๗๒๑.กลุ่มคนปลูกผักกินได้ : ปลูกผักแล้วได้อะไร (๖)


 

ความสุข ความจริงที่งดงามของ✿อุ้มบุญ✿ บนพื้นที่อันกว้างใหญ่

 

           อุ้มบุญเริ่มต้นด้วยการเล่าผักพื้นบ้าน ทานกับน้ำพริก ใบชะมวง ผักติ้ว  ผักกาด ผักชี  ระกำ ผักติ้ว ยอดมะขามอ่อน  มะกอก ส่องฟ้า ย่านาง และพริกขี้หนูที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสวนอันกว้างใหญ่ข้างบ้าน

 

           ผักส่วนมากรู้จักและเคยทดลองทานตอนที่ไปทำงานอยู่ภาคอิสาน  แต่ที่สงสัยคือยอดระกำ  ดูในภาพเหมือนผักพฤกษ์ที่มักจะมีช่ออ่อนในฤดูนี้  และนึกถึง “ลูกอิสาน” ที่กล่าวถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิตและความสำคัญในการกินของชาวอิสาน  การที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติบนพื้นที่อันกว้างใหญ่จึงเป็นโอกาสดีในการเรียนรู้และเผื่อแผ่มาให้เพื่อนมิตรได้รับความรู้สึกไปด้วย

 

         การปลูกย่านาง บางคนบอกว่าปลูกยากกว่าการเพาะเมล็ด  เคยสังเกตนักเรียนที่ทำโครงงาน “น้ำย่านาง”  ขุดรากย่านางมายาวมาก และไม่มีใครปลูกติดแม้แต่ต้นเดียว  ส่วนที่นอกรั้วบ้านของฉันมีอยู่ ๑ ต้น  ได้มาจากคุณแม่ของเพื่อนนำมาปลูกไว้ให้ใต้ต้นมะม่วงเมื่อประมาณ ๕ ปีที่ผ่านมา  ตอนนี้ก็ยังอยู่  เนื่องจากคนดายหญ้าตัดเถาว์ที่เลื้อยไปทิ้ง  มันจึงอดที่จะปีนป่าย  ต้องคอยดูแลสั่งห้ามใครมาเด็ด  รอให้มันเติบโตกว่านี้  เพราะหน้าบ้านยังมีอีกต้นที่เจ้าของเขาปลูกและมีใบดกหนากว่ากัน

 

        ผักแพรวผักแขยง คะแยง หรือมะออม เป็นผักพื้นบ้าน มีรสเผ็ดร้อนนั้น ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยลดไข้ และเป็นยาระบายอ่อนๆ ที่นำมาปลูก ชอบทาน ใส่แกงหน่อไม้ แกงอ่อม ต้มปลา ทานสดกับน้ำพริก

 

           นึกถึงเพลง “อิสานบ้านเฮา” ของคุณ เทพพร เพชรอุบล       ยิ่งฟังในวันนี้อยากจะกลับไปอยู่อิสานเพื่อนเรียนรู้วิถีชีวิตจริง ๆ อีกสักครั้ง  เวลา ๑๐ ปีที่ไปอยู่เหมือนไปผ่าน ๆ แต่กลับมาย้อนอดีตก็ทำให้ได้บทเรียนรู้อีกมากมาย  บางอย่างก็เพียงแต่รู้ไม่ลึกซึ้ง  บทเพลงกล่าวว่า

 

หอมดอกผักกะแยง ยามฟ้าแดงค่ำลงมา
แอ๊บๆ เขียดจะนา ร้องยามฟ้าฮ้อนห่วนๆ
เขียดโม้เขียดขาคำ เหมือนหมอลำพากันม่วน
เมฆดำลอยปั่นป่วน ฝนตกมาสู่อีสาน

หมู่หญ้าตีนกับแก ถูกฝนแลเขียวตระการ
ควายทุยเสร็จจากงาน เล็มหญ้าอ่อนตามคันนา
รุ่งแจ้งพอพุ่มพู ตื่นเช้าตรู่รีบออกมา
เร่งรุดไถฮุดนา รีบนำฟ้าฟ่าวนำฝน

อีสานบ้านของเฮา อาชีพเก่าแต่นานดน
เอาหน้าสู้ฟ้าฝน เฮ็ดนาไร่บ่ได้เซา เฮ็ดนาไร่บ่ได้เซา

** ..ม่วน..เอ๊ย..โอ... ม่วนเอ๊ยม่วนเสียงกบ ร้องอ๊บๆ กล่อมลำเนา
ผักเม็กผักกะเดา ผักกระโดนและผักอีฮีน
ธรรมชาติแห่งบ้านนา ฝนตกมามีของกิน
ฝนแล้งแห้งแผ่นดิน ห้วยบึงหนองแห้งเหือดหาย

*** มาเด้อมาเฮ็ดนา มาเด้อหล้าอย่าเดินอาย
นับวันจะกลับกลาย บ่าวสาวไหลเข้าเมืองกรุง

 

         บทเพลงและเสียงเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ให้บรรยากาศแบบชนบทที่สงบไร้มารยาเพลงนี้ มีนักร้องนำมาร้องในเวอร์ชั่นใหม่ ใส่บริบทอีสานลำซิ่ง ทำให้สนุกและครื้นเครงยิ่งขึ้น


          ผักชีฝรั่ง ได้รู้จักในชื่อหอมเป  หรือหอมหนาม  ต่างจากบันทึกที่ผ่านมา  สะระแหน่  คุณอุ้มบุญเห็นว่ามันเป็นผักปราบเซียนเพราะปลูกยาก สังเกตการปลูกหัวหอมแดง  ตัดหัวตัดท้ายออก  นึกถึงตัวฉันที่ปลูกโดยไม่ตัดมาก  เพียงแต่เหลือลำต้นไว้ แต่มันก็โตงอกงาม  ภายหลังหัวมันเหี่ยวและเน่าตายไปในที่สุด 

 

            คุณอุ้มบุญปลูกเบียดกัน  มันอาจจะงดงามตอนที่กำลังติดราก  หากมันโตกว่านี้ และมีราก มียอด มีใบเพิ่มขึ้น  กิ่งก้านและต้นก็อาจแผ่กระจายได้  ก็จะเกิดการแย่งอาหารกัน

 

        ใบอ้ม กับความทรงจำในวัยเด็ก ทำให้คุณอุ้มบุญออกตามหากว่า ๓๐ ปี  (แสดงว่าอายุเกิดเกิน ๓๐ ปีแล้วนี่คะ  ไม่เป็นไรค่ะ เพลง ๓๐ ยังแจ๋วยังฮิตในหมู่พ่อหม้ายเมียเผลอทั้งวัยแก่และเกินแก่ค่ะ)

 

        ใบอ้ม เป็นใบไม้มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตยหอมเล็กน้อย ใบสดๆจะไม่มีกลิ่น ต้องรอให้ใบเหี่ยวจะส่งกลิ่นหอม

 

          ความทรงจำเวียนมาในหัวใจดวงเล็กเกือบจะเหี่ยวเฉา  เจ้าของพยายามยัดเยียดกดดันให้มันเบ่งบานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน “หญิงสาวสวยใส รูปร่างโปร่งเพรียวลม  และสูงกว่าฉันประมาณ ๒๐ ซม.เห็นจะได้  เดินยิ้มร่าเข้ามากอดฉัน  ฉันไม่ตกใจกลับอบอุ่น (เพราะนานแล้วไม่ได้ถูกกอด) อย่างบอกไม่ถูก  ผู้มาใหม่อยากจะเฉลยตัว แต่ฉันขอเดาเองและเดาถูกว่าเป็นอุ้มบุญ

 

         วินาทีแรกได้รับใบอ้มแห้ง  ฉันคิดว่าเป็นยาอมสมุนไพร  จึงรีบใส่ปากอมทันที  ที่ไหนได้น้องส่งให้เพื่อเก็บในกระเป๋าสตางค์ให้คงความหอมเนิ่นนานนั่นเอง  (อยากจะฮา...) 

 

        ผลพลอยได้โดยไม่ตั้งใจแต่ก็จริงใจและใจจริง ที่อุ้มบุญนำต้นอ้มใส่กระถางไปฝากพี่ใหญ่  แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่พบพี่ใหญ่  อุ้มบุญจึงเสนอว่า “ขอให้พี่คิมก่อน อีกไม่นานจะได้มากรุงเทพจึงจะนำมาให้พี่ใหญ่ภายหลัง”  และฉันสัญญาว่าจะนำต้นเหลียงไปให้อุ้มบุญ  จนแล้วจนรอด  แต่ยังจำได้ไม่ผิดสัญญา  วันนี้ต้นอ้มโตวันโตคืน  แต่ไม่สามารถขยายพันธุ์ให้เขาได้ นอกจากตัวเขาเอง

 

             บันทึกการปลูกผักของอุ้มบุญได้เล่าถึงผักธรรมชาติเช่นหมากหล่ำ เป็นไม้ยืนต้น สามารถนำยอดมะหล่ำสดมาทานกับน้ำพริกได้  ฉันเคยเก็บเมล็ดหมากหล่ำมาดูเล่น เพราะมันสวยมีสีแดงน่าจะมาร้อยเป็นเครื่องประดับได้  แต่ควรร้อยตอนที่มันยังไม่แก่จัดจะทำให้ร้อยง่าย

 

         การแบ่งปันเมล็ดพันธุ์จากพวกเราชาว GotoKnow เกิดขึ้นนานแล้ว  ก่อนที่จะมีการตั้งกลุ่มคนปลูกผัก  ผักแต่ละพันธุ์จึงถูกนำไปแพร่ขยายตามภาคต่าง ๆได้หลายภาค

 

        อุ้มบุญได้เรียนรู้การแช่เมล็ดก่อนเพาะ  ถั่วฝักยาว ๑๐ เม็ด  ๕ วันงอก  ถั่วพู  ๘ วัน มีดอกเกือบ ๓๕ วัน  ฟักเขียวงอกภายใน ๘ วัน พบปัญหาต้นคะน้าแคะแกรน  ปัญหาแมลงกัดแทะต้นอ่อนของฟักและบวบ

 

         นับเป็นการเรียนรู้ที่มีกระบวนการรวมทั้งนำมาเผยแพร่แบ่งปันผ่านบันทึก  ฉันได้เรียนรู้ไปด้วย  และสิ่งที่ฉันทำนั้นอาจจะเป็นวิธีการที่ต่างจากอุ้มบุญ  แต่อย่างไรฉันยอมรับวิธีการของอุ้มบุญมากกว่า  เพราะฉันไม่เคยแช่เมล็ดอะไรทั้งนั้น  นอกจากผักชี

 

           ส่วนปัญหาแคระแกรนของคะน้าได้พบเช่นเดียวกัน  จึงทดลองแยกคะน้ามาปลูกในกระถางละ ๑ ต้นพบว่ามันเติบโตได้ดีและงอกงาม  แสดงว่าคะน้าไม่ชอบเพื่อน ชอบอยู่แบบโดดเดี่ยว หรือบรรยากาศแบบโล่ง ๆ และชอบอิสระมากกว่า

 

        “ดินจากขุยไส้เดือน”  นับเป็นความรู้ที่อุ้มบุญได้ทดลองทำจากการแนะนำของผู้รู้  ในการนำดินขุยไส้เดือนมาผสมกับปุ๋ยคอแล้วทำให้ต้นไม้เจริญงอกงาม  แบบนี้ต้องไปหาไส้เดือนมาเลี้ยงเสียแล้ว  นึกถึงบทเรียนคอนโดไส้เดือนขึ้นมาทันที http://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=1215&s=tblanimal

 

         คุณอุ้มบุญได้บรรยายความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เป็นสุขที่ได้ลงมือทำสวนปลูกผัก  และการเฝ้ารอดูความงอกงามของผักแต่ละต้น  ด้วยความสนใจและจนเกิดความรักอย่างเป็นธรรมชาติ

 

