|
เว็บศูนย์รวม "โยคะสารัตถะ |
วีระพงษ์ ไกรวิทย์ (ครูโต้)
และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี (ครูจิ)
แปลและเรียบเรียง
คอลัมน์ ; ตำราโยคะดั้งเดิม
โยคะสารัตถะ ตุลาคม ๒๕๕๒
ในบทที่ ๑ ประโยคที่ ๒๔ ของโยคะสูตรได้กล่าวว่า "กเลศะ-กรรมวิปากาศไยรปรามฤษฏะห์ ปุรุษะ-วิเศษะ อีศวระห์" แปลว่า อีศวรเป็นปุรุษะพิเศษซึ่งไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นจากกิเลส รวมถึงกรรมทั้งหลาย การสุกงอมของกรรม และแหล่งสะสมกรรม (ซึ่งต่างจากปุรุษะที่อยู่ในมนุษย์ทั่วไป)
จากฉบับที่แล้ว (๑ : ๒๓) กล่าวถึงอีศวรประณิธานะว่าเป็นการยอมจำนนอย่างถึงที่สุดหรือการละตัวตน(ความเป็นตัวฉัน) อย่างสมบูรณ์เพื่อเข้าถึงเป้าหมายของโยคะคือไกวัลย์ และเราก็พอเข้าใจกันแล้วว่าอีศวรของปตัญชลีนั้นไม่ใช่พระเป็นเจ้าและไม่ได้มีตัวตนจึงไม่มีรูปหรือร่างกาย และไม่ได้เป็นทั้งผู้หญิงหรือผู้ชาย ตามหลักความจริงของปุรุษะ(ตัวสำนึกรู้)ในตัวมนุษย์นั้นแยกออกจากประกฤติ(ส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นร่างกาย) แต่การปรากฏขึ้นของสิ่งลวงตาหรือความเข้าใจผิดมาจากการที่ปุรุษะเกี่ยวพันใกล้ชิดกับประกฤติเพราะปุรุษะที่อยู่ในตัวมนุษย์นั้นทำงานผ่านทางจิตตะหรือจิตใจ(ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประกฤติ) ทำให้จิตตะหลงผิดคิดว่าเป็นการกระทำของร่างกาย ความหลงผิดหรือภาพลวงตาเช่นนั้นจะไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับอีศวรเนื่องจากมันไม่เคยเป็นเจ้าของร่างกายและรวมทั้งไม่ได้เป็นเจ้าของจิตใจซึ่งทำงานผ่านร่างกาย กิเลส ๕ (ในประโยค ๒ : ๓ ถึง ๒ : ๙) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งผลกระทบต่ออีศวร นั่นจึงตอบคำถามที่ว่าทำไมมันถึงเป็น "กเลศะ-อปรามฤษฏะ" (กิเลสไม่สามารถสร้างผลเสียอันใดต่ออีศวรได้)
ตามกฎแห่งกรรมได้กล่าวไว้ว่า กรรมที่แตกต่างกันย่อมใช้เวลาที่ต่างกันในการดำเนินไปจนสุกงอมและให้ผลกรรม(วิบาก)ออกมา จึงสันนิษฐานได้ว่ากรรมเหล่านี้ยังคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในรูปที่ละเอียดอ่อนบางอย่าง แหล่งที่เก็บสะสมกรรมเหล่านี้เรียกว่า "กรรมาศยะ" และเนื่องจากอีศวรไม่มีทั้งร่างกายและจิตตะ มันจึงไม่อาจสร้างกรรมหรือการกระทำใดๆ ขึ้นมาได้ ดังนั้นการสุกงอมและให้ผลของกรรมจึงไม่เกิดขึ้นในกรณีของอีศวร
ไม่มีความเห็น