ความหมายของชีวิตที่คุ้มค่า : ท่าน ว.วชิรเมธี ได้กล่าวไว้ในนิตยสาร Secret ฉบับทีี ๕๗ หน้า ๙๓ ว่า
ชีวิตเป็นสิ่งสูงค่า ถ้าใช้ชีวิตไม่เป็น สิ่งสูงค่าก็จะแตกดับอย่างง่ายดาย และไม่คุ้มกับที่โชคดีได้เกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่ง ในทางพุทธท่านกล่าวว่าสิ่งที่ได้มานั้นยากแสนเข็ญอยู่ ๔ ประการคือ
๑.ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์
๒.ยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด
๓.ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ
๔.ยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม
คำสอนข้างบนนี้อ่านมานานหลายเดือนแล้ว แต่วันนี้จำต้องและทบทวนตามสถานการณ์ที่ฉันได้ไปพบมาอีกครั้ง มากมายหลายสถานการณ์ด้วยกัน รวมทั้งสถานการณ์ในวันนี้ทำให้นึกถึงคำสอนดังกล่าว
สถานการณ์แรก สองสามวันก่อนได้เห็นผู้หญิงวัยกลางคน ฉกกระเป๋าตังค์ของหญิงสาวที่กำลังนั่งทานข้าว โดยทำท่าเดินผ่านฉันไปและหยิบกระเป๋าที่วางบนเก้าอี้ข้างตัวอย่างใจเย็น เจ้าของกระเป๋าไม่รู้ตัว เพราะท่าทางเหม่อลอย นอกจากฉันแล้วยังมีแม่ค้าเห็นการกระทำด้วย จึงรีบตะโกนบอกเจ้าของกระเป๋า หลายคนทั้งชายหญิงวิ่งไล่จับกันอย่างชุลมุน แต่ฉันไม่ได้ติดตามไปดูเรื่องราว และไม่ได้นำมาเล่าเพราะเป็นระหว่างวันแห่งความรัก
สถานการณ์ที่สองเมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อนบ้านวานให้ขับรถพาไปตลาดสด พวกเราเดินดูสิ่งของ หญิงสาวคนหนึ่งเรียกซื้อส้มโอ ตอนแรกฉันได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อปฏิเสธ แล้วฉันก็เปลี่ยนใจอยากจะช่วยซื้อ เพราะนานมาแล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเรียกฉันซื้อผักสดแต่ฉันไม่ซื้อ ยิ้มของคุณลุงยังติดตาติดใจฉันอยู่ด้วยความสงสารและเห็นใจ
ฉันได้ยินเธอตอบลูกค้าคนหนึ่งว่าส้มโอลูกละ ๕ บาท ฉันหันกลับไปมองดูอีกครั้ง คิดว่าหากเธอขายส้มโอทั้งหมดจะได้เงิน ๔๐ บาท (ถุงละ ๑๐ บาท เพราะมีส้มโอถุงละ ๒ ลูก) แต่มีเศษอยู่ ๑ ลูก ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ฉันจึงชี้เอาลูกนั้น เธอบอกว่า "ราคา๘ บาท" เพราะลูกโต ฉันส่งตังค์เหรียญ ๑๐ บาท ความสะเทือนใจที่คุกคามจิตใจฉันมาคือ "กว่าเธอจะควานหาตังค์เหรียญบาท ๒ เหรียญมาให้ฉันยากเย็นมาก" ขณะขับรถกลับบ้านเพื่อนบ้านถามว่า "คิมคิดอะไรอยู่หรือ"
ฉันตอบตามความรู้สึกว่า "หากจ่ายเงินค่าส้มโอทั้งหมดไม่เกิน ๕๐ บาท เราก็จะได้ส้มโอมาให้เด็ก ๆ ในซอยทานกันนะคะ" และส้มโอที่ซื้อมาฉันก็ให้เพื่อนบ้านไป
ส่วนวันนี้ฉันออกไปทำธุระที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง มีเหตุอันน่ารักน่าคิดทั้งขบขันและตื่นเต้น หากเล่าแล้วคงมีความสุขในการเล่า และสอดคล้องกับคำสอนที่กล่าวไว้แล้วนั่นเอง
สถานการณ์แรก ขับรถเข้าไปหาที่จอดพบเด็กรุ่นหนุ่มราว ๆ ไม่เกิน ๓๐ ปี กำลังคุยกันอย่างมีความสุข สังเกตจากการหัวเราะเต้นแร้งเต้นกา อยู่ดี ๆ คนหนึ่งชีมาที่รถของฉันว่า "รุ่นนี้แหละออร์เดอร์เพียบ เจ้ ๆ ซื้อมาทำไมรุ่นนี้ตลาดมืดมีเท่าไรไม่เหลือ" แถมเดินเข้ามาดูรถของฉันใกล้ ๆ ชโงกดูโน่นดูนี่ "มีลำโพงทวิตเตอร์เสียด้วย เสียงดีไหมเจ้" แถมซักไซร้ไล่เลียงซื้อมากี่วันกี่เดือน
ฉันพูดกับเขาแบบระมัดระวังตัวเหมือนกัน พร้อมกับบอกว่า "ป้าฝากดูด้วยนะหนู" แล้วฉันแกล้งเดินอ้อมไปอีกทาง วกกลับมาขึ้นบันไดเลื่อนใช้มือถือถ่ายภาพเด็กหนุ่มสองคนนี้ไว้ก่อนดีกว่าไม่ทำอะไรเลย และกลับไปถามยามว่ากล้องวงจรทางออกใช้ได้ดีไหม
สถานการณ์ที่สอง ขณะที่ฉันนั่งรอสินค้า ฉันถอดรองเท้าซึ่งเป็นแตะแบบคีบ แต่มีสุภาพสตรีนั่งถัดฉันอีก ๒ คน เราทักทายและยิ้มให้กันแล้วว่าบ้านอยู่ที่ไหน มาทำอะไร แต่สองคนลุกขึ้นก่อนฉันและเดินจากไป ส่วนฉันนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ บังเอิญมองไปอีกด้านยังเห็นผู้หญิงสองคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกลนัก ฉันถึงกับร้องอุทานอยู่ในใจ "ว๊ายแม่เจ้าประคุณนั่นมันรองเท้าของฉันข้างหนึ่ง คุณคีบรองเท้าข้างซ้ายของฉันไปทำไม" ฉันจึงเดินตามไป "สามคนจึงหัวเราะงอหงายกันอยู่ตรงนั้น เพราะเธอก็ไม่ทราบว่าคีบรองเท้าผิด"
สถานการณ์ที่สาม เรื่องไฟสัญญาณจราจรเสียหลายแห่งมากที่พบในเมืองพิษณุโลก นานเป็นแรมเดือนแรมปีก็ยังไม่จัดการซ่อมแซมเสียที วันนี้ผ่านไฟสัญญาณเสียสองแห่งคือสี่แยกนเรศวร ขากลับสี่แยกบ้านแขก "ผู้ใช้รถต้องใช้ความสามารถวัดใจ" ข้อปฏิบัติตามวินัยจราจรคือ "ให้รถด้านขวาทางเอกไปก่อนเสมอ" ฉันอยู่ทางเอกแต่จะเลี้ยวขวา แต่คันซ้ายมาแซงตัดหน้า ฉันต้องหักหลบ และมองรถว่ามีรถด้านหลังตามมามากไหม เมื่อไม่มีจึงชลอหยุดดูจังหวะ ในใจก็คิดว่า "เก็บคุณธรรมใส่ลิ้นชักก่อนดีไหม" เพราะต่างคนต่างจ้องไปกันทุกคัน ไม่มีการเคารพกฏเกณฑ์หรือแบ่งปันน้ำใจให้กันเลย
