Salt Lake City, 14 Mar. 2011
สวัสดีค่ะ...พี่นีนาถ...
สวัสดีค่ะ..น้องบุษยมาศ..
* ภัยธรรมชาติห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้...ไม่อยากให้มันเกิดกับประเทศใดๆ ในโลกน้อยใบนี้เช่นกัน...แต่บางกรณีมันก็สุดวิสัยของมนุษย์นะ...เมื่อถึงเวลา...
มาอ่านบันทึกนี้แล้วคิดถึงบทนี้...
บุแผ่นธรณีดั้นกุมพระกาย กำโฮบ
เกาะก่าย เกยโลบเลี้ยวสเมรุค้าน โค่นคลอน
คะเคลื่อน คุ้งแก่นเหง้ากากาบ กอยกระจัด
เสลา เนาพูผาเกลื่อนธรัง ทะลายย้อง
อานนท์ เนาแนบพื้นเฟือนฟาด ฟองสมุทร
นาโคคะคลาดโฮง ฮามย้อง
จักรวาฬเหลื้อมคีรี ไหวหวั่น
นาคะ เฟื่อนฟั่งฟ้าวฟูมเฟื้อย แค่เฟือย
ครุธะ อ้าปีกขึ้นขำเมฆ เฮืองฤทธิ์
จันโท มัวเมามุดมืดแสง สูรย์อ้ำ
ยามท่อง เทียวล่วงฟ้าพิมานเอื้อม อาดสมีฯ
และอีกบทหนึ่ง....ว่า..
บุแผ่นพื้นเทียวท่อง ทำฤทธิ์
ทยานเวหาฮ่วมเฮียง พระจันทร์แจ้ง
ดำดินดั้นเมโฆ ขำเมฆ
ผันล่วงฟ้าอิงเอื้อม แท่นอินทร์ฯ
แปดแผ่นพื้นพรหมวาส วงกฏ
ในพงไพรเดือดกระหาย หิวฮ้อน
อาเกียรติ์ล้อมคณานัน เนื่องนี่
สัตว็สามานย์ มอดเมี้ยนพระไมติ์ขั้น ขาดแคลน....
ขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง..
นมัสการ ท่านพระมหาวินัย
นับว่าท่านฮู้ลึกซึ้งถึงวรรณกรรมลาวล้านซ้งอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งแม่นพระเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรลาวล้านซ้างเวียงจันทน์เป็นผู้ทรงประพันธ์ไว้...
ข้าน้อยจะลิ้งค์ใส่ต้นฉบับภาษาลาวให้ท่านพระมหาและสมาชิกแห่งนี้ได้อ่านนำ
http://secretpoemlaoking.blogspot.com/
บทกวีชุดนี้ คนลาวฝั่งซ้ายถือเป็นวรรณกรรมแห่งชาติที่มีความสำคัญหลายค่ะ...
เกือยแก้ใหม่เด้อ เปิดเบิ่งแล้ว บ่เห็นหยังเลย หน้ากระดาดซือ ๆ แปนเปล่าดาย
คือเปิดไปดูตามลิงค์ที่ให้ไว้แล้ว ไม่เห็นอะไรเลย ว่างเปล่า หรือเป็นเพราะเน็ตช้าก็ไม่รู้ ลองพูดภาษาลาวดูไม่รู้ถูกหรือเปล่านะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง
นมัสการค่ะ ท่านพระมหา,
ข้าน้อยเช็คเบิ่งแล้ว ในคอมฯบ้านข้าน้อย เข้าได้อยู่ค่ะ.. แต่ก็มีอีกทางหนึ่งให้ท่านพระมหาเข้าไปม่องนี้ก่อน http://www.laoampilotwriter.blogspot.com/
แล้วจึงไปต่อที่หน้าของสาส์นลึพสูญค่ะ (Sarn Lup Parh Soon) จะเป็นลิ้งค์อันดับที่ 12 ของเว็บข้างเทิ่ง-อยู่ทางขวามือเด้อค่ะ...ใจเย็นๆค่ะ
ถ้าแม่นว่าเข้าบ่ได้อีก...ข้าน้อยคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเน็ตช้ากะได่..เป็นจังได๋ให้อีเมล์บอกข้าน้อยให้ฮู้แน่เด้อค่ะ
สงสัยเน็ตช้า แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก มีต้นฉบับเป็นหนังสือเก่าๆ อยู่ ขอบคุณคุณโยมที่แบ่งปันความรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมของชนชาติลาวเป็นวิทยาทาน ลึบบ่สูรย์ ถ้าจะเทียบกับร้อยกรองของไทยเรา คงจะใกล้เคียงกับกาพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง ใช่มั้ย และท่านผู้แต่งเรื่องนี้ คงเป็นคนหนึ่งที่มีความเข้าใจในหลักธรรมคำสั่งสอนในทางพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี การแต่งเรื่องนี้คล้าย ๆ กับ ชายหนุ่มคุยกับหญิงสาว ที่เป็นลักษณะนารีปราโมทย์ก็เห็นมีมากมาย บางที่บางแห่งก็เป็นลักษณะอุปมาอุปไมย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่แต่ละบท แต่ละบั้น แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่ทิ้งคำสอนในทางพระพุทธศานา ปลุกเร้าให้เกิดศรัทธาในพระรัตนตรัย ยึดมั่นในการทำความดี
นมัสการท่านพระมหา
ถ้าเน็ตช้า..ก็คงต้องใจเย็นๆค่ะ.แต่ท่านมีต้นฉบับหนังสือเก่าๆ เมื่อเปิดเน็ตได้ ก็ลองอ่านเปรียบเทียบกันดูนะคะ..เพราะฉบับที่ได้แนะนำให้ท่านได้อ่านในเว็บ..เป็นหนังสือเก่ามากๆค่ะ..(คนลาวผู้หนึ่งเพิ่นมีแล้วเพิ่นพิมพ์ส่งมาให้เอาลงในเว็บค่ะ)... (ข้าน้อยเองก็ยังบ่ได้อ่านดอกค่ะ...ว่างๆก่อนแล้วจะอ่าน)อยากเห็นหน้าตาของหนังสือต้นฉบับเก่าๆคือกันค่ะ...
ท่านมหาสีลา วีระวงส์ ได้บันทึกไว้(ใน"หนังสือประโหยดของวันนะคะดี")ว่าพระเจ้าอนุวงศ์เป็นผู้ทรงประพันธ์.
ด้วยความปรารถนาดี ขอมอบกะโลงคำเมือง แถม ๑ บทครับ
แผ่นดินไหวใจ๋สู้ อยู่เน้อ หมู่เฮา
รำลึกสิ่งดีเอา เข้าไว้
ควรเตรียมตั๋วสู้ก๋รรม ป่ำเป็ง เอาเนอ
จุ่งจั๊กพลีพร้อมเพรียก เฮียกหมู่จาวเมือง
หมายเหตุ ก๋รรม=กรรม, ป่ำเป็ง=บำเพ็ญความดี, จั๊ก= ชักชวน
สวัสดีค่ะ คุณสนั่น
ขอบคุณสำหรับกะโลงคำเมืองค่ะ...แปลคำศัพท์ให้อีกต่างหาก...ดีจังเลย..จะพยายามเรียนภาษาล้านนาค่ะ...