           บันทึกนี้ขอฝากคำสอนอันเป็นปัจฉิมวาจาของพระอาจารย์พระพุทธทาสที่บอกกับพระที่ปรนนิบัติว่า “ให้อ่านปัจจุบันเป็นเวลาอันประเสริฐสุด  เล่มเดียวแล้วปฏิบัติตามนั้น”  เพราะว่า “คนเรามักวุ่น ๆ กันจนลืมไปว่ากำลังทำอะไรอยู่  บางคนบอกว่าเขาลืมหายใจ  เราลืมมองคนที่เรารักและเห็นคุณค่าของกัน จนสายเกินไปเสียแล้วก็มี  แม้ขณะเรามีเวลาว่าง  เราก็ไม่รู้จักว่าจะทำความรู้จักกับสิ่งที่เป็นไปภายในและภายนอกตัวเรา อย่างไรเราก็เลยเปิดโทรทัศน์หาไม่ก็หมุนโทรศัพท์ ดังกับให้มันช่วยเราหนีไปจากตัวของเราเอง  การภาวนาคือการรู้ว่าอะไรเป็นอะไรในร่างกายของเรา  ในความรู้สึกของเรา ในจิตใจของเรา และในโลกด้วย  เมื่อเราสงบอยู่กับปัจจุบัน  เราย่อมแลเห็นได้ซึ่งความงามและความอัศจรรย์อยู่ต่อหน้าเรา  ไม่ว่าสิ่งนั้น ๆจะเป็นการเกิดใหม่  หรือพระอาทิตย์แรกขึ้น  เราอาจมีความสุขได้  ถ้าเรารู้จักมันที่ปรากฏเฉพาะหน้าของเรา

 

หมายเลขบันทึก: 434163เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2011 09:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีตอนสายครับพี่คิม...

อ่านแล้วก็นึกถึงลูกอีสานเลย คล้ายกับว่าในนั้นจะมีการพูดถึงพืชผักพื้นบ้านอยู่เยอะเลยนะครับ
ตาลายแล้วครับ เมื่อคืนนอนตีสาม ตื่หกโมง เดี๋ยวต้องงีบสักหน่อยแล้ว 

สวัสดีค่ะ

ตื่นนอนมานั่งปั่น  ยังไม่ได้อาบน้ำอาบท่า  แม่บ้านมาทำความสะอาดแล้วจะต้องย้ายที่ทำงาน

ลูกอิสาน  อ่านหลายเที่ยว  อ่านเพื่อให้รู้จริง ๆ ครั้งสุดท้ายอ่านจบไปไม่นาน ความคิดแตกฉานขึ้นเยอะเลย

สวัสดีค่ะพี่ครูคิม

  ปลูกผักได้รับประทานดอกใบ ในแต่ละวินาทีที่ใส่ใจดูแลได้อะไรมากกว่าที่คิด

  ชอบเพลงนี้เหมือนกันค่ะ เพราะมาก

  ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

วรรณกรรมร่วมสมัยเลยนะครับ เพลงนี้ สะท้อนภาพยุคสมัยชัดเจน

พี่คิมคะ  ช้อบ ชอบ เพลงนี้มาก ๆ เช่นกันค่ะ

จึงได้นำมาบันทึกไว้ที่เรือนไม้ชายทุ่ง ทั้งเสียงชาย และเสียงหญิง น่าฟังทั้งคู่ค่ะ

 

อีสานบ้านของเฮา-เทพพร เพชรอุบล

อีสานบ้าเฮา-อังคนางค์

ขอบคุณค่ะ..พี่ใหญ่ได้รู้จักผักกินได้มากมายจากบันทึกคุณอุ้มบุญและของน้องคิม..เป็นคนกรุงที่ได้แต่ฝันอยากมีสวนผักดีๆ..แต่บ่มีเวลาและกำลังที่จะดูแล..

สวัสดีค่ะถาวร

พี่คิมขอขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ

อยากจะบอกว่าหาแผ่นคลื่นสมองต่ำได้แล้วค่ะ  จะส่งมาให้นะคะ

สวัสดีค่ะคุณบีเวอร์

คุณบีเวอร์สบายดีนะคะ

วิถีชีวิตนับเป็นเสน่ห์ของผู้คนและท้องถิ่นนะคะ

สวัสดีค่ะอิงจันทร์

พี่คิมทำบ้า ๆ บอ ๆ ไปใหญ่แล้วค่ะ

เพราะเบื่อและขี้เกียจรับทานแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

จากการเรียนรู้มาเรื่อย ๆ พบว่าน้องปลูกผักไม่ถูกมากมายค่ะ  เข้าใจน้อยมากค่ะ  เห็นที่ต้องพัฒนาใหม่ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท