Happy 6 Year Anniversary Gotoknow.Org


ย่าง 60 ปีชีวีผู้เขียน...ย่าง 2 เดือนเป็นสมาชิกโกทูโนว์ด็อทโออาร์จี...กับครบรอบ 6 ปีของ GotoKnow

 

 

 

 

                          ภาพ : Findimage.net                                             ภาพ : tangtamfun.com

Happy 6 Year Anniversary Gotoknow.Org

      ถ้าจะให้เปรียบ “Gotoknow.org” เป็นพืชสมุนไพร ขอเปรียบให้เป็น “ฟักข้าว” ที่ในเยื่อสีส้มจะมีสารไลโคปีนซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเยื่อของมะเขือเทศถึง 10 เท่าในน้ำหนักที่เท่ากัน แต่องค์ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ของฟักข้าวว่าพันุธุ์ใดให้สารไลโคปีนมากน้อยต่างกันอย่างไร ยังต้องรอผลจากการศึกษาวิจัย (ซ้ายมือเป็นภาพฟักข้าวจาก share.psu.ac.th ขวามือคือฟักข้าวลูกแรกของบ้านเรือนขวัญของผู้เขียน ที่ได้ต้นกล้ามาจากสปป.ลาว)  

 

    ย้อนกลับไปดูที่มาของการเป็นสมาชิก “Gotoknow.org” ในวันที่ 1 เมษายน 2554 ผู้เขียนได้ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติกับลูกสาวและลูกชายโดยแยกกันเดินพื่อไม่ให้เสียเวลารอกัน พอกลับมาพบกันอีกครั้ง พบว่า ลูกสาวได้หนังสือมา 7 เล่ม (บางเล่มแจกฟรี) ทั้ง 7 เล่มเป็นหนังสือเกี่ยวกับธรรมะ  ลูกชายซื้อหนังสือท่องเที่ยวมาเล่มเดียว แม่ได้มา 4 เล่ม เป็นตำราจิตวิทยา Pocket Book แสดงแนวคิดด้านการเรียนรู้ หนังสือแนะนำการตัดต่อ VDO  (ไว้ศึกษาเพื่อผลิตสื่อ DVD) และหนังสือสมุนไพร อย่างละเล่ม  ผู้เขียนต้องการจะมี "Blog" ของตนเองแต่รู้เรื่อง "Blog" น้อยมาก จึงได้ไปถามหาหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับ "Blog"  จาก Booths ที่ขายหนังสือ IT แต่พนักงานขายหาให้ไม่ได้ ขากลับจึงได้พูดเปรยๆ กับลูกชายว่าแม่อยากจะสร้าง Blog เป็นของตัวเอง ลูกชายบอกว่า มันยากนะ แม่จะทำได้เหรอ ก็เลยไม่พูดอะไรต่อ  ในตอนเย็นได้เข้าเน็ทและพิมพ์คำค้น "Blog" แล้วสืบค้นไปเรื่อยๆ  จนสุดท้ายได้ตัดสินใจสมัครสมาชิก Gotoknow.org เวลา 02.20 น. ของวันที่ 2 เมษายน 2554 เพราะเมื่อเทียบกับ Web. Blog อื่นๆ แล้ว คิดว่า "Gotoknow.org" เหมาะกับตนเองที่สุด พอสมัครแล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อเลยปิดเครื่องเพื่อตั้งหลัก พอเปิดเครื่องใหม่ลองคลิกดูตรงคำว่า Blog พบว่ามีคำว่า "สร้าง Blog" ก็เลยคลิกและดำเนินการตามข้อความที่กำหนดให้ทำไปตามลำดับ 

   จากวันนั้นถึงวันนี้ ผู้เขียนเป็นสมาชิก "Gotoknow.org" ยังไม่ครบ 2 เดือน ตั้งใจเอาไว้ว่า ครบ 2 เดือนเมื่อไหร่จะเขียนบันทึกเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับและความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อ "Gotoknow" แต่พอทราบจากการประชาสัมพันธ์ของ ดร.จันทวรรณ และคุณมะปรางเปรี้ยวว่า "Gotoknow" จะครบรอบ 6 ปีในวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 จึงขอถือโอกาสนี้ในการเขียน เพราะน่าจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมกว่า... ขอเริ่มต้นด้วยการรายงานว่า ในเวลาที่ผ่านมา ผู้เขียนได้สร้าง Blog ขึ้นมา 3 Blogs โดยตั้งชื่อ Blog ล้อ "Gotoknow" ดังนี้   

  

     1) Blog "Pridetoknow" (มี Background ดังภาพบน) เป็น Blog ที่่ใช้เขียนบันทึกเกี่ยวกับพฤกษานานาพันธุ์และการทำเกษตรอินทรีย์ และได้เขียนบันทึกไปแล้ว 2 เรื่อง คือ เรื่อง "ด้วยเหตุฉะนี้...ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้จึงก่อเกิด" และ เรื่อง "สุขกาย-สุขใจ ใต้ร่มเงาฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ (ตอนที่ 1)"

      

    2) Blog "Goaltoknow" (มี Background ดังภาพบน) ใช้เขียนบันทึกตามโอกาสและแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นๆ และได้เขียนบันทึกไปแล้ว 2 เรื่อง คือ เรื่อง "เมื่อเยาวชนเห็นว่าตนไร้ค่า" และ เรื่อง  "เมื่อวิชาชีพครู...ถูกกระทำย่ำยี" ส่วนเรื่องที่ 3 กำลังเขียนอยู่ ณ ขณะนี้ 

        3) Blog "Learntoknow" (มี Background ดังภาพบน) ใช้เขียนบันทึกเกี่ยวกับการศึกษา โดยมุ่งผลปลายทางอยู่ที่การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของชาติ และเพิ่งจะเขียนบันทึกไปเพียงเรื่องเดียว คือ เรื่อง "การพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียนในยุคสังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้ (ตอนที่ 1)"

      ในภายหลังผู้เขียนได้สร้าง "Plannet" ขึ้นมา 3 Plannets ได้แก่ 1) Plannet "Plants and Agriculture" ตั้งใจจะใช้รวบรวม Blogs ที่เขียนบันทึกเกี่ยวกับต้นไม้ใบหญ้า และการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งตอนหลังได้ปรับขยายเป็น "Plants, Green Agriculture and Nature"  2) Plannet " Well-being" ตั้งใจจะใช้รวบรวม Blogs ที่เขียนบันทึกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีคุณค่า หรือสุขภาวะ และ 3) Plannet " Education" ตั้งใจจะใช้รวบรวม Blogs ที่เขียนบันทึกเกี่ยวกับการศึกษา  ในตอนแรกที่สมัครรับ Blogs เข้าใน Plannets ได้ดูจากเรื่องที่บันทึกว่า บันทึกนั้นมีเนื้อหาเข้าได้กับ Plannet ใดก็รับเข้าใน Plannet นั้นๆ แต่พบว่า สมาชิกหลายท่านที่ผู้เขียนรับ Blogs เข้ามาได้สร้าง Blog เดียวแล้วเขียนบันทึกที่มีเนื้อหาทุกประเภทไว้ใน Blog นั้น เมื่อรับ Blog เข้ามา บันทึกทุกเรื่องใน Blog นั้นๆ จะตามมาทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถรวบรวมเนื้อหาเฉพาะเรื่องตามเป้าหมายเฉพาะของแต่ละ Plannet            

     ผู้เขียนสงสัยมาตั้งแต่เริ่มแรกที่สมัครเป็นสมาชิก “Gotoknow.org” แล้วว่า คำว่า "Gotoknow" มีที่มาจากอะไร แต่ก็ยังค้นหาคำตอบไม่พบ เพิ่งจะพบในวันนี้เอง ว่า "Gotoknow" เป็นคำย่อของ The Gateway of Thailand's Online Knowledge Management” เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการระบบบล็อก เพื่อการจัดการความรู้สำหรับกลุ่มคนทำงานและชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice) ของประเทศไทย และมีบทบาทในการเป็นขุมความรู้รวมของไทย และเป็นพื้นที่เสมือนให้สมาชิกสาขาอาชีพต่างๆ มารวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ลงในระบบบล็อก เริ่มให้บริการในวันที่ 27  พฤษภาคม  2548 (ผู้เขียนเป็นสมาชิกช้าไปถึง 6 ปีเชียวหรือนี่)  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ  1) ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  เป็นการจัดการความรู้ด้วยการใช้งานเว็บบล็อกสู่การเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ยั่งยืน 2) จัดเตรียมพื้นที่เสมือนและเครื่องมือสำหรับ "ชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice)" เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มคนทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ 3) สนับสนุนการเขียนเรื่องเล่าเร้าพลัง (Story Telling) จากประสบการณ์และการเรียนรู้ของผู้เขียนเอง เพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปประยุกต์ใช้ หรือจุดประกายความคิดเพื่อให้ต่อยอดความรู้ในการทำงานและกิจกรรมอื่นๆ ของผู้อ่านต่อไป และ 4) สนับสนุนการให้เกียรติแก่เจ้าของความรู้ โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์งานเขียน ภาพ เสียง และสื่อมัลติมีเดีย (จันทวรรณ ปิยวัฒน์. ม.ป.ป. : ออนไลน์; สืบค้นจาก http://www.gotoknow.org/about) ผู้เขียนรู้สึกประหลาดใจ ที่ตนเองเขียนบันทึกได้สอดคล้องกับวัตุประสงค์ของ "Gotoknow" โดยที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ดังกล่าวมาก่อน

     จากประสบการณ์ที่ได้รับในเวลาไม่ถึง 2 เดือนของการเป็นสมาชิก "Gotoknow.org" ผู้เขียนขอให้นิยามโดยการถอดรหัสคำว่า "GOTOKNOW" ไว้ว่า "Gotoknow.org  เป็น Web. Blog ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในด้านที่แตกต่างกัน ได้เขียนเล่าเรื่องราวเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองของสมาชิกแต่ละคน ให้เป็นผู้ที่มีความเปิดกว้างทางความคิด สามารถเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ และความดีงาม ส่งผลต่อการมีสุขภาวะที่ยั่งยืน ทั้งในส่วนตนและสังคม" นิยามดังกล่าว มาจากการหลอมรวมความหมายของคำ 8 คำที่ขึ้นต้นด้วยอักษร 8 ตัวของคำว่า "GOTOKNOW" ดังนี้   

        G = Gainfulness     หมายถึง การเพิ่มพูน  

        O = Opportunity    หมายถึง โอกาส

        T = Timelessness   หมายถึง ยั่งยืน ไม่มีที่สิิ้นสุด 

        O = Omnipotent    หมายถึง การมีความสามารถในทุกๆ ด้าน

        K =  Knowledge     หมายถึง ความรู้  

        N = Narration        หมายถึง การเขียนเล่าเรื่องราว

        O = Open-minded หมายถึง การเปิดกว้างทางความคิด

       W = Well-being      หมายถึง สุขภาวะ  

       ตัวอย่างความเห็นที่ผู้เขียนได้รับจากสมาชิก ซึ่งเป็นเสมือนหยาดฝนที่โปรยปรายให้ความชุ่มฉ่ำแก่ต้นไม้ใบหญ้าที่เหี่ยวเฉาด้วยเปลวแดดที่แผดเผา

        "อ.พรชัย" ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษา จ.ยโสธร "ชีวิตอาจารย์เป็นแบบอย่างคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เคยเป็นลูกศิษย์อาจารย์ตอนเรียนปริญญาตรีเอกการบริหารโรงเรียน ที่วิทยาลัยครูอุบลฯ ช่วงปี ๒๕๒๙ - ๒๕๓๑ ครับ อาจารย์สอนดีมากครับ" (ความเห็นในบันทึก เรื่อง "ด้วยเหตุฉะนี้...ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้จึงก่อเกิด" ใน Blog "Pridetoknow") 

        "คนบ้านไกล" จากสหรัฐอเมริกา "ขอแสดงความยินดีและขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ บันทึกนี้ผมว่าเป็นบันทึกที่ดีที่สุดสำหรับผม  เกิดแรงบันดาลใจครับ ฝากดอกไม้มาให้เป็นกำลังใจ ถ้าอาจารย์เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อน แสดงว่าอาจารย์เป็นคนร่วมสมัยเดียวกันครับ" และ "คุณ Poo" ที่ทำงานด้านการสงเคราะห์เด็กด้อยโอกาสในท้องที่ต่างๆ (ไม่มีข้อมูลที่อยูค่ะ) "เข้ามาชมบรรยากาศของฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้หลายครั้งครา อยากบอกว่าเป็นสวรรค์บนดินที่ใครๆ ต่างปรารถนาวิถีอย่างนี้ค่ะ แค่เพียงได้เห็นภาพยังได้จรรโลงใจและสุนทรีย์ หากได้สัมผัสสถานที่จริงคงมากกว่า ว้าว นะคะ ขอบพระคุณค่ะ"  (ความเห็นในบันทึก เรื่อง "สุขกาย-สุขใจ...ใต้ร่มเงาฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" ใน Blog "Pridetoknow") 

  

     "อ.กรรณิการ์" ชาวแม่ฮ่องสอนแต่ทำงานเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ม.ราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี "ขอบคุณสำหรับ "Case" ได้รับความรู้มากมาย อย่างน้อยจะเป็นบุคคลหนึ่งที่จะพยายามส่งเสริมให้เยาวชนเกิดการเห็นคุณค่าของตนเอง จะพยายามค่ะ" (ความเห็นในบันทึก เรื่อง "เมื่อเยาวชนเห็นว่าตนไร้ค่า" ใน Blog "Goaltoknow")

        "ดร.พจนา แย้มนัยนา" ที่ใช้ชีวิตในแคนาดาและกทม. "ขอแสดงความชื่นชมในการทำงานอย่างทุ่มเทของท่านผศ.ค่ะ..."  "แม่ใหญ่" ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาโรงเรียนพัฒนาเด็กในกทม. "เขียนได้ครบเครื่องเรื่องครูจริงๆ ค่ะ ขออนุญาต share เอาไปลงใน facebook ให้ครูที่โรงเรียนอ่านก่อนเปิดเทอมนะคะ" "ลำดวน" ศึกษานิเทศก์จังหวัดสุพรรณบุรี "...มาอ่านสองรอบค่ะ อ่านด้วยประทับใจในวิธีปฏิบัติของอาจารย์ค่ะ และเข้าใจผู้ปิดทองหลังพระดีค่ะ เพราะตัวเองก็จะเป็นเช่นเดียวกันค่ะ..." และ "Noktalay" ครูสอนเคมีระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดสงขลา "ครูนกอ่านแล้วสร้างกำลังใจในการทำงานมาก อยากให้ข้าราชการไทยได้สำนึกตามที่อาจารย์ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการครองตนตามพระบรมราโชวาท ในสังคมจำเป็นต้องมีผู้ปิดทองหลังพระอยู่บ้าง เพื่อให้บ้านเมืองอยู่ได้ ขอบพระคุณค่ะที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ต้นแบบที่ดีงามของสังคม" (ความเห็นในบันทึกเรื่อง "เมื่อวิชาชีพครู...ถูกกระทำย่ำยี" ใน Blog "Goaltoknow") 

         "คุณแว้บ" (ดร.วสะ บูรพาเดชะ)  จากม.อัสสัมชัญ สมุทรปราการ "เห็นด้วยกับอาจารย์มากๆ ในเรื่องการให้เครื่องมือผู้เรียนเพื่อที่เขาและเธอจะได้พัฒนาตนเองไปเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตครับ ความยากของเรื่องการให้ "เครื่องมือ" นั้นเริ่มกันตั้งแต่เรื่องการออกแบบหลักสูตร การฝึกอบรมครูอาจารย์ให้เห็นความสำคัญของการ "ลดการสอน เพิ่มการเรียน (โดยผู้เรียนเอง)" ส่วนครูอาจารย์ก็ผันตัวเอง ไปเป็นผู้ดำเนินการจัดหาเครื่องมือ ผู้แนะนำชี้แนวทางแทน…รออ่านบันทึกของอาจารย์ด้วยใจระทึกครับ" (ความเห็นในบันทึก เรื่อง "การพัฒาสมรรถภาพของผู้เรียนในยุคสังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้" ใน Blog "Learntoknow) 

   

  และตัวอย่างที่ผู้เขียนตอบความเห็นของสมาชิก ในบันทึกของตนเอง และแสดงความเห็นในบันทึกของสมาชิก มีดังนี้ 

      (ดร.วสะ บูรพาเดชะ) อาจารย์แม่ชื่นชมอาจารย์ลูกมากนะคะ ที่เป็น "อาจารย์รุ่นใหม่ไฟแรง" และภูมิใจแทน ม.อัสสัมชัญที่มีบุคลากรคุณภาพอย่างอาจารย์ลูก "วสะ" ที่แปลว่าความตั้งใจ...จากที่ได้อ่านการดำเนินเรื่องและสำนวนเขียนในประวัติของอาจารย์ลูกแล้ว อาจารย์แม่ว่า ถ้าอาจารย์ลูกจะเขียน "Pocket Book" เกี่ยวกับการเรียนและการทำงานของตนแล้วละก็ ตลาดหนังสือเมืองไทยจะได้หนังสือที่อ่านเพลินชนิดวางไม่ลงและยังได้สาระดีๆ ถ้าอาจารย์ลูกเขียนก็เท่ากับเป็นการสนับสนุน "ทศวรรษแห่งการอ่านและการเรียนรู้ของคนไทย (ปี 2552-2561)" ไปด้วยในตัว... ชื่นชมที่อาจารย์ลูกเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ใช้วรรณยุกต์ไทยได้ถูกต้อง คือ ใช้วรรณยุกต์โทกับอักษรต่ำเพื่อให้ออกเสียงเป็นเสียงตรี คือ "แว้บ" เพราะเดี๋ยวนี้ใช้ผิดกันมาก แม้แต่ครูอาจารย์รุ่นกลางเก่ากลางใหม่ก็ยังใช้ผิด  คือ ใช้วรรณยุกต์ตรีกับอักษรต่ำซึ่งตามหลักภาษาแล้วไม่สามารถใช้ได้ เช่นเขียนผิดกันว่า "มั๊ย" ถ้าจะให้ถูกต้องเขียน "มั้ย" เหมือนกับคำว่า ไม้ ม้า แม้น มุ้ง ที่ออกเสียงเป็นเสียงตรีแต่เขียนด้วยวรรณยุกต์โท

      อย่างที่เรียนคุณต้นกล้า (ชาวประจวบคีรีขันธ์ แต่ขณะนี้ทำงานเพื่อพัฒนาคูณภาพชีวิตของชาวนาที่นครสวรรค์) ไปแล้วนะคะว่า บันทึก Blog "เส้นทางสายนาดำ" ของคุณต้นกล้า เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ทั้งข้อมูลและภาพประกอบที่ละเอียดชัดเจนดีมาก และเนื่องจากได้รับ BLog นี้เข้าใน Plannet "Plants and Agriculture" แล้วตั้งแต่บันทึกที่ 1 จึงติดตามอ่าน ตอนที่ 2-3 ได้สะดวก ยิ่งติดตามก็ยิ่งรู้สึกอยากทำนา เพราะเห็นทุ่งนาเขียวๆ แล้วมีความสุข เช้าวันที่ 19 พ.ค. เดินทางโดยรถด่วนจากกทม. กลับอุบลฯ รถเสียเวลาไป 3 ชั่วโมง ...นั่งชมวิวสองข้างทางจากนครราชสีมา บุรีรีมย์ สุรินทร์ และ ศรีสะเกษ...เห็นภาพแปลงนาที่ไถเสร็จแล้ว และกำลังไถ ภาพควายไถนาไม่มีให้เห็นอย่างที่เคยเห็นตอนเป็นเด็ก เหลือแต่ภาพการไถนาด้วยรถไถนาเดินตาม และรถแทรกเตอร์... 

      ขอแสดงความชื่นชมกับกิจกรรม "การขับเคลื่อนหลักสูตรสื่อมวลชนศึกษาไทยรัฐวิทยาสู่ห้องเรียน: เพื่อก้าวสู่อัตลักษณ์" อย่างแข็งขันของโรงเรียนภายใต้การนำของผอ.พรชัยค่ะ... ขอเป็นกำลังใจให้งานของโรงเรียนของท่านผอ.พรชัยดำเนินไปอย่างราบรื่น บรรลุผลตามเป้าหมาย และผ่านการประเมินภายนอกรอบสามในระดับดีเยี่ยมนะคะ

      ได้อ่านบันทึกเรื่อง "ประเมินครู" ของแม่ใหญ่แล้ว อยากให้ผู้บริหารสถานศึกษาขนาดเล็กทุกแห่งได้อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ ดิฉันเองมองว่า นี่เป็นตัวอย่างของ "นวัตกรรมการประเมิน" ภายใต้หลักการ "ผ่อนคลาย โปร่งใส ให้มีส่วนร่วม" ต่างจากการประเมินที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วๆ ไป ใครได้เป็นครูในโรงเรียนของแม่ใหญ่นับว่าโชคดี และน่าจะมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานกันโดยถ้วนทั่ว ถ้าโรงเรียนอื่นๆ ได้นำไปใช้ ก็น่าจะลดปัญหาความขัดแย้งภายหลังการให้ความดีความชอบลงได้...

     ดีใจแทนอาจารย์ Ongkuleemarn ที่การพัฒนาทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายในตอนท้าย (Happy Ending) และขอแสดงความยินดีที่หนูเสียงของพระจันทร์เปลี่ยนทัศนะที่มีต่อการมอบงานของอาจารย์ ซึ่งทำให้หนูได้รับสิ่งที่มีคุณค่าในการดำเนินชีวิต (แสดงความเห็นในบันทึกของเสียงของพระจันทร์ นักศึกษาในโครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ : สควค.)

     ดิฉันได้รับ Blog ของท่านเข้าใน Plannet "Education" จึงสามารถติดตามอ่านบันทึกของท่านได้ตลอด ซึ่งทุกเรื่องมีประโยชน์สำหรับครูอาจารย์มากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการทดสอบเพื่อให้ครูรู้พื้นฐานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล การช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจตนเอง และการพัฒนาทักษะการคิด (ซึ่งดิฉันเองก็ได้ทำในทุกกิจกรรมดังกล่าวในการสอนทุกรายวิชาในระดับปริญญาตรี) จึงขอขอบพระคุณที่ท่านได้เผยแพร่ความรู้-แนวปฏิบัติที่เป็นประโยชน์เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ครูอาจารย์ ... อยากจะขอเสริมเรื่องท่าทีและการจัดการของครูต่อพฤติกรรมก่อกวนของนักเรียนนักศึกษา ที่ในทางจิตวิทยาจะเรียกว่า "การปรับพฤติกรรม" ซึ่งมีอยู่หลายวิธี ...ครูบ้านเราเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะมีท่าทีและวิธีปฏิบัติตรงกันข้ามกับครูเลาแอนน์ คือ เวลาผู้เรียนมีพฤติกรรมก่อกวนในชั้นเรียน ครูอาจารย์จะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว กลายเป็นทะเลาะกับผู้เรียนคนนั้นต่อหน้าเพื่อนๆ ซึ่งจะแก้ปัญหาพฤติกรรมก่อกวนไม่ได้ อีกทั้งยังจะทำให้ผู้เรียนขาดความศรัทธาในตัวครูอีกด้วย จึงควรนำท่าทีและการจัดการตามแนวทางของครูเลาแอนน์ไปประยุกต์ใช้เป็นอย่างยิ่ง (แสดงความเห็นในบันทึกของ  ศ.ดร.วิจารณ์ พานิช นักวิชาการของสถาบันจัดการความรู้  [The  Knowledge Management Institute] กทม. ผู้เขียนเคยรู้จักท่านตอนที่ท่านดำรงตำแหน่งผอ.สถาบันส่งเสริมการวิจัย: สกว.)  

     เป็นบันทึกที่มีคุณค่ามากค่ะ ทั้งคุณค่าด้านจิตวิญญาณและด้านสติปัญญา ขออนุญาตรับ Blog เข้าใน Plannet "Well-being" เพื่อศึกษาซ้ำ เป็นแหล่งอ้างอิง และติดตามศึกษาบันทึกต่อๆ ไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ให้สิ่งดีๆ แห่งวัน (แสดงความเห็นในบันทึกของ คุณศุภิศรา เจริญไพฑูรย์ อาจารย์วิทยาลัยพยาบาลในกทม.) 

     ขอบคุณมากนะคะ (คุณกานดา จ.เชียงใหม่) สำหรับความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณและเมนูดอกอัญชัญ ที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้และที่บ้านเรือนขวัญมีอัญชัญทั้งสีน้ำเงิน สีม่วงและสีขาวค่ะ ใบเตยที่บ้านเรือนขวัญมีสองกอเล็กๆ แต่ที่ฟาร์มมีกอใหญ่ๆ หลายกอ ส่วนมะนาวที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ตอนนี้ดกมากจนกิ่งระพื้นต้องทำค้างให้ ถ้าอยู่ใกล้กันคงจะเก็บมาฝากคุณกานดาและสมาชิก GotoKnow ที่คุ้นเคย ใบเตยจะใส่กระติกน้ำร้อนชงกาแฟและชาทุกเช้า และใส่อาหารเพิ่มความหอมค่ะ พรุ่งนี้จะทำ "เมนูชาดอกอัญชัญสีน้ำเงินผสมใบเตยบีบมะนาวและเหยาะน้ำผึ้ง" Surprise พ่อใหญ่สอ ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่แนะนำเมนูสุขภาพ

     อาจารย์ลูก (ดร.ขจิต) คะ เมื่อเช้าอาจารย์แม่เดินทางจากฟาร์มและไปแวะที่ช่องใส่เอกสารของอาจารย์คณะครุศาสตร์...พบซองเมล็ดพันธุ์ที่อาจารย์ลูกส่งไปให้รออยู่ เป็นไปตามคาดคงจะถึงเมื่อวานนี้ อาจารย์แม่ตื่นเต้นมาก รีบกลับบ้านไปเปิดซองสำรวจ พบเมล็ดพันธุ์ 3 ชนิด อาจารย์แม่ตั้งชื่อว่า "เมล็ดพันธุ์แห่งพรหมวิหาร" เมล็ดตะคึกหรือจามจุรีสีทอง เป็นเมล็ดของ "ต้นเมตตา"  มาจากการที่อาจารย์แม่ได้รับมอบในสิ่งที่ตนเองอยากได้มากๆๆๆ ทำให้อาจารย์แม่มีความสุข เมล็ดบวบเป็นเมล็ดของ "ต้นกรุณา" มาจากการที่อาจารย์แม่จะได้กินผักที่ปลูกเองจึงปลอดภัยจากสารพิษ ทำให้พ้นจากความทุกข์ และเมล็ดถั่วเป็นเมล็ดของ "ต้นมุทิตา" คือ ครูคิมแสดงความยินดีที่อาจารย์แม่สมหวัง ด้วยการส่งเมล็ดพันธุ์จากต่างแดนมาให้...ขอบคุณมากๆๆๆ อีกครั้งนะคะทั้งอาจารย์ลูกและครูคิม อ้อ! อาจารย์แม่มีเมล็ดไก่ฟ้า ...ถ้ามีใครอยากได้เมล็ดไก่ฟ้าก็บอกนะคะอาจารย์แม่จะส่งไปให้ เอาเป็นว่าส่งไปพร้อมกับ "มะม่วงงามเมืองย่าก็แล้วกันนะคะ"  

 

      พี่น่ะไม่มีน้องสาว มีพี่สาว 2 คนกับน้องชาย 2 คน เป็นลูกคนกลางที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "The Wednesday Child" Adler นักจิตวิทยาบุคลิกภาพอธิบายว่า ลูกคนกลางมักจะไม่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ จึงมีนิสัยชอบแข่งขัน ตอนเป็นเด็กก็จะแข่งขันกับพี่/น้องเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ พอเข้าเรียนก็แข่งขันกับเพื่อน จบออกไปทำงานก็แข่งขันกับผู้ร่วมงาน อะไรทำนองนั้น ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่พี่เลย พี่และลูกๆ เหมือนกันคือไม่เคยเอาตัวเองไปเทียบกับใคร เลยไม่เคยรู้สึกอยากแข่งกับใคร ไม่เคยอิจฉาริษยาใคร แต่พี่เองมีมาตรฐานในการทำงานสูง จึงแข่งกับตัวเองเพื่อทำงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ เมื่อพี่ไม่มีน้องสาว พอได้ติดต่อสื่อสารกับสมาชิกที่มีวัยพอเป็นน้องได้ และได้รู้จักตัวตนกันพอสมควรก็จะเริ่มรู้สึกผูกพัน อย่างเช่นสมาชิก Gotoknow ที่รู้สึกรักเหมือนน้องสาวคนแรกก็คือ "ครูอิน" ครูที่อุตรดิตถ์ และคนต่อมาก็คือน้อง "วิญญาณ (เกษเกล้า)" ครูที่ยะลา นี่แหละค่ะ (เป็นน้องสุดท้อง เลยอายุห่างกันมากหน่อย) ส่วนสมาชิกอื่นๆ ก็ประทับใจในลักษณะต่างๆ กันไปหลายท่าน 

      ดีมากเลยค่ะคุณครูกิติยา (จ.พิษณุโลกเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กับการเรียนในยุคสังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้ คุณครูคงไม่เขียนค้างไว้แค่นี้นะคะ ดิฉันสนใจรายละเอียดของชั้นเรียนของคุณครู (นักเรียนชั้นไหน และจำนวนนักเรียน) ขั้นตอนต่างๆ ในการปฏิบัติของอาจารย์ ผลที่เกิดขึ้น ปัญหาอุปสรรค และวิธีการแก้ปัญหา จะติดตามอ่านค่ะ และจะนำไปเป็นกรณีตัวอย่างการจัดการเรียนรู้ในบริบทของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้นักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบันฑิต (5 ปี) เรียนรู้เพิ่มเติมในหัวเรื่อง "การจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน" ในรายวิชา "จิตวิทยาสำหรับครู"

      ขอบคุณ "คุณครู Noktaley" มากค่ะ ที่เข้ามาให้กำลังใจอีกครั้ง ได้เข้าไปอ่านสิ่งที่คุณครูปฏิบัติในวันปฐมนิเทศนักเรียนที่เรียนวิชาเคมีกับคุณครูแล้ว รู้สึกชื่นชม นี่แหละค่ะเป็นตัวอย่างของครูผู้มี "จิตวิญญาณของการเป็นครู" พยายามหาวิธีที่จะพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนอย่างไม่หยุดนิ่ง การเริ่มต้นของกระบวนการจัดการเรียนรู้ ด้วยการใช้เครื่องมือเพื่อให้ครูรู้จักผู้เรียนเป็นรายบุคคลอย่างที่คุณครูทำ ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้ได้สอดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนของครูทั่วๆไปที่เพียงแสดงผลเป็นภาพรวมว่า วิธีการจัดการเรียนรู้ที่ครูใช้ สามารถทำให้ผู้เรียนโดยรวมมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นนั้น พี่ว่ามีคุณค่าน้อยกว่าการแสดงให้เห็นว่า นักเรียนแต่ละคนมีพัฒนาการในการเรียนรู้อย่างไร ภายใต้การจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมของครู

     สวัสดีค่ะ ลูกครูฐานิศวร์ ผลเจริญ (ครูสอนคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาที่บุรีรัมย์) ขอบคุณลูกครูมากนะคะ ที่มาเยี่ยมชมและแสดงความชื่นชอบฟาร์มเกษตรอินทรีย์และแหล่งสะสมพรรณพฤกษ์ของแม่ครู ลูกครูเป็นความหวังหนึ่งของประเทศ ในการพัฒนาสมรรถภาพการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ในกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ของนักเรียน (ด้วยกระบวนการวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน) ซึ่งภาพรวมระดับประเทศเป็นกลุ่มสาระหนึ่งที่อยู่ในระดับต่ำสุด (จากผลสอบ ONET' 53) เตรียมแผนการวิจัยไว้แล้วใช่ไหมคะ จะเริ่มปฏิบัติการในภาคเรียนที่ 1/2554 นี้หรือเปล่า ถ้าจะเขียนบันทึกเกี่ยวกับแผนการวิจัยใน Blog "Gotoknow" ด้วยก็ดีนะคะ จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูคณิตศาสตร์ท่านอื่นๆ แม่ครูขอเป็นกำลังใจให้ทำสำเร็จตามเป้าหมายนะคะ

     ขอขอบคุณในน้ำใจชาว Gotoknow ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ผู้ที่ให้การดูแลและให้กำลังใจมาแต่แรก จนรู้สึกผูกพันเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว คือ อาจารย์ลูก ดร.ขจิต ฝอยทอง ชาวกาญจนบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้มีสไตล์การเขียนเรื่องเล่าแบบเร้าใจ "...โอ้โห อาจารย์แม่ ต้นไม้เต็มเลย อยากได้พันธุ์ต้นไม้อะไรบ้าง เผื่อมีเมล็ดจะได้ส่งไปให้ครับ...ต้นแก้วมังกรออกลูกเต็มเลย น่ากินมากๆๆๆ"

    ขอบคุณศน.ลำดวนจากสุพรรณบุรี ครูอินจากอุตรดิตถ์ และ อ.ปถม จากม.ราชภัฏศรีสะเกษที่ติดตามให้กำลังใจมาโดยตลอด

   ขอบคุณ คุณครูอัมพร ครูชำนาญการพิเศษสาขาภาษาไทย ในกทม.  ผู้มีน้ำใจเอื้อเฟื้อนิทานสำหรับเด็ก "บางเล่มยัง มีจำหน่ายตามสำนักพิมพ์ค่ะ  แต่มีนิทานภาพสามผู้วิเศษเล่มนี้ที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ใคร (ภาพวาดเป็นของน้องหญิงที่น่ารักและใจดี)  เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ก็โหลดไปฝากหลานๆได้เลยค่ะ...ฝากให้ด้วยใจรักเด็กทุกคนค่ะ"

    ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้กล่าวนามไปแล้ว กราบขอบพระคุณพระมหาวินัย ขอบคุณ อ.รุ่งทิพย์ KRU DALA หนูปริม ทัดบุปผา (จบปริญญาเอกเภสัชฯ จากอังกฤษและทำงานที่สิงคโปร์)  ครูหยุย อ.นุ อ.ปณิธิ Pa-daeng ครูอ้อย แซ่เฮ ผอ.บวร ผอ.วัฒนา คุณ Santirat คุณจันทรักษ์ ครูเดย์ คุณแสงแห่งความดี คุณบานหน้าต่าง คุณวอญ่า Miss Suda-Chantawong และคุณโสภณ ที่ให้กำลังใจ/ให้ความเห็น    

    และขอขอบคุณทีมงาน "GotoKnow" ที่ให้โอกาสดีๆ ในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่มสังคมที่สร้างสรรค์และอบอุ่น ขอคุณความดีที่ทีมงานและสมาชิก "GotoKnow" ได้ทำมา อำนวยผลให้ทุกท่านอยู่ดีมีสุข มีพลังกายพลังใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมตลอดไป 

               "Happy 6 Year Anniversary Gotoknow.Org"

                              ด้วยความปรารถนาดีจากใจ

               &nb

หมายเลขบันทึก: 441045เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2011 17:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2013 10:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

อาจารย์แม่ ผมอ่านทุกคำแบบไม่ให้พลาดสายตา เก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด เห็นทั้งความสุขและความปลื้มปิติครับ

     อาจารย์ลูก ดร.ขจิต ทำให้อาจารย์แม่น้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้อจารย์แม่ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ และคงจะมีในวันต่อๆ ไป 

มานั่งพับเพียบเรียบร้อยอ่านอย่างตั้งใจค่ะ555

สวัสดีค่ะ อาจารย์แม่ (แอบเรียกตาม อ.ขจิต)

อ่านบันทึกนี้เต็มอิ่มและมีความสุขจังค่ะ ที่ได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคมของ GotoKnow

หากมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน สอบถามได้เลยนะค่ะ ^___^

ซาบซึ้งใจมากครับอาจารย์

อาจารย์ แม่ เรียก ขจิต เฉยๆๆก็ได้ ไปเยี่ยมแฟน(พ่อ)มา แม่แอบขายมะม่วงไปได้เงินเต็มเลย 555 ความสุขของการปลูกต้นไม้ให้แม่ดูแล 555

ขอบคุณทุกท่านมากนะคะ ที่่เข้ามาให้กำลังใจและแสดงความเห็น พอดีวันที่ 28 พฤษภาคม 2554 เป็นวันที่ดิฉันปฏิบัติภารกิจด้าน "การให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน และการพัฒนาครูประจำการ" ซึ่งมีความต่อเนื่องด้านงานเอกสาร มาจนถึงวันนี้ และได้ใช้เวลาเข้าไปแก้ไขเพิมเติมในบันทึกนี้ เพราะพบว่ายังไม่สมบูรณ์และยังมีข้อผิดพลาด จึงเพิ่งจะมีโอกาสเข้ามาตอบขอบคุณทุกท่านที่ได้เข้ามาแวะเยี่ยมค่ะ

      ขอบคุณ "น้องวิญญาณ (เกษเกล้า)" จากยะลา ที่มานั่งพับเพียบเรียบร้อยอ่านบันทึกนี้แต่ไก่โห่... เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าเห็นตากัน สวยยังงี้ยังปล่อยให้สัมผัสเพียงวิญญาณมาตั้งนาน  

      ขอบคุณ "ลูกมะปรางเปรี้ยว" หนึ่งในทีมผู้ดูแลระบบ "Gotoknow.org" ปลื้มใจที่หนูบอกว่า อ่านบันทึกนี้แล้วเต็มอิ่มและมีความสุข ที่ได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคมของ GotoKnow ที่บ้านอาจารย์แม่มีแต่มะปรางหวาน จึงนำภาพมะปรางหวานมาฝาก ส่วนที่เปรี้ยวอมหวานเป็นมะยมเลยนำภาพมาฝากคู่กัน (เป็นมะยมรุ่นแรกของปีนี้ซึ่งดกมาก ขณะนี้เป็นรุ่นที่ 2 ซึ่งออกหรอมแหรมไม่ดกเหมือนมะปรางรุ่นสอง) ...มะปรางเปรี้ยวมีคุณค่าทางโภชนาการ (วิตามินซี) มากกว่ามะปรางหวานนะคะ

 

     ขอบคุณ "คุณทิมดาบ" นักวิชาการสาธารณสุข จากชัยภูมิ ที่เข้ามาเยี่ยมและบอกถึงความรู้สึกว่า "ซาบซึ้งใจมาก..." ...คนที่มีจิตใจดีงาม...ย่อมสัมผัสได้ในสิ่งที่ดีงาม...ขอบคุณมากค่ะ ขอโทษนะคะที่แก้นิสัยช่างสงสัยไม่หาย ภาพส่วนตัวที่เป็นภาพเด็กท่าทางน่าเอ็นดูนั้น เป็นภาพของคุณทิมดาบในวัยเด็กหรือภาพของลูกชายคะ ที่ขอถามเพราะเคยเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรับรู้ภาพประจำตัวของ "คนบ้านไกล" มาแล้วค่ะ

     ตกลงต่อไปนี้จะขออนุญาตแฟน [พ่อ] ดร.ขจิต ที่ไร่พนมทวน เรียก "ลูกขจิต" ก็แล้วกันนะคะ (แล้วที่ "ลูกขจิต" เอาแฟน [พ่อ] มาพูดถึงบ่อยๆ น่ะ ได้รับอนุญาตจากท่านหรือเปล่าคะ  ที่อาจารย์แม่พูดถึงลูกชาย ลูกสาว และพ่อใหญ่สอ น่ะ ได้ผ่านการขออนุมัติมาแล้วทั้งนั้น) ลูกขจิตบอกว่ากลับจากไปเยี่ยมคุณแม่มา แม่แอบขายมะม่วงไปได้เงินเต็มเลย (มะม่วงอกร่องใช่ไหมคะ ขายกันยังไงเอ่ย) ทำให้ลูกขจิตมีความสุขที่ได้ปลูกต้นไม้ให้แม่ดูแล

    ตรงกันข้ามกับอาจารย์แม่ ที่เวลากลับไปเยี่ยม "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" จะได้ยินเสียงบ่นของพ่อใหญ่สอทุกครั้งว่า อาจารย์แม่สร้างภาระในการรดน้ำต้นไม้ให้ เพราะหาไม้ดอกไม้ประดับไปปลูกโดยไม่มีที่สิ้นสุด จริงๆ  แล้วก็เป็นเพียงการนำไปปลูกทดแทนในตำแหน่งที่ต้นเก่าทรุดโทรมหรือตายไป  เวลาไปถึงฟาร์มสิ่งแรกที่อาจารย์แม่ทำ คือ การเดินสำรวจเพื่อติดตามการเจริญเติบหรือการเปลี่ยนแปลของของต้นไม้ทุกต้น ยกเว้นสวนผลไม้ของพ่อใหญ่สอที่จะสำรวจเป็นภาพรวม กลับจากกทม.ไปสำรวจฟาร์มในวันที่ 19 พ.ค. พบว่า ต้นตะขบยักษ์ (ต้นละ 250 บาท) และต้นตาด (ไม้ป่า) ที่ซื้อจากงานเกษตรแฟร์ ม.อุบลฯ ครั้งที่แล้ว ตายไปเรียบร้อย  ส่วนต้น "แคป่า" ที่อาจารย์แม่ปลูกมาหลายปีและดูแลประคบประหงมเป็นอย่างดี รอคอยว่าเมื่อไหร่จะออกดอกให้ได้ชื่นชม แต่ถูกพ่อใหญสอย้ายที่ปลูกไป 2 ครั้ง พบว่าส่วนบนแห้งหมดแล้ว เหลืออยู่เพียงประมาณ 2 ฟุตจากพื้นดินที่ยังไม่แห้ง อาจารย์แม่ได้เลื่อยส่วนที่แห้งออก แล้วพรวนดินใส่ปุ๋ย จะรอดูสักระยะถ้าไม่ผลิใบใหม่ก็คงจะต้องหาต้นใหม่ไปปลูกแทน เมื่อกี๊พ่อใหญ่สอก็โทรฯ มา ให้อาจารย์แม่ขุดกล้วยบัวสีชมพูจากบ้านเรือนขวัญไปให้แกปลูก (กอที่แกปลูกที่ฟาร์มตายไป 2 รอบแล้ว)...อาจารย์แม่เขียนยาว ถ้าขี้เกียจอ่านหรือไม่มีเวลาอ่านก็ไม่ต้องอ่านนะคะ... อ้อ! อาจารย์แม่ชักไม่แน่ใจเรื่องจะส่งมะม่วงไปให้เพราะเห็นมะม่วงที่ไร่พนมทวนเยอะแยะ คงจะเบื่อทานมะม่วงแล้วสิ เอาเป็นว่าให้มะม่วงที่ไร่พนมทวนวายถึงจะส่งไปให้แล้วกันนะคะ เป็น "พันธุ์งามเมืองย่า" ที่ผู้พัฒนาพันธุ์ผลิตส่งขายเยอรมัน ปีนี้เขาขายหน้าสวนก.ก.ละ 90 บาท วันพุธที่แล้วพ่อใหญ่สอขายส่งไปก.ก.ละ 25 บาท (ถ้าคิดต้นทุนรวมค่าขนส่งขาดทุนมากแน่ๆ)  คนขายต่อเขาขายก.ก.ละ 40-45 บาท ขายดีมาก มะม่วงพันธุ์นี้จะขนาดผลโตมาก ลูกละ 8 ขีดถึงกิโลครึ่ง ค่ะ 

  • เย้ๆๆ ดีใจอาจารย์แม่เรียก ลูกขจิต
  • แฟน(พ่อ)ใจดี เลยเอาแฟน(พ่อ) มาเล่าให้ฟังที่นี่
  • ขออนุญาตแล้ว
  • ผมหน้าเหมือนแฟน(พ่อ)ไหมครับอาจารย์แม่ฮ่าๆ
  • แฟน(พ่อ)บอกว่า เมื่อไรจะแต่งงาน ฮา ทำเหมือน หาได้ง่ายๆ
  • เห็นหน้าตาแบบนี้ เลือกเหมือนกันนะแม่ ฮา
  • อาทิตย์ที่แล้ว
  • คุณสามารถคนนี้
  • เป็นบล็อกเกอร์ของเรา เชี่ยวชาญเรื่องไม้ผล
  • เอามะม่วง มหาชนก มาฝาก
  • เอาไปฝากน้ายาม แม่บ้าน และอาจารย์อีกหลายท่าน
  • ยังกินไม่ไม่หมดเลยครับ 
  • ฝากมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่าไว้ก่อนนะครับ
  • ที่บ้านไร่พนมทวนมีมะม่วงอกร่อง ที่บ้านกาญจนบุรีมี มะม่วงเขียวเสวยที่ออกลูกดกมาก
  • ผมตอนกิ่งมาปลูกสมัยเรียนมัธยมฯ ไม่คิดว่าจะต้นใหญ่(แต่ปลูกด้วยเมล็ดจะแข็งแรงกว่าครับ)
  • ตะขบลูกใหญ่เป็นตะขบป่าหรือตะขบบ้านครับ
  • ใช่เหมือนภาษาอีสานเรียกว่า  บักเบ็น  ใช่ไหมครับ
  • ขอบคุณครับ...

ขอบคุณมากเช่นกันค่ะ วันนี้ตั้งใจนำอาหารสุขภาพมาฝากเพิ่มอีกนะคะ

 

 

http://gotoknow.org/blog/kanda02/440804

 

 

 

http://gotoknow.org/blog/kanda02/441361

 

 

สวัสดีค่ะอาจารย์

"ยิ่งใหญ่"  จริง ๆค่ะ  ขอร่วมแสดงความยินดีค่ะ

 GotoKnow เป็นชุมชนของผู้ให้มากมายจริง ๆค่ะ

    เมื่อคืนนี้เข้ามาอ่านความเห็นของลูกขจิต คุณกานดา น้ำมันมะพร้าว และคุณคิม นพวรรณ พ่อลูกชายคนโปรดถามเรื่องตะขบยักษ์ ตะขบป่า บักเบ็น (ดูจะรู้เรื่องอะไรๆ ของทางอีสานอยู่ไม่น้อย เห็นบอกว่าเคยไปกินต้มฝักลิ้นฟ้าที่อีสาน ถามว่าไปกินที่จังหวัดไหนก็ไม่เห็นตอบ แต่บางเรื่องก็รู้มาแบบเพี้ยนๆ เช่น เมนูแกงกะปอม) เลยต้องไป Search หาข้อมูลมาตอบคนช่างถาม กลับเข้ามาอีกทีเที่ยงคืนแล้ว กลัวพิมพ์ตกหล่น พิมพ์ซ้ำ เหมือนเมื่อวานนี้ ก็เลยชะลอไว้ก่อนค่ะ

    ขอบคุณ คุณกานดามากนะคะ เข้ามาเยี่ยมทีไรเป็นต้องมีของดีมาฝากทุกครั้ง น้ำผักปั่นน่ะพี่จะส่งสูตรไปให้ลูกสาวเพราะรายนั้นชอบทำรับประทาน พี่เองไม่ค่อยทำงานละเมียดละไมเท่าไหร่ ถนัดงานลุยๆ มากกว่า พี่เป็นคนที่ทานผักเยอะมาก ทานจนติด มื้อไหนไม่มีผักไม่ได้ อยู่ที่บ้านเรือนขวัญและที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ไม่มีปัญหา มีผักหลายชนิดให้เก็บกิน เวลาพี่ไปไหนพี่ต้องพกผักไปด้วยเพราะกลัวไม่มีกิน อย่างเช่นไปอยู่ที่เกาะช้าง 14-16 พ.ค. พี่ก็นำมะเขือเปราะ และขมิ้นขาวไปด้วย แต่พี่จะทานง่ายๆ แบบคนอีสาน คือใช้กินสดๆ และใช้นึ่งใช้ลวกค่ะ อ้อ! คุณกานดาเคยบอกว่าจะเขียนเรื่องฟักข้าวไม่ใช่หรือคะ Miss Suda-Chantavong เธอบอกในไฟล์อัลบั้มฟักข้าวที่พี่ใช้ประกอบบันทึกนี้ ว่า อยากจะรู้สรรพคุณเต็มๆ ของพืชชนิดนี้ พี่ให้ข้อมูลงานวิจัยไว้นิดหน่อยและบอกให้รออ่านรายละเอียดจากบันทึกของคุณกานดา หวังว่าคงได้อ่านในไม่ช้านี้นะคะ   

     ขอบคุณน้องคิม นพวรรณ จากพิษณุโลกมากนะคะที่มาร่วมแสดงความยินดี รอยยิ้มของน้องในแต่ละภาพดูมีความสุขจริงๆ นะคะ พี่แอบ Add ประวัติของน้องเข้าใน Folder ประวัติสมาชิก Gotoknow มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วล่ะค่ะ (ในฐานะผู้มีประวัติที่น่าสนใจติดตามผลงาน แต่ยังไม่มีโอกาสเข้าไปอ่านบันทึกของน้อง จะหาโอกาสเข้าไปอ่านให้ได้) เคยฝากขอบคุณที่ได้รับ "เมล็ดพันธุ์มุทิตา (เมล็ดถั่วญี่ปุ่น)" จากน้องไปกับลูกขจิต ไม่ทราบว่าถึงหรือเปล่าคะ ก็ขอขอบคุณโดยตรงอีกครั้งหนึ่งแล้วกันนะคะ แล้วน้องไปได้เมล็ดถั่วมาจากไหน พี่ให้ลุงสอเพาะไว้แล้วล่ะค่ะ พร้อมกับเมล็ดจามจุรีสีทอง และบวบหอม เย็นนี้จะแว้บ ออกไปติดตามดูซักหน่อยว่างอกแล้วยัง พี่ชอบคติของน้องเพราะตรงกับคติของพี่ คือ "ทำดีเพื่อดี ทำงานเพื่องาน" ท่านพุทธทาสภิกขุท่านก็สอนไว้อย่างนั้น ซึ่งเราก็น้อมนำมาปฏิบัติเพราะมันตรงกับอุปนิสัยของเราอยู่แล้ว แล้วเจอกันใหม่นะคะ See you around.

   ลูกขจิตนี่ยังไงนะ เมื่อวานทำให้อาจารย์แม่ร้องไห้ วันนี้ทำให้หัวเราะ จะทำให้อาจารย์แม่เป็นคนมีอารมณ์ไม่คงที่ขึ้นๆ ลงๆ ไปแล้วไหมล่ะ ตอนอบรม "ศาสตร์แห่งนพลักษณ์" หลายเดือนก่อน วิทยากรเขาถามอาจารย์แม่ว่า ร้องให้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจารย์แม่นึกไม่ออก เพราะไม่ค่อยได้ร้องไห้จากการที่เป็นคนอดทนต่อปัญหาที่มันมีมากมีบ่อยจนกลายเป็นความชินชา แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ตัวเองเป็นคนที่อ่อนไหวต่อเหตุการณ์ที่ซาบซึ้งใจ จึงร้องไห้เมื่อมีความสุขแต่จะไม่ร้องไห้เมื่อมีความทุกข์ 

   ถามอาจารย์แม่ว่า ตัวเองหน้าตาเหมือนแม่ไหม เคยเอาหน้าแม่มาให้ดูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อยากเห็นนะคะ (สังเกตุไหมว่า ตั้งแต่เปลี่ยนมาเรียก "ลูกขจิต" นี่ สำนวนเขียนอาจารย์แม่จะเปลี่ยนไป ก็คนมันอินนี่นา นึกว่าเป็นลูกตัวเองจริงๆ และก็เป็นลูกที่ยังเป็นเด็กด้วย เพราะตอนที่ลูกชายเรียนมัธยมเขาจะเป็นยังงี้แหละ ขี้เล่น อยู่ใกล้ชิดและชอบเย้าแหย่แม่ทำให้แม่มีความสุข แต่ตอนนี้เขาโตแล้วและมีสาวที่จะต้องดูแลทำให้เปลี่ยนไป กลายเป็นลูกสาวมามีพฤติกรรมนี้แทน เมื่อวานก็อ้อนแม่ว่าทำไมไม่ไปอยู่กรุงเทพฯ กับเธอ)

   อาจารย์แม่เคยอ่านที่ลูกขจิตแสดงความเห็นในบันทึกของคนอื่นนานมาแล้วว่า เวลาไปเยี่ยมแฟนพ่อที่ไร่พนมทวน แฟนพ่อจะถามในสิ่งที่ตอบไม่ได้ อาจารย์แม่ก็สันนิษฐานไว้แล้วตั้งแต่ตอนนั้นว่า น่าจะเป็นคำถามเรื่องการแต่งงานแต่ก็ไม่แน่ใจ มาเฉลยเอาตอนนี้เอง "แฟน (พ่อ) บอกว่า เมื่อไรจะแต่งงาน...ทำเหมือนหาได้ง่ายๆ...เห็นหน้าตาแบบนี้ เลือกเหมือนกันนะแม่"  ตกลงว่าหายาก หรือว่าเลือกไม่ได้กันแน่คะ อาจารย์แม่ว่าอย่างลูกขจิตนี่ต้องเป็นแบบหลังมากกว่า ตกที่นั่งเดียวกันกับหลานสาว (อาจารย์ที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ) ลูกสาวคนสุดท้องของพี่สาวคนโตของอาจารย์แม่ ที่ถูกแม่ถามประจำว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานทำนองว่าถ้าแต่งแล้วแม่จะได้หมดห่วง เธอก็บอกว่า คิดว่าแต่งงานแล้วจะหมดห่วงหรือ มีตัวอย่างมากมายที่แต่งงานแล้วมีปัญหา ถ้าแต่งแล้วมันแย่กว่าที่อยู่คนเดียว อยู่คนเดียวไม่ดีกว่าหรือ

   เปลี่ยนเรื่อง Serious มาเป็นเรื่องเบาๆ เรื่องผลไม้ ตอนที่แม่ไปพักกับลูกชายคราวที่แล้ว เขาซื้อมะม่วงมหาชนกสุกมาทานกัน อาจารย์แม่ว่ากลิ่น รสชาติ และปริมาณเนื้อ สู้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองไม่ได้นะคะ ปีนี้ต้นที่ฟาร์มดกมากและขนาดลูกโตขึ้นมาก แต่ส่วนใหญ่จะนำไปจังหันที่วัด กินเองและเป็นของฝาก ขายครั้งเดียวตอนหลังคนซื้อติดใจถามหาอีกแต่หมดแล้ว  ส่วนตะขบยักษ์น่ะ อาจารย์แม่สืบค้นข้อมูลดูแล้ว เป็นตะขบบ้าน ส่วนตะขบป่าเป็นอย่างเดียวกันกับที่อีสานเรียกว่าบักเบ็น ไปรู้จักชื่อบักเบ็นมาจากไหนคะ ...ตายแล้ว คุยกับลูกขจิตเพลิน อาจารย์แม่ต้องเตรียมไปเป็นกรรมการสอบเค้าโครงปริญญานิพนธุ์นักศึกษาปริญญาโทสาขาวิจัยและประเมินผลการศึกษา รายนี้คงจะเป็นรายสุดท้ายที่อาจารย์แม่ดูแล เรียนป.เอกไม่จบบวกกับที่เขาได้อาจารย์ป.เอกมาใหม่ บวกกับที่อาจารย์มาใหม่ปรับหลักสูตรและสอนคนเดียว ปกติเขาจะสอนวิชาละสองคน เลยไม่ได้สอน 

 

   

  

สวัสดีค่ะผศ. วิไล แพงศรีIco48

ขอบคุณมากค่ะที่พี่สาวใจดีแวะไปที่บล็อกครูเล็กๆ55

เช้านี้ต้องไปนั่งอบฯอีกแร๊น

แต่ก่อนไปต้องแว๊บเข้ามาที่gotoknowก่อนเพราะไม่อย่างนั้นจะไปนั่งแบบไม่โล่งอกโล่งใจอิอิ

 

อืมอ่านและอ่านแล้วก็ทึ่งมากค่ะทั้งบันทึกและการตอบของคุณพี่ผศ. วิไล

เก็บได้ละเอียดทุกเม็ดทุกดอกถ้าเป็นนักมวยนี่คู่ต่อสู้ไม่ทันได้ปล่อยหมัดหายหลังตึง

กร๊าก..จะเกี่ยวกันไม๊คะนี่แบบคิดเองเออเองไปคนเดียว

 

ต่อไปคงต้องหาผักเคี้ยวมั่งแล้วล่ะค่ะ555จะได้เก่งๆปัญญาเลิศอารมณ์ดีบ้าง

สงสัยว่ากายคงกระซวกแต่กาแฟขมๆเป็นเหยือกๆมากเกิน

ทั่วร่างนี่ดำเหมือนถ่าน

แถมอารมณ์ขึ้นๆลงๆผีเข้าผีออก

ยังดีที่ลูกและนักเรียนยังมองเห็นความใจดีอยู่บ้างบางเวลาที่ไม่เพี้ยนเหอๆ

ได้เวลายืนตรงเคารพธงชาติ

เสร็จแล้วก็คงต้องรีบซิ่งมอเตอร์ไซต์ฮ่างจรลีไปเขตพื้นที่เข้าห้องอบฯ

แล้วคืนนี้กายจะแวะมาหลอนใหม่นะคะท่านผศ.ที่รัก555

  • ขำครูวิญญาณบอกว่าจะมาหลอนใหม่
  • 555 ขอหลอนด้วยคน
  • แม่ผมหน้าตาแบบนี้
  • หน้าเหมือนไหม
  • อาจารย์แม่เข้าไปดูในนี้ครับ
  • แฟน(พ่อ) มาเล่าให้ฟังที่นี่
  • บักเบ็นนี้รู้จักมาจากบ้านพ่อครูบาสุทธินันท์ครับ
  • ที่นี่
  • http://www.gotoknow.org/blog/sutthinun
  • สงสัยต้องไปหาน้ำดอกไม้สีทองดูแล้วครับ
  • ขอให้อาจารย์แม่มีความสุขกับการทำงานครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

ชอบอ่านการตอบเม้นท์แลกเปลี่ยนของอาจารย์มากค่ะ  เหมือนกับทีท่านหนึ่งบอกว่านั่คุกเข่าอ่านนั่นเองค่ะ

นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่อยอดจริง ๆ  ขอขอบพระคุณที่อาจารย์ติดตามไปอ่านหน้าประวัติ  ตัวอักษรสื่อตัวตนได้เต็มร้อยเจ้าค่ะ

สำหรับเรื่องถั่ว  เคยนำลงไว้ที่นี่ค่ะ  บันทึกนี้  และแจกจ่ายไปมาก  บางท่านก็ปลูกขึ้น บางท่านก็ปลูกไม่ขึ้น  แต่เขาชอบแดดและต้นไม้สูง ๆ แข็งแรงให้ปีนป่ายค่ะ  รสชาติอร่อย

นับตั้งแต่มีดอก  ต้องรออีกประมาณ ๓ เดือนจึงจะนำมาต้มได้ค่ะ  และอ่อนแอ  หากเราไปโดนเถาว์ตอนมีดอกหรือฝักอ่อน  จะเหี่ยวแห้งไปเลยค่ะ

วิธีปลูกเหมือนถั่วทั่วไปค่ะ  น้องปลูกไม่เป็นก็ได้ต้นถั่วที่แจกเมล้ดพันธุ์นี่แหละค่ะ  นำไปให้นักเรียนปลูกก็ติดค่ะ

หลังจากลาออกมาแล้ว ก็อยู่อย่างเอกเขนกไปพักใหญ่  พยายามลอกเปลือกออกจากตัวเองได้บ้างแล้วค่ะ  แต่ภายหลังตั้งแต่หลังสงกรานต์ได้ไปชาวยโรงเรียนทำงาน  กลับทำได้ดีกว่าเดิมค่ะ

วันนี้พักเพราะจะไปจัดค่ายฯ ที่พังงาค่ะ  ขอขอบพระคุณที่มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับอาจารย์ค่ะ

 

555 พี่ครูคิมมา ผมเอาถั่วพี่คิมไปต้มก่อน แฟน(พ่อ) บ่นว่าไม่อร่อย ก็มันยังไม่แก่ พอแก่ เอาไปต้ม แม่ชอบมากๆๆ

         น้องเกษเกล้า ที่รัก มาเป็นซีรีส์ภาพยนต์เกาหลีเลยเหรอ 30 พ.ค. 54-07.47 น., 07.53 น., 07.59 น., 08.03 น. พี่ชอบนะ อ่าน "เม้นท์" น้องสาวคนนี้ทีไร ได้ยิ้ม-หัวเราะทำให้สุขภาพจิตดีทุกครั้ง เดินทางด้วยรถจัรยานยนต์เหรอ ระมัดระวังด้วยนะคะพี่เป็นห่วง พอดีว่า วันที่ 30 เช้าพี่สอบเค้าโครงนักศึกษาปริญญาโท บ่ายทำงานเอกสารไปส่งเขตพื้นที่มัธยม กลับถึงฟาร์มทุ่มครึ่ง เป็นวันที่ใช้สมองมาก เลยเพลียมากไม่ได้เช็ค Blog ทานข้าวเสร็จเข้านอนเลย วันที่ 31 ตื่นมา 03.15 น. หลังจากเดินสูดอากาศและทักทายต้นไม้รอบบ้านแล้วจึงได้เช็ค Blog ดูในภาพสิ หน้าใครมาโผล่อยู่ที่ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ เวลาตี 4 มาชวนคุยให้ความสุขแต่เช้ามืด แต่พี่ยังไม่ได้ตอบตอนนั้น กะจะตอบหลังทานกาแฟเช้า แต่ติดภาระงานสวนเยอะ ทั้งงานเก็บขยะหน้าฟาร์ม สำรวจต้นไม้ พรวนดิน ดูคนงานตัดหญ้าสวนมะม่วงงามเมืองย่าท้ายฟาร์ม (มองเห็นคนตัดหญ้าไหมคะ) เก็บผักผลไม้ ทำอาหาร  พอบ่ายก็ต้องนำมะม่วงไปส่งในเมือง เลยหมดแรงอีก เพิ่งจะได้มาตอบตอนนี้ อ้าวหน้าน้องสาวที่เริ่มจะคุ้นเคยหายไปอีกแล้ว ไม่อยากดูหน้าการ์ตูนหรอกนะคะ นอกจากจะอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แล้ว ยังจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอีกเหรอ พี่อายุมากแล้วนะ (สังเกตไหมว่าไม่ได้ใช้คำว่าแก่) เดี๋ยวก็เกิดอาการงงหรอก ทานกาแฟเป็นเหยือกน่ะไม่ไหวนะคะ หมอเขาแนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 ถ้วย แต่ผักน่ะคงไม่จำกัด เสียดายว่าอยู่ไกล ไม่งั้นจะให้มาเก็บผักแถวฟาร์มไปกิน ...พี่รู้แล้วล่ะว่าลูกชายคนเล็กน่าจะขี้เล่นเหมือนแม่... 

 

   ลูกขจิตคะ ขอบคุณมากที่มีภาพคุณแม่ตัวจริงมาให้ดู ก็ดูว่าคล้ายคลึงกันนะคะ แต่ไม่ต้องเหมือนแม่ก็อาภัพได้ อย่างอาจารย์แม่ไง เกิดมาพ่อก็ไม่รัก เวลาไปโรงเรียนพ่อให้พี่สาวคนติดกันกับอาจารย์แม่ขี่คอ แต่อาจารย์แม่ต้องวิ่งตามหลัง เวลาพ่อป้อนข้าวพี่สาว (ข้าวเหนียวกับปิ้งตับ) อาจารย์แม่ต้องนั่งกลืนน้ำลายดูพี่กิน...(เป็นภาพที่อาจารย์แม่จำได้ติดตา) แต่อาจารย์แม่ก็รักพ่อมาก ตอนที่รู้ว่าพ่อตาย อาจารย์แม่ (อายุ 4 ขวบ) นั่งเกาะเสาไม้ที่เขาใช้ผูกผ้าคลุมศพพ่อร้องไห้ แต่พี่สาวกลับร้องรำทำเพลงอยู่ใต้ถุนบ้าน อาจารย์แม่ได้ยินชาวบ้านพูดขึ้นมาว่า ลูกรักของพ่อทำไมไม่เสียใจ คนโศกเศ้รากลับเป็นลูกชัง... มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองน่ะไม่ต้องไปหาดูหรอกนะคะ อาจารย์แม่มีต้นที่ฟาร์มมาให้ดู มีอยู่ต้นเดียว นอกนั้นเป็นต้นตออื่นแต่นำกิ่งของพันธุ์นี้ไปติด ปีนี้ลูกดกและลูกโตกว่าปีที่ผ่านๆ มา อาจารย์แม่ว่า รสชาติหวานหอมอร่อยกว่าทุกพันธุ์ อ้อ! ไปฟาร์มเที่ยวนี้สิ่งที่อาจารย์แม่ตื่นเต้น-ยินดีที่สุดคือ เมล็ดพันธุ์แห่งพรหมวิหารที่ลูกขจิตส่งไปให้ งอกเป็นต้นแล้ว อาจารย์แม่ได้กำชับพ่อใหญ่สอให้ดูแลให้ดีกลัวพวกศัตรูพืชไปกัดแทะ นี่ครูคิมได้ไปมาหาสู่กันด้วยเหรอ อบอุ่นจังนะคะ ก็ขอให้ลูกขจิตทำงานด้วยความสุขเช่นกันนะคะ (พอดูภาพนกกางเขนจากบันทึกของลูกขจิต กลับไปบ้านเรือนขวัญ อาจารย์แม่ก็เห็นนกกางเขนมาเกาะแถวหน้าบ้าน ก่อนนั้นไม่เคยเห็น ตอนนี้ได้ยินเสียงนกแปลกๆ ร้องอยู่นอกห้อง)

 

 

    ขอบคุณ คุณคิม นพวรรณมากนะคะที่ชอบอ่านเม้นท์ของพี่ เวลาเราเขียนอะไรไป แล้วมีคนชอบอ่านเราก็มีความสุขนะคะ และการทำให้คนอื่นมีความสุขก็นับเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ เพราะสังคมสมัยนี้ความสุขรู้สึกจะหาได้ยากขึ้น (ยกเว้นในสังคม Gotoknow) แม้สุขหรือทุกข์จะอยู่ที่ใจ ดังสำนวนที่ว่า "สวรรค์อยูที่อก นรกอยู่ที่ใจ" แต่เรายังเป็นปุถุชน ท่าทีของคนรอบข้างก็ส่งผลถึงอารมณ์ความรู้สึกของเราอยู่ไม่มากก็น้อย อีกอย่างคนเราก็มีความอยากไม่มีที่สิ้นสุด ตอนที่พี่เห็นเมล็ดถั่ว พี่ก็อยากรู้ว่าต้นเขาเป็นยังไง พอลูกขจิตนำต้นและดอกเขามาให้ดู พี่ก็อยากรู้อีกว่าฝักเขาเป็นยังไง ครูคิมจึงช่วยได้มากที่ได้นำภาพฝักถั่วมาให้ดู ฝักเขาน่ารักนะคะ พี่ไม่แน่ใจว่าต้นกล้าที่เห็นอยูด้านล่างซ้ายยางรถยนต์ ใช่ต้นถั่วหรือเปล่าคะ จะแซะดูก็กลัวกระเทือนรากเขา ถามคนเพาะว่าเพาะไว้บริเวณไหนเขาก็ตอบไม่ได้ ถ้าโตกว่านี้คงดูออกว่าใช่หรือไม่ใช่นะคะ

    จะไปจัดค่ายที่พังงาขอให้เดินทางไป/กลับโดยสวัสดิภาพ และทำงานด้วยความสุข งานดำเนินไปด้วยความราบรื่นและบรรลุวัตถุประสงค์ทุกประการนะคะ เสร็จแล้วเขียนบันทึกเล่าสู่กันฟังบ้าง ขอบคุณค่ะ     

  

   

  • เย้ๆๆ
  • เมล็ดผักอาจารย์แม่งอกแล้ว
  • ที่บ้านไร่ผมเพิ่งสังเกตว่ามีต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ครับ
  • ต้นยังไม่ใหญ่
  • ตอนไปอีสานชาวบ้านเล่าว่า
  • อาจารย์ มีเกษตรฯ เอาพันธุ์มะม่วงเขียวเสวยมาให้
  • พอผมปลูกไปมันโตขึ้น มันกลายเป็นมะม่วงเขียวเฉยๆๆครับอาจารย์
  • (น่าสงสารเนอะ ปลูกตั้งนาน เพิ่งทราบ)

     "ลูกขจิต" คะ เสาร์-อาทิตย์นี้อาจารย์แม่ยุ่งมาก เลยไม่ได้ออกไปฟาร์ม บอกพ่อใหญ่สอซึ่งจะเข้าเมืองไปส่ง "มะม่วงงามเมืองย่า" ในวันจันร์นี้ ว่า ให้ถ่ายภาพต้นกล้าที่งอกแล้วไปให้ดูด้วย เพราะอาจารย์แม่อยากเห็นว่าเขาเติบโตไปแค่ไหน อีกอย่างก็เป็นกลยุทธ์ในการเตือนให้แกดูแลต้นกล้าให้ด้วย เพราะกลัวว่าแกจะลืมรดน้ำ หรือไม่ดูแลปล่อยให้แมลงศัตรูพืชไปกัดแทะ

      "มะม่วงน้ำดอกไม้" มีสองชนิดนะคะ คือ "มะม่วงน้ำดอกไม้" เฉยๆ กับ "มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง" ซึ่งอย่างหลังจะสีเหลืองทองสวยกว่า ส่วนรสชาติอาจารย์แม่ไม่เคยทานเปรียบเทียบกัน เลยบอกความเหมือน-ความต่างไม่ได

       อาจารย์แม่ขำลูกสาว เมื่อวานนี้เธอโทรฯ ไปถามสำนวนภาษาอังกฤษ พออาจารย์แม่บอกว่า "เออ มีอะไรจะเล่าให้ฟัง" เธอพูดดักคอขึ้นมาทันทีว่า "จะเล่าเรื่องลูกขจิตของแม่ใช่ไหมล่ะ" ตลกไหมคะ     

  

สวัสดีค่ะ

ต้นถั่วงอกแล้วค่ะ  ใช่แล้ว  แรก ๆ ใบของเขาจะเหมือนต้นถั่วธรรมดาค่ะ

น้องไม่ได้เพาะหรอกนะคะ  ปลูกเมล้ดลงไปใต้ต้นสะเดาค่ะ  ตอนหลังต้นสะเดาเกือบล้มตาย  เพราะเถาว์ของถั่วใหญ่มากค่ะ

น้องไปจัดค่ายที่พังงา  โหดมากค่ะ  แต่ก็พบกับความสำเร็จของเป้าหมายคือทำให้เด็กมีความสุขค่ะ

สังคมการเรียนรู้ที่ GotoKnow  ให้อะไรกับน้องมากมาย  เพราะน้องเปิดกว้างค่ะ  ว่าจะเรียบเรียงใหม่อีกสักครั้งค่ะ

ขอขอบพระคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์แม่ฯ

ขออนุญาตเรียกเช่นนี้บ้างนะครับ...

บันทึกนี้บันทึกประวัติศาสตร์มิตรภาพของผู้คนบนโกทูโนได้อย่างงดงาม ละเอียด และมีชีวิตมากครับ  รวมถึงการยืนยันได้ว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็น "พื้นที่แห่งการเรียนรู้" ที่ "สร้างสรรค์" ที่น่าทึ่ง  ตลอดจนเป็น "คลังความรู้" ที่ใหญ่ยิ่งจริงๆ...

และอานิสงส์ทั้งปวงนั้น ก็ไม่ใช่เพียงพัฒนาตน, พัฒนางาน และพัฒนาองค์กรเท่านั้น
หากแต่หมายถึงการ "พัฒนาสังคม" เลยทีเดียว

ผมว่านั่นแหละคือปรากฏการณ์ของโกทูโนที่ทรงพลังอย่างมหาศาล

ขอบพระคุณครับ

แอบมานั่งแหงนคอเงยใต้ต้นรอให้มะม่วงหล่นมา555

ตอนที่ไปอยู่แม่ฮ่องสอนตามพี่เขากลับบ้านที่จอมทอง

ก็มีต้นลำใยในสวนต้นหนึ่งลูกดกมากที่แม่อุ๊ยท่านเก็บไว้ทำทานเป็นอาหารแก่นกกา

แต่เราไม่รู้เลยไปสอยมาซะงั้น

แม่อุ๊ยก็ใจดี๊ใจดีบอกว่านั่งไงนกกาบินมาจากทางใต้กินได้กินไปให้อิ่มเลย555

 

 

       ยินดีต้อนรับ "กลับคืนบ้านและงานวิชาชีพครูอันแสนรัก" นะคะน้องเกษเกล้า...ตกลงน้องสาวชื่อไหร เป็นคนเมืองไหนแน่...งงแต๊ๆ เจ๊า....

ขำลูกสาวอาจารย์แม่ โดนดักคอก่อนพูดเลย ฮ่าๆๆ

       สวัสดีครับ อาจารย์แม่ฯ ขออนุญาตเรียกเช่นนี้บ้างนะครับ... ตกลงค่ะ "ลูกแผ่นดิน"  มีลูกดีและเก่งอย่างนี้นับเป็นความภูมิใจของอาจารย์แม่" ลูกเป็นคนที่สองของ "Gotoknow Home" ที่ขอเรียก "อาจารย์แม่" คนแรกคือ "ลูกขจิต" จริงๆ แล้ว รายนั้นน่ะไม่ได้ขอ แต่เรียกเลย "มายินดีต้อนรับอาจรย์แม่ 555..."(6 เม.ย. 54 - 05.56 น.) บันทึกนี้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์มิตรภาพของผู้คนบนโกทูโนได้อย่างงดงาม ละเอียด และมีชีวิตมากครับ...ขอบคุณมากค่ะ ...รวมถึงการยืนยันได้ว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็น "พื้นที่แห่งการเรียนรู้" ที่ "สร้างสรรค์" ที่น่าทึ่ง ตลอดจนเป็น "คลังความรู้" ที่ใหญ่ยิ่งจริงๆ... และอานิสงส์ทั้งปวงนั้น ก็ไม่ใช่เพียงพัฒนาตน, พัฒนางาน และพัฒนาองค์กรเท่านั้น หากแต่หมายถึงการ "พัฒนาสังคม" เลยทีเดียว ผมว่านั่นแหละคือปรากฏการณ์ของโกทูโนที่ทรงพลังอย่างมหาศาล...เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ

      ขอบคุณ "ลูกแผ่นดิน" ผู้สรรค์สร้าง ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งแบบอย่างของ "บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษารุ่นใหม่ ที่ทำให้ประเทศไทยมีความหวัง"

   อาจารย์แม่เพิ่งนินทาไปแหม็บๆ โผล่หน้ามาพอดี อายุยืนจริงนะคะ "ลูกขจิต" ก่อนนี้ยัยลูกแหง่ของอาจารย์แม่งอนหาว่าอาจารย์แม่สนใจลูกขจิตมากกว่าเธอ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเธอจะมีทีท่ายอมรับพี่ชายคนนี้แล้ว ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ก็เธอไม่เคยมีพี่ชายนี่คะ 

สวัสดีค่ะอาจารย์..(รบกวนดึกหน่อยนะคะ)...แต่หนูรู้ค่ะ ว่าอาจารย์นอนดึก...

ก่อนอื่นคงต้องยกประโยชน์ให้กับความโชคดีของหนูค่ะ ที่เลือกลงเรียนวิชานี้ หลังจากที่สงสัยมานาน ตั้งแต่รู้จัก เว็บไซต์ "GOTOKNOW" ว่ามันแปลว่าอะไร ที่มาที่ไปมันเป็นยังไง....และแล้ววันนี้ก็มาถึงค่ะ..

เพราะหนูรู้แล้วว่าไอ้เจ้า "GOTOKNOW" เนี๊ยมันแปลว่าอะไร....ขอบคุณนะคะ..ฝันดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท