(ต้นและผลกาแฟ)
" กาแฟ "
เครื่องดื่มที่เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคนในสังคมปัจจุบันไปโดยปริยาย
จนอาจจะเรียกได้ว่า เป็น " เครื่องดื่มสามัญประจำบ้าน" ก็ว่าได้
โดยเฉพาะคนในวัยทำงานทั้งหลาย
ถ้าจะพูดถึงคุณประโยชน์
หรือโทษของกาแฟ ก็คงจะต้องว่ากันไปตามหลักการ
แต่คงไม่เกี่ยวกับเรื่องในบันทึกที่คุณมะเดื่อจะพูดถึงต่อไปนี้
(ดอกกาแฟ)
เชื่อว่า อีกหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นต้น + ดอก
+ ผล ของกาแฟ คุณมะเดื่อมีเพื่อน ๆ ที่ทำไร่กาแฟอยู่แถว ๆ
อำเภอบางสะพาน จึงได้มีโอกาสไปเที่ยวชมไร่กาแฟ
และได้เห็นดอกกาแฟที่มีสีขาวสวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ๆ
โดยเฉพาะช่วงค่ำ
" กาแฟขี้ชะมด"
เป็นชื่อที่เพิ่งจะผ่านหูของคอกาแฟเมื่อไม่นานมานี้ แต่ฟังชื่อแล้วหลาย
ๆ คนบอกว่า ไม่น่าจะดื่มเลย แต่หลาย ๆ คนอาจจะคิดไม่ถึงว่า
" กาแฟขี้ชะมด" เป็นกาแฟที่กลิ่นหอม
รสชาติดีเยี่ยมและที่สำคัญราคาแพงที่สุดในโลกก็ว่าได้ แถว ๆ
เมืองกาญจนบุรีจำหน่ายในราคาแก้วละ 500 - 1,500
บาท อู้ฮู้...!
อะไรจะแพงปานนั้น...!
(ชะมดหรืออีเห็นข้างลาย ภาษาถิ่นใต้เรียกว่า
มูสัง หรือ มุดสังย่านเชือก)
" กาแฟขี้ชะมด"
เป็นกาแฟที่ได้จากมูลของชะมด
ที่ถ่ายออกมาเป็นเมล็ดกาแฟที่ติดกันแน่นเป็นแท่งยาว และแข็งมาก
มีความยาว 7 - 8 ซม. ไม่มีกลิ่น
ประเทศอินโดนีเซียส่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงและราคาแพงลิบลิ่ว
ตกกิโลกรัมละหลายหมื่นบาท ทีเดียว
ในบ้านเมืองเราเองก็มี " กาแฟขี้ชะมด"
ที่พบได้ในไร่กาแฟแถวระนองและชุมพร ในเขตอำเภอละอุ่น
อำเภอเมืองระนอง อำเภอกะเปอร์ และอำเภอพะโต๊ะ
ซึ่งชะมดที่กินผลกาแฟและผลิเตเป็นกาแฟขี้ชะมดได้มีอยู่สายพันธุ์เดียว
คือ "ชะมดหรืออีเห็นข้างลาย"
หรือที่ชาวบ้านและเกษตรกรชาวสวนกาแฟเรียกว่า "มุดสังย่านเชือก" นั่นเอง
แต่เกษตรกรมักจะเก็บกาแฟขี้ชะมดที่พบตามสวนกาแฟมาตากแห้งแล้วมาขายรวมกับเมล็ดกาแฟทั่วไป
เพราะไม่ทราบถึงคุณภาพและราคาของกาแฟขี้ชะมด
(ข้อมูลจาก : คอลัมภ์เก็บมาเล่า โดยประนม ศรีฟ้า
จากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับที่501 ปักษ์หลัง
15 เมษายน 2554 )
คุณมะเดื่อ
ไม่ทราบว่าถ้าจะเก็บเมล็ดกาแฟจากมุดสังย่านเชือกของพี่น้องชาวระนองและชุมพรมาขายแบบเพียว
ๆ
ในตลาดกาแฟโดยไม่ปนกับเมล็ดกาแฟทั่วไป จะได้ราคากิโลกรัมละหลายหมื่นหรือไม่
และ เมื่อแปรรูปมาอยู่ในถ้วยกาแฟแล้ว จะได้ราคาถ้วยละกี่ร้อย
จะราคาสูงลิบลิ่วเหมือนกาแฟขี้ชะมดของอินโดนีเซียหรือไม่
แต่ในความคิดเห็นของคุณมะเดื่อ คิดว่า
เมื่อของไทยเราก็มีเหมือนของต่างประเทศ ก็น่าที่จะส่งเสริมกันไว้
ถึงแม้จะไม่ได้กิโลละหลาย ๆ หมื่นเหมือนของนอก
ขอแค่กิโลละหมื่นสองหมื่น ถึงไม่ได้ถ้วยละ 500 ก็ขอแค่ถ้วยละ 200 -
300 ร้อย ก็น่าจะยินดีแล้วนะจ๊ะ และเมื่อถึงเวลานั้น
"กาแฟขี้ชะมดมุดสังย่านเชือก"
ก็น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น " กาแฟทองคำ" ยี่ห้อ
"คุณมุดสังย่านเชือก" ก็น่าจะฟังดูรื่นหูดีนะจ๊ะ
................................................
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คอลัมภ์เก็บมาเล่า โดยประนม ศรีฟ้า
จากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับที่ 501 ปักษ์หลัง
15 เมษายน 2554
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : google