“สาว่า...พม่ารามัญเป็นฉันนี้” เป็นสารคดีที่บันทึกการท่องเที่ยวซึ่งเขียนเล่าจากความประทับใจในการเดินทางไปประเทศพม่าเมื่อวันที่ ๑๗ – ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ในพื้นที่ซีกตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของพม่าล่าง ของ อ.สุธีระ ประเสริฐสรรพ์ ได้ถูกถ่ายทอดเป็นหนังสือ "สาว่า…พม่ารามัญเป็นฉันนี้" ซึ่งนับว่าเป็นงานเขียนนอกกรอบงานวิจัยชิ้นแรกของอาจารย์ ด้วยภาษาที่อ่านเข้าใจง่าย การสอดแทรกความรู้เชิงประวัติศาสตร์ และการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน ทำให้เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวพม่าได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนได้เล่าถึงบรรยากาศขณะเดินทางทั้ง ๕ วัน รวมถึง โดยเล่าถึงสภาพแวดล้อมที่ผู้เขียนและคณะได้เดินทางผ่านตลอดจนเยี่ยมชม เนื้อหาขนาดสั้นๆ ไม่เยิ่นเย้อส่วนกลวิธีการเสนอเรื่องนั้น ผู้เขียนได้เขียนบันทึกการท่องเที่ยวโดยพยายามแสวงหากลวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่น่าเบื่อหน่าย แทรกสาระความรู้ปลีกย่อยทางประวัติศาสตร์เช่นเรื่องของมะเมี๊ยะ สตรีพม่าที่สร้างตำนานรักกับเช้าชายสุขเกษมของล้านนา และเรื่องตะละแม่จันทราในผู้ชนะสิบทิศ เรื่องพระสุพรรณกัลยาเป็นการเพิ่มสีสันให้แก่เรื่องให้น่าอ่าน การเสนอเรื่องเริ่มจากการแนะนำประเทศพม่า ซึ่งในตอนเริ่มเรื่องผู้เขียนใช้หัวข้อ “รู้จักพม่าผ่านความทรงจำ” เป็นหัวข้อสำคัญใหญ่ของเรื่อง แล้วแบ่งเป็นตอนๆ ทั้งหมด ๕ ตอน ตามจำนวนวันที่ผู้เขียนได้เดินทางไปจำนวน ๕ วัน
จากการอ่านสารคดี “สาว่า...พม่ารามัญเป็นฉันนี้” ทำให้ทราบวัฒนธรรมประเพณีต่างๆในพม่าเช่น การนับถือผี “ผีพม่าเรียกว่า”นัต” ซึ่งเป็นคนที่ถูกปกครองประหารโดยไม่เป็นธรรม ชาวบ้านจะนับถือนัตว่าจะเป็นผู้ดูแลบ้านเรือน
ผีนัตของพม่ามีทั้งสิ้น ๓๗ ตัว อยู่ตามเขาบ้าง เฝ้าเจดีย์บ้าง” เรื่องคติชาวบ้าน วิถีการดำรงชีวิต เช่นคติของมอญคือ พระกับคนจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะคนนั้นบาปหนา มีโอกาสทำผิดศีล ฉะนั้นจึงไม่ควรทำในพื้นที่ที่มีพระอยู่ คติความคิดนี้คงจะแบบเดียวกับการแยกวัดออกจากกิจกรรมของชาวบ้าน นอกจากนี้ ทำให้รู้จักที่มาของคำบางคำเช่นคำว่าน้ำท่า “คำว่า “น้ำท่า” ก็เป็นน้ำจากท่าหน้าบ้านที่ใช้ได้อย่างสนิทใจ นาสะอาดน้ำก็สะอาดให้ลูกปลาเข้ามาอาศัย ได้ทั้งข้าวทั้งปลาเป็นอาหาร เป็นที่มาของคำว่า “ข้าวปลาอาหาร”
หนังสือสารคดีเรื่อง “สาว่า...พม่ารามัญเป็นฉันนี้” มีสาระ และคุณค่าให้แก่ผู้อ่านหลายประการจึงเป็นสารคดีในดวงใจของข้าพเจ้าอีกเล่มหนึ่ง