http://gotoknow.org/blog/wirat-kamsrichan/293232
๑.การเกิดประเพณีเพื่อพระศาสนาโดยเฉพาะ ดังเช่นที่ผู้เขียนได้เล่าถึงประเพณีการปล่อยโคมลอยเพื่อบูชาพระรัตนตรัย
http://gotoknow.org/blog/wirat-kamsrichan/293232
เดิมคนในสุวรรณภูมินับถือผี ต่อเมื่อพุทธศาสนาเผยแพร่มาถึง จึงเกิดการผสมกลมกลืนกันระหว่างพุทธกับผี (หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “พุทธแบบชาวบ้าน”) คือมีการนับถือผีและพุทธไปด้วยกัน แต่ยังให้พุทธเป็นประธาน
จึงเกิดความกลมกลืนของประเพณีดั้งเดิมต่างๆกับพิธีกรรมทางศาสนา และเกิดประเพณีต่างๆเพื่อการในพระศาสนาขึ้น
๒.การสร้างเครือข่ายทางสังคม อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากประเพณีทางศาสนา
ในประเพณีการปล่อยโคมลอย ผู้เขียนได้เล่าว่า..
“เมื่อโคมลอยลอยขึ้นไปจนถึงลมบน ก็จะมีลมส่งลอยไปไกลได้หลายวัน บางครั้งจากบ้านผมที่ชุมชนบ้านตาลิน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ดังในปัจจุบันนี้ ก็อาจลอยไปตกถึงจังหวัดพิจิตรและพิษณุโลกบ้าง ........ การรู้กันว่าบนโคมลอยมีสตางค์ อีกทั้งข่าวสารงานบุญ ..... ชาวบ้านปลายทางวิ่งตามเก็บโคมลอยและเปิดจดหมายออกอ่าน เมื่อรู้ข้อมูลที่ส่งและเสี่ยงทายโคมลอยแล้ว ชาวบ้านและชุมชนปลายทางก็จะมีธรรมเนียมนับความเป็นญาติพร้อมกับหาทางส่งข่าวกลับไปยังแถวบ้านผม จองกฐิน หรือขอเดินถือจดหมายกลับไปสร้างความคุ้นเคยเป็นญาติ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลและทำบุญด้วยกันในอนาคต ...”
นั่นคือจากประเพณีทางศาสนา ได้ก่อให้เกิดความเชื่อมโยงถึงกันของชุมชนหนึ่งกับชุมชนอื่นๆ สร้างเครือข่ายเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆของกันและกันทั้งในปัจจุบันและอนาคต
๓.ลักษณะของสังคมที่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอันเนื่องจากการมีวัดเป็นศูนย์กลาง
ในวัฒนธรรมไทยนั้น ชุมชนผูกพันกับวัดและพระอย่างแนบแน่น เนื่องจากวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน พระจึงไม่ได้สอนธรรมแต่เพียงอย่างเดียว หากยังสอนวิชาทางโลกด้วย เช่น วิชาช่าง ศิลปะ การรักษาโรค และมักเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ เช่น การขุดบ่อน้ำ สร้างสะพาน ผู้ระงับกรณีพิพาทในชุมชนเหล่านี้เป็นต้นอีกด้วย
จากการที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เดียวกัน ทำให้เกิดความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจในชุมชนเพื่อกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งอันเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยส่วนรวม
ในชุมชนที่ผู้เขียนได้เล่าไว้ ได้พบความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยมีวัด หรือ กิจกรรมทางศาสนาเป็นศูนย์กลางได้เช่นกัน เช่น
.. การปล่อยโคมลอยซึ่งไม่สามารถทำได้โดยบุคคลใดเพียงบุคคลเดียวเนื่องจากความยุ่งยากเกินกำลังทั้งกำลังแรงงาน และกำลังทรัพย์ จึงต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชน
.. การสร้างโรงเรียนวันครู (๒๕๐๔) ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย
.. การขุดสระน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบริโภคหลังโรงเรียน เป็นต้น
(อย่างไรก็ดี จากเรื่องเล่านี้ ก็ยังเห็นการเปลี่ยนแปลงในสังคม ที่วัดในชุมชนถูกลดความสำคัญลงด้วย เช่น ศึกษาที่แยกตัวออกจากออกจากวัด จากการจัดการโดยพระ มาเป็นการศึกษาที่จัดการกันเองโดยฆราวาส ซึ่งก็เป็นลักษณะเดียวกับที่พบเห็นได้ในวัดอื่นๆทั่วประเทศ)
๔.ลักษณะของอุปนิสัย หรือวิถีชีวิตของคนในชุมชน
หลักธรรมในศาสนาพุทธมีส่วนในการหล่อหลอมลักษณะนิสัยของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในศาสนาพุทธมีทั้งหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ในทุกแง่มุม เช่น การพัฒนาจิตใจ การดำรงชีวิตให้เหมาะสม และมีความสุขตามฐานะทางสังคม (เช่น ในฐานะผู้ปกครอง ในฐานะแม่ ลูก เป็นต้น) การเกื้อกูลกัน รวมไปถึงความมีระเบียบเรียบร้อยในสังคม
ดังในเรื่องเล่าเรื่องนี้ สามารถพบลักษณะนิสัยที่ถูกหล่อหลอมด้วยพุทธศาสนาได้ในหลายแง่มุม เช่น
-การมีจิตใจที่ดี เช่น หลักพรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) เป็นต้น
-การครองชีวิตอย่างสงบสุขในฐานะฆราวาสและเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสังคม เช่น หลักฆราวาสธรรม (สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ) หลักสังคหวัตถุ ๔ (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา) หลักสัปปุริสธรรม ๗ (รู้จักเหตุ รู้จักผล รุ้จักตน รู้จักกาล รู้จักประมาณ รู้จักบุคคล รู้จักบริษัท)
-การนำธรรมะมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ชีวิตเพื่อความสุขตามเหตุปัจจัย เช่น หลักปัจจุบันธรรม ชีวิตจึงผ่านความยากลำบากไปอย่างมีความสุขเพราะมอง และ ยอมรับโลก อย่างถูกต้องตามพื้นฐานความเป็นจริงในปัจจุบัน จึงมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่จริงในปัจจุบัน หรือ หลักสันโดษ ยินดีตามที่มี ที่หาได้ จึงไม่ริษยาใคร เป็นต้น
-การถือเอาประโยชน์ที่เลยตาเห็น หรือ สัมปรายิกัตถะ และ ปรมัตถะ นอกเหนือไปจากประโยชน์ปัจจุบัน หรือ ทิฏฐธัมมิกัตถะ ของพุทธศาสนิกชน
-การดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘ ที่นำมาจัดในลักษณะของบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เพื่อให้เหมาะกับวิถีชีวิตฆราวาส(ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย อปจายนมัย เวยยาวัจจมัย ปัตติทานมัย ปัตตานุโมทนามัย ธัมมัสสวนมัย ธัมมเทสนามัย และ ทิฏฐุชุกัมม์)
ดังมีตัวอย่างอย่างมากมายที่พบได้จากเรื่องเล่า เช่น
..การขายผัดไทยแบบเงินเชื่อ ที่ผู้ซื้อนำเงินมาชำระภายหลัง (สัจจะ)
http://gotoknow.org/blog/wirat-kamsrichan/290078
..การคิดและทำกิจกรรมเพื่อเด็กๆที่ขัดสน (พรหมวิหาร ประกอบกับธรรมอื่นเช่น สังคหวัตถุ) การแบ่งเฉลี่ยความดีให้ผู้อื่น โดยแบ่งหน้าที่กันทำกิจกรรมเพื่อชุมชน เช่น การเลี้ยงอาหาร การขุดบ่อน้ำ (ปัตติทานมัย)
ซึ่งนอกจะเป็นการแบ่งเฉลี่ยความดีกันแล้ว ในส่วนตัวผู้ทำ ยังถือว่าได้บำเพ็ญประโยชน์ (อัตถจิรยา) การยินดีกับความดีของผู้อื่น เช่น การที่ผู้เขียนยินดีกับมารดาที่จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารเด็ก (ปัตตานุโมทนามัย) เหล่านี้เป็นต้น
http://gotoknow.org/blog/wirat-kamsrichan/286693
สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่
มาส่งความระลึกถึง
ที่กาฬสินธุ์ทั้งฝนตกและอากาศแสนหนาวเย็นมากๆ
มีดอกฟักข้าวมาฝากค่ะ
คุณ mena ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมพร้อมดอกและผลฟักข้าวกำลังงาม..ที่สวนบ้านพี่ใหญ่มีแต่ใบดกค่ะ..
..อากาศเปลี่ยนแปลงเร็วและผิดฤดูกาล รักษาสุขภาพด้วยนะคะ..
แวะมาติดตามความเคลื่อนไหวครับ
copyไปอ่านแล้ว นะครับพี่ใหญ่
ขอบคุณครับ
คุณแสงแห่งความดี ขอบคุณค่ะที่แวะมารับทราบความคืบหน้า..พี่ใหญ่กำลังร่างขึ้นบันทึกในประเด็นที่ ๖ "ความคาดหวังต่อการรักษาและพัฒนาวัฒนธรรม ของสถาบันครอบครัวสู่สังคม "
สงสารชาวไทยที่โดนน้ำท่วม ลมควรเลิกแบ่งสีไปดูแลคนไทยที่ลำบากดีกว่า
มาชม
เรียงถ้อยร้อยอักษรดุจดังลมหายใจจริงนะครับนี่...ชื่นชม ๆ
กลุ่มถอดบทเรียนกลุ่มนี้ทำงานเข้มแข็ง ก้าวหน้ามากเลยค่ะ ได้เห็นภาพสังคมไทยงดงามบนพื้นฐานศีลธรรม ดีใจที่มีโอกาสได้รับรู้สิ่งดีงามเช่นนี้นะคะ
กลุ่มของคุณศิลาและนุชยังซุ่มๆอยู่ค่ะ ^___^
อ.umi ขอบคุณสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกถอดบทเรียนของสมาชิกกลุ่ม "ดังลมหายใจ"..ซึ่ง คุณณัฐรดา สกัดจากเนื้อหาที่ประทับใจและน่าเรียนรู้มากค่ะ..
คุณอุ้มบุญ ขอบคุณมากค่ะขอบคุณมากค่ะที่มามอบดอกไม้แก่บันทึกถอดบทเรียนกลุ่ม "ดังลมหายใจ"..สมาชิกทุกคนมีมุมมองที่น่าสนใจทั้งสิ้นค่ะ..
.... พี่ใหญ่หวังว่า กลุ่ม" คนปลูกผักกินได้ " คงจะเริ่มต้นเขียนเนื้อหาอย่างเข้าถึงประสบการณ์ในการปลูกผักอย่างมีความสุขนะคะ..
คุณอิงจันทร์ ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามาเยี่ยมอ่านการถอดบทเรียนของ กลุ่ม"ดังลมหายใจ"..รออ่านของ คุณณัฐพัชร์ ที่คงกำลังมีร่างเตรียมไว้แล้วนะคะ..
คุณนายดอกเตอร์ ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกถอดบทเรียน ของกลุ่ม"ดังลมหายใจ" ซึ่งมีประเด็นที่น่าศึกษาในเชิงลึกของครอบครัวและชุมชนที่น่าสนใจจริงๆค่ะ..
..พี่ใหญ่จะรออ่านกลุ่มของ คุณนุชและคุณศิลา นะคะ :
6. กลุ่ม ความดี ความงาม ความสุข
คุณ blue star ขอบคุณมากค่ะที่แวะมามอบดอกไม้แก่กลุ่ม "ดังลมหายใจ"..เป็นกำลังใจที่ดีมากแก่สมาชิกของเราค่ะ
สวัสดีครับพี่ใหญ่...
แวะมาเยี่ยมเยียนและทักทายด้วยความระลึกถึงครับ...
คุณหนานเกียรติ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาฝากความรำลึกถึงกัน..ป่านนี้ หลานเฌวาคงโตขึ้นมากแล้วนะคะ..ฝากคิดถึง น้องกวาง ด้วยค่ะ..
การขายผัดไทยแบบเงินเชื่อ ที่ผู้ซื้อนำเงินมาชำระภายหลัง (สัจจะ)
ดร.ขจิต ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกไม้ที่มอบแก่บันทึกถอดบทเรียนของ กลุ่มดังลมหายใจ และดีใจแทน ผศ.ดร.วิรัตน์ ที่ได้ย้อนเรื่องราวชีวิตครอบครัวที่มีคุณค่าต่อความสัมพันธ์ในชุมชนที่สมควรรักษาและพัฒนาต่อไป..
...บันทึกล่าสุดของพี่ใหญ่เป็นประเด็น ความคาดหวังต่อการรักษาและพัฒนาวัฒนธรรมของสถาบันครอบครัวสู่สังคม
http://gotoknow.org/blog/nongnarts/433705?refresh_cache=true