่เหลือคงต้องจ่ายเอง ค่าเทอมหลักสูตรอินเตอร์ พยาบาลดุษฎีบัณฑิตแพงเอาการค่ะ
แถมลูกเล็กแค่สองขวบกว่า ต้องเดินทางไปกลับ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ทุกสัปดาห์ เหนื่อยน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เริ่มเครียด เรื่องการทำdissertationเนี่ค่ะ
คัทลียา แสนหลวง