สถานการณ์ที่สี่หน้าห้างโลตัส เป็นการจราจรที่วุ่นวายมากทุกวัน เพราะมีที่กลับรถ ๒ แห่งห่างกันประมาณ ๒๐๐ เมตร ฉันมาถึงเป็นไฟสัญญาณเขียวพอดี กำลังเหยียบเร่งให้ทางคันหลังพอดี จราจรโผล่มาชี้ที่เลขทะเบียนของฉันเหมือนทำท่าให้จอด ความคิดเกิดขึ้นในใจอีกละ "เอาแล้วเราผิดอะไรหว่า" แล้วก็เห็นทำมือให้ไปได้ แต่ไปโบกให้คันหลังจอด "ที่แท้ก็ติดรถนำขบวน"
สถานการณ์ที่ห้าที่สี่แยกอินโดจีน เมื่อรถนำขบวนผ่านไปและรถของฉันยังติดไฟแดง ฉันเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๒ นายยืนปฏิบัติหน้าที่กลางแดดที่ร้อนอบอ้าว ชุดเครื่องแบบบีบรัดทั้งเสื้อ กางเกง ถุงเท้ารองเท้า (ทำให้นึกถึงสิ่งตรงข้ามที่บางกลุ่มนั่งทำงานในห้องแอร์ ดื่มไวน์ขวดละเป็นแสน ขับรถยุโรปราคาแพง สร้างบ้านราคาหลายร้อยล้าน ) อยากจะให้คนรัก ลูกเมียของตำรวจเหล่านี้เป็นลูกและภรรยาที่น่ารักคอยเป็นกำลังใจสามี ฉันขอเป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่
และอยากจะให้คนไทยทุกคนรัก สามัคคี เคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง ไม่ควรทำเรื่องเดือดร้อนหรือยุ่งยากใจ เป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่โดยไม่เกิดประโยชน์
กว่าจะถึงบ้านต้องหักหลบมอเตอร์ไซค์ที่ล่วงเกินเส้นทางรถยนต์อีก สถานการณ์ประจำวันเจ้าเอย "ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด" เพื่อให้ดำรงตนสู่การเรียนรู้ว่า "ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ และยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม"
พี่คิมที่รัก....
อ่านหนังสือพี่เพิ่มไปได้อีกหลายตอนแล้วค่ะ แต่...ก็ยังไม่จบ เพราะอ่านวันละน้อย...จะได้อ่านให้...นานๆ
พอมาเจอบันทึกนี้ก็อ่านแบบมีความสุขเพราะคนเขียนให้อ่านไม่ซีเรียสอยู่แล้ว จริงไหมคะท่านพี่...
@@@ยากเหลือแสนกว่าจะเกิดเป็นมนุษย์
ยากที่สุดกว่าเติบใหญ่ใช้ชีวิต
ยากยิ่งกว่าพระพุทธองค์อุบัติติด
ยากต้องคิดถึงสัจธรรมนำผลบุญ@@@
ขอบคุณค่ะ..ไม่เพียงแต่ยากที่เกิดเป็นมนุษย์..เกิดแล้วยังยากในการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขที่ยั่งยืน..เพราะทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ เป็นอนัตตา..
..เวลาที่เหลืออยู่ก็เหลือน้อยแล้ว..เร่งฝึกปฏิบัติ ทาน ศีล สมาธิ เพื่อเพิ่มพูนปัญญาญาณแห่งการดับทุกข์ตามวิถีพุทธกันเถิดนะคะ..
สวัสดีค่ะ พี่คิม
บันทึกเรื่อวราวชวนติดตามอ่าน คนเขียนเล่าได้สนุกค่ะ ถูกใจๆๆๆ และให้ข้อคิดดีๆ "ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด" เพื่อให้ดำรงตนสู่การเรียนรู้ว่า "ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ และยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม"
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพี่คิม
ที่แรกไม่ค่อยจะเชื่อว่า
เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก
แต่ว่าเมื่อใคร่ครวญโดยละเอียดแล้ว
เห็นด้วยตามคำพระสอนครับ
โยมพี่คิม
มาอ่านและให้กำลังใจจ๊ะ ชอบความคิดของโยมพี่มาก เพราะเป็นเขียนที่เกิดจากการตกผลึกทางความคิด และประสบการณ์ที่ยาวนาน และหลากหลาย จนกลายเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญา (Knowledge Asset) นับเป็น "อริยทรัพย์" อย่างแท้จริง
ดูแลสุขภาพตัวเองบ้างน่ะ โยมพี่คิม พวกเราเป็นห่วงน่ะ
ฝากดอกแก้วให้กำลังใจนะคะ
สวัสดีค่ะkrugui Chutima
กว่าจะกลับถึงบ้านได้...จอดรถเปิดประตูบ้านก็อดขำกับเหตุการณ์ไม่ได้ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเด็กหนุ่ม ๒ คนและเรื่องรองเท้าค่ะ
วันนี้อากาศเย็นสบาย พี่คิมตื่นไปออกกำลังกายแต่เช้ามืดค่ะ ตอนนี้มีลมพัดเย็นดีจังค่ะ
การอ่านหนังสือธรรมะก็ต้องอ่านช้า ๆ ถูกแล้วค่ะ เพราะเราต้องคิดไปด้วยนี่คะ เป็นกำลังใจให้ค่ะน้องรัก
สวัสดีค่ะพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
ตอนนี้มีโอกาสได้ฝึกอยู่ที่บ้าน ฝึกตลอดเวลาที่จะลุก นั่งหรือเดินค่ะ บางคราวก็นั่งสมาธิกลางวันก่อนนอนตอนบ่ายที่บ้าน เพราะที่บ้านเงียบ ห้องกว้าง เดินจงกรมได้ค่ะ
ออกกำลังกาย หากไม่ไปขี่จักรยานก็ออกกำลังกายที่บ้านค่ะ แต่วันนี้ไปขี่จักรยานและมาเพิ่มที่บ้านอีกนิดหน่อย
เมื่อเรามีสมาธิ สติส่งผลให้เรามีศีลมากขึ้นนะคะ เดิมนั้นเห็นมดมักจะบี้แต่เดี๋ยวนี้สติเตือนสำนึกตลอดเวลาว่า...ชีวิตนะคะ
ขอขอบพระคุณพี่ใหญ่ค่ะ
สวัสดีค่ะkruposong
ธรรมชาติและสิ่งรอบข้างคือบทเรียนที่มีคุณค่ามากค่ะน้อง พี่คิมว่าหากเรามองทุกอย่าง เราจะเห็นว่าทุกอย่างมีคุณค่าทั้งนั้นนะคะ
แทนที่เราจะฆ่าเวลาแต่เปลี่ยนให้มาเป็นค่าเวลา โลกนี้จะรื่นรมย์ค่ะ
การที่เราได้มาคยกันในนี้ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ทำให้เราได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่เป็นประโยชน์ต่อกัน
การออกจากบ้านมันมีแต่ความวุ่นวาย แต่ในความวุ่นวายทำให้เราได้รู้จักความหมายของชีวิตอีกมิติหนึ่งนะคะ
สวัสดีค่ะกิ่งไผ่ใบหลิว
น้องกลับมาแล้วหรือคะ สบายดีไหม ดีใจค่ะที่กลับมาทักทายและหวังว่าจะได้บันทึกกลอนไพเราะของน้องอีกนะคะ
สิ่งยั่วยุ...ทางใจมากเลยค่ะ ขับรถปาดหน้า บีบแตรไล่ เสื้อผ้าสวยงาม สิ่งของสวย ๆ ชวนมอง พี่คิมทำได้บ้างแล้วในการเฉย ๆ ค่ะ ไม่ทราบว่าสติจะแตกอีกตอนไหน ฮา ๆ ๆ ๆ
ขอขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะอิงจันทร์
มาแจกคำชมกันแต่...มืด ๆ ดึก ๆ กันเลยหรือคะ
พี่คิมเขีนเพราะอยากเขียน และเขียนตามที่คิดค่ะ เพียงแต่พยายามที่จะสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย
ยากเหลือแสน...กลับมาถึงบ้านก็อดขำกับตัวเองค่ะ
พ่อแม่พี่คิมก็เคยสอนไว้ว่า "ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะได้มาอย่างง่ายดาย ทุกสิ่งเป็นเรื่องยาก แต่ให้พยายามทำเรื่องยากมาเป็นเรื่องง่าย และทำอย่างถูกต้อง"
ตอนเป็นเด็กก็ฟัง ๆ ๆ ๆ ปฏิบัติตามได้ก็ทำ หากปฏิบัติไม่ได้ก็ไม่ฝ่าฝืน แล้วเมือเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจึงนึกถึงคำสอนเหล่านั้นค่ะ
ขอขอบคุณกุหลาบแสนสวยค่ะ
ขอบคุณน่ะค่ะพี่คิมสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ชอบค่ะ...
สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ เปียสนิท
เหมือนพี่คิมค่ะ ฟังอะไรครั้งแรกมักจะไม่เชื่อ แต่ไม่ต่อต้านหรือขัดแย้งนะคะ ตอนหลังจะค้นพบเองว่าจริง ๆ
เพราะเป็นมนุษย์นะคะ หากเราอ่านความหมายของมนุษย์ก็จะได้เข้าใจว่ามันยาก ทุกวันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นมนุษย์ทั้งตัวและหัวใจค่ะ
การค้นหาตัวเองก็เป็นเรื่องของมนุษย์ จริง ๆ ด้วยค่ะ
"อาจารย์สอนให้ทำงานเรียบร้อย"
"เสียดายที่รุ่นน้องไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์กับอาจารย์"
มีความสุขจริงๆ กับการเป็นครู ถ้ามีโอกาสต้องขอสมัครเป็นศิษย์ครูคิมด้วยนะครับ
นมัสการพระคุณเจ้าธรรมหรรษา
กราบขอบพระคุณ ในความปรารถนาดีเจ้าค่ะ
การอ่านธรรมะหรือคำสอนต่าง ๆ หลายครั้งจะอยู่ในความจดจำ หากเมื่อเกิดสถานการณ์จะถูกนำออกมาใช้เจ้าค่ะ
เรื่องนี้อ่านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน คิดไปเพียงแต่ว่า เกิดมาเป็นคน พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ทั้งร่างกายและจิตใจ มันยากจริง ๆ
เมื่อมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ทำให้เข้าใจความหมายจากที่อ่านมากขึ้นอีก พี่คิมเข้าใจแล้วว่าหากมันเป็นเรื่องง่าย โลกนี้ก็คงมีแต่ความรืนรมย์เจ้าค่ะ
สวัสดีค่ะน้องครูแป๋ม
ขอขบคุณค่ะน้องรัก คนเราเกิดมาแล้วมีความจำเป็นที่จะต้องทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวมและความสุขของคนรอบข้างจึงจะสมกับเป็นมนุษย์
พี่คิมได้เรียนรู้กับวัน เวลา และสถานการณ์รอบข้าง ทำให้คิดได้สอดคล้องกับเรื่องที่อ่าน
หากไม่มีสถานการณ์เช่นนี้ อ่านมาก็คงจะไม่มีความหมายค่ะ
สวัสดีค่ะชำนาญ เขื่อนแก้ว
จริงค่ะ พอหลุดจากที่คับขันจอแจ ก็ยิ้มให้กับตัวเองทุกครั้งว่า เรารอดแล้ว ฮา ๆ ๆ การขับรถพี่คิมเคยขับรถเร็วมาก ภายหลังมีคนเตือนบ่อย ๆ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
เมื่อมาศึกษาและเรียนรู้ธรรมะ จิตใจก็เยือกเย็นลง เห็นได้จากมีผู้มาบอกว่าขับรถช้าลงแล้ว
ที่พิษณุโลก การจราจรยอดแย่อยู่แล้ว แต่ไฟสัญญาณยังมาเสียอีก แย่ไปใหญ่ เมื่อรถไปติดตรงนั้นก็เกิดแย่งทางกันอีก "รถล้นถนน" ค่ะ
ดีแล้วที่น้องขับรถช้า ขอเป็นกำลังใจค่ะ
สวัสดีค่ะ✿อุ้มบุญ✿
ขอขอบคุณค่ะ ดอกแก้วมีกลิ่นหอมชื่นใจค่ะ
สวัสดีค่ะหนูรี
ประสบการณ์และเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาหรือเราประสบด้วยตนเองพี่คิมว่ามันเป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามากมายค่ะ
เมื่อได้พบสถานการณ์ จึงนึกถึงพระธรรมคำสอนที่เคยอ่านมาค่ะ ไม่เช่นนั้นก็อาจหลงลืมไป
นี่แหละค่ะสัจธรรมของคำพระธรรม มีธรรมชาติเป็นบทเรียนรู้
ขอขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน
สวัสดีค่ะนาย ฐานิศวร์ ผลเจริญ
ดีใจจังค่ะ และมีความสุขมากที่น้องได้บอกความรู้สึกของการเป็นครู มีอะไรให้รับใช้ก็ยินดีค่ะ
เรื่องสำคัญกว่าจะมาเป็นเล่ม ๆ ได้จาการจดบันทึกค่ะน้อง บันทึกพฤติกรรมของเด็กทุกชั่วโมง
หากเป็นกรณีพิเศษก็อาจได้บันทึกยืดยาวหน่อย ลองทำดูนะคะ และขอเป็นกำลังใจค่ะ สู้ ๆ ๆ ๆ พี่คิมเชื่อว่า "ครูดีมีอยู่ทั่วประเทศไทย"ค่ะ
สวัสดีค่ะพี่คิม
เรื่องราวชีวิตของคนเราในแต่ละวันนั้นสามารถเป็น อุทาหรณ์ ให้กับอีกหลายๆคนได้เป็นอย่างดีนะคะ..บางทีก็นึกอยากเก็บคุณธรรมเข้าไว้ในลิ้นชักเหมือนกันค่ะ...เจอกัน 18ก.พนี้นะคะ..คิดถึงค่ะ..จุ๊บๆๆ
สวัสดีครับพี่คิม
การเอาชีวิตรอดในแต่ละวันว่ายากแล้ว พี่คิมยังมีชีวิตรอดในแต่ละวัน ด้วยสายตาและมุมมองที่น่านับถือ และมีมุม มีมุขที่น่านับถือ น่าอ่านครับ
หมอสุข
สวัสดีค่ะkrupong
ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ อย่าเอาอย่างพี่คิมเลย แพ้ความดีความเก่งลาออกมาอยู่บ้าน เปิดหน้าจอออนไลน์ตลอดวัน
อ่านแล้วมีสะดุดตรงไหน โปรดแจ้งด้วยนะคะ ยินดีรับข้อเสนอแนะเพื่อนำไปพัฒนาการสื่อสารด้านภาษาต่อไปค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีต่อกันค่ะ
สวัสดีค่ะมาตายี
กลับมาหลายวันแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นบันทึกภาคบุรีรัมย์และร้อยเอ็ดเลยนะคะ วันนี้แหละค่ะ จะเริ่มเสียหน่อย
ตอนแรกพี่คิมตั้งใจจองรีสอร์ทธารวังทองค่ะ มีธรรมชาติงดงาม มีน้ำตก อากาศเย็นสบาย
คุยกับหนานเกียรติแล้วว่าจะไปจัดค่ายฯ ที่โรงเรียนกระแตค่ะ
สวัสดีค่ะหมอสุข
ขอขอบคุณค่ะ
เป็นเพราะพี่คิมไม่มีงานประจำทำแล้วค่ะ จึงมีเวลาเรียนรู้ชีวิตและตัวเองมากขึ้น มีเวลาอยู่หน้าจอตลอดเวลา
สถานการณ์ที่เราพบเห็นมีทั้งมืดและสว่าง หากเราไม่ได้เป็นคนมืด ประสบการณ์สู่ความคิดก็ไม่บอดสำหรับเราค่ะ
สวัสดีค่ะป้าคิม
ดำมาบอกป้าว่า ตอนนี้ที่หน้าโลตัสปิดช่องกลับรถแล้วค่ะ ต้องไปกลับหน้าโฮมโปร ป้าคิมเห็นหรือยังคะ ดีจังค่ะ ป้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ น้อง ๆคิดถึงป้าค่ะ
สวัสดีค่ะครูวีณา
จริงค่ะ เห็นแล้วว่าเขาปิดทางแล้ว ดีนะคะ พวกเราจะได้รับการสะดวกในการใช้ช่องทางตรงนั้นค่ะ คิดถึงเช่นกันค่ะ
สวัสดีค่ะปณิธิ ภูศรีเทศ
บ้านเราการจราจรวุ่นวายน่าดูค่ะ แถวกลับบ้านพี่คิมเลยจากสี่แยกอินโดจีนแล้ว มอเตอร์ไซค์อกมาแย่งทาง ขับยากมากค่ะ