วันนี้ได้เห็นกล้วยน้ำว้าที่ลูกอ้วนมากที่สุดที่เคยเห็นมา และที่น่าดีใจยิ่งกว่านั้นก็คือ มันคือผลผลิตที่เราขุดเอาหน่อมาปลูกเองกับมือ เริ่มลงเป็นต้นไม้ต้นแรกๆของบ้าน แล้วก็ทำเหมือนกับต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกคือ ติดตามถ่ายภาพเขาเก็บไว้ พอมาได้เห็นผลในวันนี้ก็เลยได้โอกาสกลับไปย้อนดูความเจริญเติบโตของเขา ตอนแรกๆที่เขาค่อยๆผลิใบนั้นเป็นช่วงที่เห่ออยู่ค่ะ มีรูปเยอะเชียว แต่พอเวลาผ่านไปที่เขาโตขึ้นมีหน่อเล็กๆแตกออกมาใต้ต้น เราถกทิ้งไปบ้างแต่ก็ยังหลงเหลืออยู่เป็นกอใหญ่ หลังๆเผลอไปหน่อยเดียว ไม่ค่อยได้เก็บภาพ เพราะเขาสูงใหญ่แถมใบดกหนา ต้องคอยตัดทิ้งเพราะเขาเที่ยวบังแดดเพื่อนๆข้างเคียง มาเห็นอีกทีเมื่อต้นปีก็ยังไม่เห็นเครือแต่มาอีกไม่กี่เดือน เขาก็มีลูกมหึมา มีทั้งหมด 7 หวี น่าชื่นใจจริงๆค่ะ ตอนนี้ก็แค่รอให้เขาสุกเหลืองเพื่อชิมรส อ.จันบอกว่ามีลูกหนึ่งที่เหลืองปริแล้วจึงตัดลงมาจากต้น (ปลูกบ้านเราแต่ลูกทั้งเครือหย่อนอยู่ในบ้านอ.จันค่ะ
เก็บความเป็นไปของเขามาบันทึกไว้เป็นเครื่องเตือนใจค่ะ ว่าปลูกกล้วยไม่ยากสักนิด
สวัสดีครับอาจารย์ โอ๋
กล้วยแห่งการแบ่งปัน เพราะสองบ้านเป็นเพื่อนกัน
นี้หากเจ้าบ้านไม่ถูกกล้วยกอนี้ถูกตัดฟัน ยังไม่ทันเห็นผล ยิ่งตอนนี้ที่อ.จันทร์ไปตัดฟัน อาจต้องถึงโรงถึงศาล หรือเข้ากระบวนการไกล่เกลี่ย
เห็นกอกล้วยอาจารย์ มีหน่อออกมาพร้อมกันสองหน่อ ทางที่ดีขุดย้ายไปปลูกที่อื่น หรือตัดใจตัดทิ้งสักหน่อ
หากไว้ทั้งสองหน่อ ผลผลิตรุ่นสอง จะออกมาไม่สมบูรณ์
ประวัติศาสตร์ แห่งการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ เขาสรุปบทเรียนว่า"ตัดกล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก" ยังเอากล้วยมามาเปรียบเทียบ
เก่งทั้งกล้วย
เก่งทั้งคน...
ยอดเยี่ยมค่ะ
คลิกมาเจอบันทึกนี้ เห็นภาพหมู่บ้านพวกเราตั้งแต่สมัยยังโล่งๆ อยู่เลยครับ เดี๋ยวนี้ถ้าปลูกกล้วยก็คงไม่ขึ้นต้นใหญ่แล้ว เพราะไม่ได้เจอแสงแดดครับ
จริงเลยนะคะ เวลาผ่านไปเร็วมากเลย