ไม่มีแขน ไม่มีขา ยังมีค่าความเป็นคน


ผู้พิการไม่ต้องการ "ความสงสาร" หรือ "ความเห็นใจ" ซึ่งผู้คนหยิบยื่นให้ด้วยคิดว่าผู้พิการด้อยกว่า หรือมีน้อยกว่า ผู้พิการเพียงต้องการ "โอกาส" ที่อยู่ร่วมในสังคม อยู่ร่วมกับคนปกติที่ไม่พิการ

ได้ปัญญาวันฝนตกครับ วานนี้ที่ กทม.ฝนตกต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่หัวค่ำคืนก่อน ตกต่อเนื่องจนถึงเช้าจนจราจรเป็นอัมพาตทั่วกรุง ฝนยังตกเรื่อยมาถึงตอนเพล ช่วงที่ผมขึ้นรถไฟฟ้า BTS พอดี

 จัดแจงตัวเองให้มีที่ยืน มีที่โหนแล้ว รถไฟฟ้าช่วงนั้นไม่แน่นมาก พอเห็นหน้าเห็นตาคนที่นั่ง ยืนอยู่ก่อนแล้ว สายตาผมไปตกที่คนนั่งตรงข้าม สายตาผมหยุดที่ผู้หญิงกลางคนท่านหนึ่ง และสายตาผมอยู่ที่นั่นนาน นานจนเกิดปัญญา

 

ผู้หญิงคนนั้น อวัยวะเหลือเพียง 28 หรือ 32 ลบสี่ เธอไม่มีมือทั้งสองข้าง ไม่มีขาทั้งสองข้าง เป็นความพิการแต่กำเนิดซึ่งหายาก แต่ผมเคยพบแล้ว 5-6 คน

 

ผมคุ้นชินกับความพิการทางกาย แต่รายนี้เป็นรายแรกที่ผมพบบนรถไฟฟ้าที่ร่างกายมีความพิการมากที่สุด เลยข้อศอกลงมา แทนที่จะเป็นมือ มีแต่นิ้ว ข้างขวาหนึ่งนิ้ว ข้างซ้ายสองนิ้ว รวมสามนิ้ว

 

เลยเข่าลงมามีก้อนเนื้อยาวข้างละคืบ ไม่มีข้อเท้า ไม่มีนิ้วเท้า ซึ่งคงเรียกว่าขาไม่ได้ หัวเข่าสองข้างด้าน รอยด้านนั้นหนาแตกเป็นร่องๆ ความด้านของสรีระส่วนนี้ของเธอ ด้านกว่าส้นเท้ากรรมกรหรือชาวนาคนใดที่ผมเคยพบ

 

สายตาผมกวาดขึ้นมาจนถึงดวงหน้า เป็นดวงหน้าที่สงบเฉย มองตรง ไม่จ้องตาแต่ไม่สบตาใคร เหมือเธอจะมีโลกส่วนตัวท่ามกลางความอลหม่านบนรถไฟฟ้า BTS

 

อีกสี่สถานีผมจะถึงที่หมาย เธอจะลงสถานีไหน ผมตั้งคำถามตัวเอง รถแล่นไปสองสถานี เธอเริ่มมีปฏิกริยา

 

เธอโยนถุงเย็บจากกระสอบปุ๋ย ท่าทางหนัก ลงจากที่นั่งข้างกายด้วยศอกสองข้าง แล้วโยนตัวลงพื้นรถ แบบลงมาแล้วตัวตรงยิ่งกว่านักกายกรรม เธอพริ้วกายมาริมประตูทางออก เร็วจนผมไม่ทันสังเกตุว่า...มาได้ไงเนี่ย

 

คราวนี้เธอมาอยู่ตรงที่ผมยืนพอดี ผู้โดยสารบริเวณนั้นงุนงง มองหน้ากันเลิกลั่ก ผมก้มไปถามเบาๆ ...พี่ พี่ มีอะไรที่ผมจะช่วยได้บ้าง...

 

...ไม่เป็นไร เคยนั่งมา เดียวมีคนรอช่วย...เธอตอบด้วยเสียงราบเรียบ ไม่ยินดีกับความปรารถนาดีของผม แต่ก็ไม่มีน้ำเสียงปฏิเสธ

สองสามนาทีถัดมา รถไฟฟ้าจอดสนิท ประตูเปิดออก เธอใช้ศอกสองข้างหนีบถุงกระสอบ แล้วโยนลงที่ชานชลาเสียงดังตุ๊บ กระสอบต้องหนักแน่ๆ รปภ.มายืนรอพร้อมช่วย เข้าใจว่าคนขับคงวิทยุแจ้งไว้ก่อน เธอก็ไม่นำพากํบความช่วยเหลือ โยนตัวเองไปที่ชานชลา แล้วโยกตัวเองไปที่ถุงกระสอบ

รปภ.ช่วยแค่หิ้วถุงกระสอบ ขณะที่หญิงพิการรายนี้ โยกตัวตาม ด้วยเข่าที่แสนด้าน เป็นการ "เดิน" ที่ทรนงมาก ในสายตาผมซึ่งมองตามจนรถเคลื่อนจากสถานี จนเธอลับสายตาไปตรงมุมทางลงบันได

 

ผมทราบว่าผู้พิการไม่ต้องการ "ความสงสาร" หรือ "ความเห็นใจ" ซึ่งผู้คนหยิบยื่นให้ด้วยคิดว่าผู้พิการด้อยกว่า หรือมีน้อยกว่า ผู้พิการเพียงต้องการ "โอกาส" ที่อยู่ร่วมในสังคม อยู่ร่วมกับคนปกติที่ไม่พิการ

เท่าที่ได้พบ "เธอ" คนนี้ ในเวลาสิบนาที ย้ำความจริงว่า ผู้พิการเพียงต้องการ "โอกาส" ที่อยู่ร่วมในสังคม อย่างมีศักดิ์ศรีเท่านั้น


คำสำคัญ (Tags): #ผู้พิการ#โอกาส
หมายเลขบันทึก: 442985เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2011 10:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ผมเชื่อเช่นนั้น ครับ

เชื่อมาตลอดชีวิตของผมเสมอมา

เพราะที่นี่ ที่น้องชายของผมรวมอยู่ด้วย

ขอบคุณมากนะครับ

เห็นด้วย 100%

ศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกัน เป็นสิทธิพื้นฐานของความเป็นมนุษย์

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะอาจารย์ "ผู้พิการเพียงต้องการ "โอกาส" ที่อยู่ร่วมในสังคม อย่างมีศักดิ์ศรี"

เธออยู่อย่างมีคุณค่าและมีศักดิ์ศรี

แล้วเราล่ะ... ผมมักถามตัวเองว่า...

สมบูรณืเพียบพร้อมอย่างนี้..

เราทำวันนี้..ให้ดีถึงที่สุดแล้วหรือยัง

พี่ผู้หญิงที่ผมพบ และนำมาเล่าต่อนั้น มีความพิการแต่กำเนิด ซึ่งไม่ทราบสาเหตุ เรียกว่าโรค Phocomelia ผมแนบภาพของ Nick Vujicic ช่าวออสเตรเลีย ขณะนี้อายุ 26 ปี เดินทางไปมาแล้ว 24 ประเทศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน เช่น นักเรียนโรงเรียนมัธยม นักเรียนเห็นความสามารถของ Nick แล้วอึ้ง บางคนน้ำตาซึม ตามชมที่ YouTube http://www.youtube.com/watch?v=zKtw6cculF4&feature=related

พี่ผู้หญิงที่ผมพบนั้น แขนยาวกว่านิคราวสองคืบ ขาก็ยาวพอกัน แต่หน้าตานิคสดชื่นกว่า

สวัสดีครับคุณ หมอ เคยร่วมโครงการทวีพลังคนพิการ พัทลุง ค้นพบความต้องการของผู้พิการว่า"ต้องการการยอมรับจากสังคม" จากจุดนั้นเกิดสมาคมคนตาบอดพัทลุง เป็นที่แบ่งปันเรียนรู้และทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

เราก็อดสงสารเขาไม่ได้นะคะ เมื่อเห็นผู้พิการ

สวัสดีครับคุณหมอ พวกเราชาวน่านไม่เคยลืม  ส่งภาพชาวจีนที่สู้ชีวิต รายนี้พอมีแขนแต่ไม่มีขามาสนับสนุนบันทึก ๑๓ มิ.ย.๒๕๕๔ 

ขอบคุณคุณธนู และเพือนๆ ที่น่านครับ

สวัสดีครับคุณหมอ นำคนพิการมากความสามารมาฝาก  คุณสมบัติ  ใจหลัดจากปากน้ำโพ นักดังทางภาคใต้

โดนใจให้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และให้พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลคนพิการ โดยให้เกียรติและรู้จักคุณค่าท่านเหล่านั้นด้วย

ไม่มีแขน ไม่มีขา ยังมีค่าความเป็นคน ...เยี่ยมจริงๆ

จักมีแขนหรือขานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถ้าผู้น้้นยังมีคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ (ผู้มีจิตใจสูง)

ค่าของคน..สูงส่งเกินกว่า..ความไม่ครบของสภาพร่างกายภายนอกคะ

กำลังใจเข้มแข็งมาก หากเทียบกับความสามารถในการดำรงอยู่ของตัวเองแล้ว เทียบไม่ได้จริง ๆ ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ และขอชื่นชมหัวใจอันใหญ่มากของผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาทุกคนค่ะ

  • ชื่นชมทั้งคนต้นเรื่องและคนเล่าเรื่องค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท