๖๙๕.ยากเหลือแสน


       ความหมายของชีวิตที่คุ้มค่า : ท่าน ว.วชิรเมธี  ได้กล่าวไว้ในนิตยสาร Secret ฉบับทีี ๕๗  หน้า ๙๓ ว่า

        ชีวิตเป็นสิ่งสูงค่า ถ้าใช้ชีวิตไม่เป็น  สิ่งสูงค่าก็จะแตกดับอย่างง่ายดาย  และไม่คุ้มกับที่โชคดีได้เกิดมาเป็นคนกับเขาชาติหนึ่ง  ในทางพุทธท่านกล่าวว่าสิ่งที่ได้มานั้นยากแสนเข็ญอยู่ ๔ ประการคือ

๑.ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์

๒.ยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด

๓.ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ

๔.ยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม

       คำสอนข้างบนนี้อ่านมานานหลายเดือนแล้ว  แต่วันนี้จำต้องและทบทวนตามสถานการณ์ที่ฉันได้ไปพบมาอีกครั้ง  มากมายหลายสถานการณ์ด้วยกัน  รวมทั้งสถานการณ์ในวันนี้ทำให้นึกถึงคำสอนดังกล่าว

       สถานการณ์แรก  สองสามวันก่อนได้เห็นผู้หญิงวัยกลางคน  ฉกกระเป๋าตังค์ของหญิงสาวที่กำลังนั่งทานข้าว โดยทำท่าเดินผ่านฉันไปและหยิบกระเป๋าที่วางบนเก้าอี้ข้างตัวอย่างใจเย็น เจ้าของกระเป๋าไม่รู้ตัว เพราะท่าทางเหม่อลอย  นอกจากฉันแล้วยังมีแม่ค้าเห็นการกระทำด้วย  จึงรีบตะโกนบอกเจ้าของกระเป๋า  หลายคนทั้งชายหญิงวิ่งไล่จับกันอย่างชุลมุน  แต่ฉันไม่ได้ติดตามไปดูเรื่องราว และไม่ได้นำมาเล่าเพราะเป็นระหว่างวันแห่งความรัก

       สถานการณ์ที่สองเมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อนบ้านวานให้ขับรถพาไปตลาดสด  พวกเราเดินดูสิ่งของ  หญิงสาวคนหนึ่งเรียกซื้อส้มโอ  ตอนแรกฉันได้แต่ยิ้มและส่ายหน้าเล็กน้อยเพื่อปฏิเสธ  แล้วฉันก็เปลี่ยนใจอยากจะช่วยซื้อ  เพราะนานมาแล้วมีผู้ชายคนหนึ่งเรียกฉันซื้อผักสดแต่ฉันไม่ซื้อ  ยิ้มของคุณลุงยังติดตาติดใจฉันอยู่ด้วยความสงสารและเห็นใจ 

       ฉันได้ยินเธอตอบลูกค้าคนหนึ่งว่าส้มโอลูกละ ๕ บาท ฉันหันกลับไปมองดูอีกครั้ง  คิดว่าหากเธอขายส้มโอทั้งหมดจะได้เงิน ๔๐ บาท (ถุงละ ๑๐ บาท เพราะมีส้มโอถุงละ ๒ ลูก)  แต่มีเศษอยู่ ๑ ลูก  ขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย  ฉันจึงชี้เอาลูกนั้น  เธอบอกว่า "ราคา๘ บาท"  เพราะลูกโต  ฉันส่งตังค์เหรียญ ๑๐ บาท ความสะเทือนใจที่คุกคามจิตใจฉันมาคือ "กว่าเธอจะควานหาตังค์เหรียญบาท ๒ เหรียญมาให้ฉันยากเย็นมาก"  ขณะขับรถกลับบ้านเพื่อนบ้านถามว่า "คิมคิดอะไรอยู่หรือ

      ฉันตอบตามความรู้สึกว่า "หากจ่ายเงินค่าส้มโอทั้งหมดไม่เกิน ๕๐ บาท  เราก็จะได้ส้มโอมาให้เด็ก ๆ ในซอยทานกันนะคะ" และส้มโอที่ซื้อมาฉันก็ให้เพื่อนบ้านไป

        ส่วนวันนี้ฉันออกไปทำธุระที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง  มีเหตุอันน่ารักน่าคิดทั้งขบขันและตื่นเต้น  หากเล่าแล้วคงมีความสุขในการเล่า  และสอดคล้องกับคำสอนที่กล่าวไว้แล้วนั่นเอง

        สถานการณ์แรก  ขับรถเข้าไปหาที่จอดพบเด็กรุ่นหนุ่มราว ๆ ไม่เกิน ๓๐ ปี  กำลังคุยกันอย่างมีความสุข สังเกตจากการหัวเราะเต้นแร้งเต้นกา  อยู่ดี ๆ คนหนึ่งชีมาที่รถของฉันว่า "รุ่นนี้แหละออร์เดอร์เพียบ เจ้ ๆ ซื้อมาทำไมรุ่นนี้ตลาดมืดมีเท่าไรไม่เหลือ"  แถมเดินเข้ามาดูรถของฉันใกล้ ๆ ชโงกดูโน่นดูนี่ "มีลำโพงทวิตเตอร์เสียด้วย  เสียงดีไหมเจ้" แถมซักไซร้ไล่เลียงซื้อมากี่วันกี่เดือน

        ฉันพูดกับเขาแบบระมัดระวังตัวเหมือนกัน  พร้อมกับบอกว่า "ป้าฝากดูด้วยนะหนู"  แล้วฉันแกล้งเดินอ้อมไปอีกทาง  วกกลับมาขึ้นบันไดเลื่อนใช้มือถือถ่ายภาพเด็กหนุ่มสองคนนี้ไว้ก่อนดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  และกลับไปถามยามว่ากล้องวงจรทางออกใช้ได้ดีไหม 

       สถานการณ์ที่สอง  ขณะที่ฉันนั่งรอสินค้า  ฉันถอดรองเท้าซึ่งเป็นแตะแบบคีบ แต่มีสุภาพสตรีนั่งถัดฉันอีก ๒ คน  เราทักทายและยิ้มให้กันแล้วว่าบ้านอยู่ที่ไหน มาทำอะไร  แต่สองคนลุกขึ้นก่อนฉันและเดินจากไป ส่วนฉันนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ  บังเอิญมองไปอีกด้านยังเห็นผู้หญิงสองคนนั้นยืนอยู่ไม่ไกลนัก  ฉันถึงกับร้องอุทานอยู่ในใจ  "ว๊ายแม่เจ้าประคุณนั่นมันรองเท้าของฉันข้างหนึ่ง  คุณคีบรองเท้าข้างซ้ายของฉันไปทำไม" ฉันจึงเดินตามไป "สามคนจึงหัวเราะงอหงายกันอยู่ตรงนั้น  เพราะเธอก็ไม่ทราบว่าคีบรองเท้าผิด"

        สถานการณ์ที่สาม  เรื่องไฟสัญญาณจราจรเสียหลายแห่งมากที่พบในเมืองพิษณุโลก นานเป็นแรมเดือนแรมปีก็ยังไม่จัดการซ่อมแซมเสียที  วันนี้ผ่านไฟสัญญาณเสียสองแห่งคือสี่แยกนเรศวร  ขากลับสี่แยกบ้านแขก "ผู้ใช้รถต้องใช้ความสามารถวัดใจ"  ข้อปฏิบัติตามวินัยจราจรคือ "ให้รถด้านขวาทางเอกไปก่อนเสมอ" ฉันอยู่ทางเอกแต่จะเลี้ยวขวา  แต่คันซ้ายมาแซงตัดหน้า ฉันต้องหักหลบ และมองรถว่ามีรถด้านหลังตามมามากไหม เมื่อไม่มีจึงชลอหยุดดูจังหวะ ในใจก็คิดว่า "เก็บคุณธรรมใส่ลิ้นชักก่อนดีไหม"  เพราะต่างคนต่างจ้องไปกันทุกคัน  ไม่มีการเคารพกฏเกณฑ์หรือแบ่งปันน้ำใจให้กันเลย

       สถานการณ์ที่สี่หน้าห้างโลตัส  เป็นการจราจรที่วุ่นวายมากทุกวัน  เพราะมีที่กลับรถ ๒ แห่งห่างกันประมาณ  ๒๐๐  เมตร  ฉันมาถึงเป็นไฟสัญญาณเขียวพอดี  กำลังเหยียบเร่งให้ทางคันหลังพอดี  จราจรโผล่มาชี้ที่เลขทะเบียนของฉันเหมือนทำท่าให้จอด  ความคิดเกิดขึ้นในใจอีกละ "เอาแล้วเราผิดอะไรหว่า"  แล้วก็เห็นทำมือให้ไปได้  แต่ไปโบกให้คันหลังจอด "ที่แท้ก็ติดรถนำขบวน"

       สถานการณ์ที่ห้าที่สี่แยกอินโดจีน  เมื่อรถนำขบวนผ่านไปและรถของฉันยังติดไฟแดง  ฉันเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ๒ นายยืนปฏิบัติหน้าที่กลางแดดที่ร้อนอบอ้าว  ชุดเครื่องแบบบีบรัดทั้งเสื้อ กางเกง ถุงเท้ารองเท้า  (ทำให้นึกถึงสิ่งตรงข้ามที่บางกลุ่มนั่งทำงานในห้องแอร์ ดื่มไวน์ขวดละเป็นแสน ขับรถยุโรปราคาแพง  สร้างบ้านราคาหลายร้อยล้าน ) อยากจะให้คนรัก ลูกเมียของตำรวจเหล่านี้เป็นลูกและภรรยาที่น่ารักคอยเป็นกำลังใจสามี ฉันขอเป็นส่วนหนึ่งในกำลังใจให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่

       และอยากจะให้คนไทยทุกคนรัก สามัคคี  เคารพต่อกฏหมายบ้านเมือง ไม่ควรทำเรื่องเดือดร้อนหรือยุ่งยากใจ  เป็นการเพิ่มภาระหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่โดยไม่เกิดประโยชน์

        กว่าจะถึงบ้านต้องหักหลบมอเตอร์ไซค์ที่ล่วงเกินเส้นทางรถยนต์อีก  สถานการณ์ประจำวันเจ้าเอย  "ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์  และยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด"  เพื่อให้ดำรงตนสู่การเรียนรู้ว่า "ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ และยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม"

หมายเลขบันทึก: 426564เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2011 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

พี่คิมที่รัก....

อ่านหนังสือพี่เพิ่มไปได้อีกหลายตอนแล้วค่ะ แต่...ก็ยังไม่จบ  เพราะอ่านวันละน้อย...จะได้อ่านให้...นานๆ

พอมาเจอบันทึกนี้ก็อ่านแบบมีความสุขเพราะคนเขียนให้อ่านไม่ซีเรียสอยู่แล้ว จริงไหมคะท่านพี่...

@@@ยากเหลือแสนกว่าจะเกิดเป็นมนุษย์

ยากที่สุดกว่าเติบใหญ่ใช้ชีวิต

ยากยิ่งกว่าพระพุทธองค์อุบัติติด

ยากต้องคิดถึงสัจธรรมนำผลบุญ@@@

 

ขอบคุณค่ะ..ไม่เพียงแต่ยากที่เกิดเป็นมนุษย์..เกิดแล้วยังยากในการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขที่ยั่งยืน..เพราะทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ เป็นอนัตตา..

..เวลาที่เหลืออยู่ก็เหลือน้อยแล้ว..เร่งฝึกปฏิบัติ ทาน ศีล สมาธิ เพื่อเพิ่มพูนปัญญาญาณแห่งการดับทุกข์ตามวิถีพุทธกันเถิดนะคะ..

สวัสดีค่ะ พี่คิม

    บันทึกเรื่อวราวชวนติดตามอ่าน คนเขียนเล่าได้สนุกค่ะ ถูกใจๆๆๆ และให้ข้อคิดดีๆ "ยากเหลือแสนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์  และยากเหลือแสนกว่าจะเอาชีวิตรอด"  เพื่อให้ดำรงตนสู่การเรียนรู้ว่า "ยากเหลือแสนกว่าพระพุทธองค์จะเสด็จอุบัติ และยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจธรรม"

ขอบคุณค่ะ

 

  • สวัสดีค่ะ  พี่ครูคิม
  • มีแถมค่ะ  อันนี้กิ่งไผ่ตั้งเองเลย  ว่า " ยากเหลือแสนที่จะใช้ชีวิตที่รอดมาได้ให้หลุดจากความชั่ว(สิ่งยั่วยุ)ทั้งปวง"
  • คิดถึงพี่ครูคิมเสมอนะคะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

  • ยากเหลือแสนจริง ๆ ค่ะ
  • ในชีวิตของครูอิง ทุกสิ่งทุกอย่างกว่าจะได้มาช่าง "ยากเหลือแสน" จริง ๆ ค่ะ
  • "ยากเหลือแสนกว่าจะได้ฟังสัจจธรรม"  ได้ฟังแล้ว ก็ยังยากเหลือแสนที่จะปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริง
  • ขอบพระคุณค่ะพี่คิม  พี่คิมเป็นนักเขียนมืออาชีพจริง ๆ นะคะเนี่ย
  • เขียนบันทึกอะไร ก็ดูดี น่าอ่าน ทั้งนั้นเลยค่ะ
  • เห็นว่ากุหลาบสวยดี นำมาฝากค่ะ
  • Wallpaper : earth

ที่แรกไม่ค่อยจะเชื่อว่า

เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก

แต่ว่าเมื่อใคร่ครวญโดยละเอียดแล้ว

เห็นด้วยตามคำพระสอนครับ

โยมพี่คิม

มาอ่านและให้กำลังใจจ๊ะ ชอบความคิดของโยมพี่มาก เพราะเป็นเขียนที่เกิดจากการตกผลึกทางความคิด และประสบการณ์ที่ยาวนาน และหลากหลาย จนกลายเป็นขุมทรัพย์ทางปัญญา (Knowledge Asset) นับเป็น "อริยทรัพย์" อย่างแท้จริง

ดูแลสุขภาพตัวเองบ้างน่ะ โยมพี่คิม  พวกเราเป็นห่วงน่ะ

  • การจะได้เกิดเป็นมนุษย์ช่างยากเหลือแสน
  • และการดำรงชีพในสังคมที่ต่างคนต่างเอาตัวเองเป็นใหญ่
  • ยากยิ่งกว่าหลายเท่ายิ่งนัก...แต่ก็ยังดีที่ได้เกิดเป็นคน
  • ได้มีโอกาสทำบุญ ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
  • ขอบพระคุณค่ะพี่คิมสำหรับเรื่องเล่าดีๆเช่นนี้..
  • สถานการณ์ต่างๆ ล้วนทำให้เกิดความเครียด คงต้องยิ้มให้กับตัวเองที่เก่งและประคับประคองผ่านมาได้ เรียกว่ายิ้มละลายเครียดครับ ยิ้มแล้วผ่อนคลายมากมาย ใครจะว่ายังไงก็แล้วแต่
  • ทุกวันนี้สังคมแข่งขัน รีบร้อน รวดเร็ว อาจต้องผ่อนตัวเองลง โดยเฉพาะเรื่องขับรถ ใครจะรีบไปไหนก็ไป แต่ผมไม่รีบด้วย เพราะถ้ามีเรื่องมาเสียเวลาและไม่คุ้ม
  • มีความสุขแบบพอเพียง และแบ่งปันครับ 

ฝากดอกแก้วให้กำลังใจนะคะ

สวัสดีค่ะkrugui Chutima

กว่าจะกลับถึงบ้านได้...จอดรถเปิดประตูบ้านก็อดขำกับเหตุการณ์ไม่ได้ค่ะ  โดยเฉพาะเรื่องเด็กหนุ่ม ๒ คนและเรื่องรองเท้าค่ะ

วันนี้อากาศเย็นสบาย  พี่คิมตื่นไปออกกำลังกายแต่เช้ามืดค่ะ  ตอนนี้มีลมพัดเย็นดีจังค่ะ 

การอ่านหนังสือธรรมะก็ต้องอ่านช้า ๆ ถูกแล้วค่ะ  เพราะเราต้องคิดไปด้วยนี่คะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะน้องรัก

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

ตอนนี้มีโอกาสได้ฝึกอยู่ที่บ้าน  ฝึกตลอดเวลาที่จะลุก นั่งหรือเดินค่ะ  บางคราวก็นั่งสมาธิกลางวันก่อนนอนตอนบ่ายที่บ้าน  เพราะที่บ้านเงียบ  ห้องกว้าง เดินจงกรมได้ค่ะ

ออกกำลังกาย  หากไม่ไปขี่จักรยานก็ออกกำลังกายที่บ้านค่ะ แต่วันนี้ไปขี่จักรยานและมาเพิ่มที่บ้านอีกนิดหน่อย

เมื่อเรามีสมาธิ สติส่งผลให้เรามีศีลมากขึ้นนะคะ  เดิมนั้นเห็นมดมักจะบี้แต่เดี๋ยวนี้สติเตือนสำนึกตลอดเวลาว่า...ชีวิตนะคะ

ขอขอบพระคุณพี่ใหญ่ค่ะ

สวัสดีค่ะkruposong

ธรรมชาติและสิ่งรอบข้างคือบทเรียนที่มีคุณค่ามากค่ะน้อง  พี่คิมว่าหากเรามองทุกอย่าง  เราจะเห็นว่าทุกอย่างมีคุณค่าทั้งนั้นนะคะ

แทนที่เราจะฆ่าเวลาแต่เปลี่ยนให้มาเป็นค่าเวลา โลกนี้จะรื่นรมย์ค่ะ

การที่เราได้มาคยกันในนี้  เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก  ทำให้เราได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่เป็นประโยชน์ต่อกัน 

การออกจากบ้านมันมีแต่ความวุ่นวาย แต่ในความวุ่นวายทำให้เราได้รู้จักความหมายของชีวิตอีกมิติหนึ่งนะคะ

สวัสดีค่ะกิ่งไผ่ใบหลิว

น้องกลับมาแล้วหรือคะ  สบายดีไหม  ดีใจค่ะที่กลับมาทักทายและหวังว่าจะได้บันทึกกลอนไพเราะของน้องอีกนะคะ

สิ่งยั่วยุ...ทางใจมากเลยค่ะ ขับรถปาดหน้า  บีบแตรไล่  เสื้อผ้าสวยงาม สิ่งของสวย ๆ ชวนมอง  พี่คิมทำได้บ้างแล้วในการเฉย ๆ ค่ะ  ไม่ทราบว่าสติจะแตกอีกตอนไหน ฮา ๆ ๆ ๆ

ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะอิงจันทร์

มาแจกคำชมกันแต่...มืด ๆ ดึก ๆ กันเลยหรือคะ

พี่คิมเขีนเพราะอยากเขียน และเขียนตามที่คิดค่ะ  เพียงแต่พยายามที่จะสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย

ยากเหลือแสน...กลับมาถึงบ้านก็อดขำกับตัวเองค่ะ 

พ่อแม่พี่คิมก็เคยสอนไว้ว่า "ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะได้มาอย่างง่ายดาย  ทุกสิ่งเป็นเรื่องยาก แต่ให้พยายามทำเรื่องยากมาเป็นเรื่องง่าย และทำอย่างถูกต้อง"

ตอนเป็นเด็กก็ฟัง ๆ ๆ ๆ ปฏิบัติตามได้ก็ทำ หากปฏิบัติไม่ได้ก็ไม่ฝ่าฝืน แล้วเมือเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจึงนึกถึงคำสอนเหล่านั้นค่ะ

ขอขอบคุณกุหลาบแสนสวยค่ะ

ขอบคุณน่ะค่ะพี่คิมสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ชอบค่ะ...

สวัสดีค่ะอาจารย์โสภณ เปียสนิท

เหมือนพี่คิมค่ะ ฟังอะไรครั้งแรกมักจะไม่เชื่อ  แต่ไม่ต่อต้านหรือขัดแย้งนะคะ  ตอนหลังจะค้นพบเองว่าจริง ๆ

เพราะเป็นมนุษย์นะคะ  หากเราอ่านความหมายของมนุษย์ก็จะได้เข้าใจว่ามันยาก  ทุกวันก็พยายามอย่างยิ่งที่จะเป็นมนุษย์ทั้งตัวและหัวใจค่ะ

การค้นหาตัวเองก็เป็นเรื่องของมนุษย์  จริง ๆ ด้วยค่ะ

  • สวัสดีครับ ครูคิม
  • เมื่อคืนก็ได้อ่าน "ก้าวย่างบนทางฝัน" หลายตอนครับ
  • ยังมีนักเรียนอีกมาย ที่เป็นคนน่ารัก ช่วยเหลือครูด้วยความจริงใจ
  • และผมมีความสุขมากเมื่อได้มีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนที่เรียนจบไปแล้ว
  • เขาได้พูด เล่า ประสบการณ์ ให้ฟัง ว่าที่ผ่านมาได้อะไร แล้วทำให้เขานำไปใช้เมื่อต้องไปศึกษาในระดับที่สูงขึ้น
  • วันนี้เหมือนกัน ได้คุยกับศิษย์เก่า ร.ร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ เขาพูดหลายคำที่ทำให้เราประทับใจ เช่น

       "อาจารย์สอนให้ทำงานเรียบร้อย"

       "เสียดายที่รุ่นน้องไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์กับอาจารย์"

      มีความสุขจริงๆ กับการเป็นครู ถ้ามีโอกาสต้องขอสมัครเป็นศิษย์ครูคิมด้วยนะครับ

  • ขอบคุณครับครูคิม มีความสุข สุขภาพแข็งแรงครับผม

นมัสการพระคุณเจ้าธรรมหรรษา

กราบขอบพระคุณ  ในความปรารถนาดีเจ้าค่ะ

การอ่านธรรมะหรือคำสอนต่าง ๆ หลายครั้งจะอยู่ในความจดจำ  หากเมื่อเกิดสถานการณ์จะถูกนำออกมาใช้เจ้าค่ะ

เรื่องนี้อ่านตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  คิดไปเพียงแต่ว่า เกิดมาเป็นคน พัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ทั้งร่างกายและจิตใจ  มันยากจริง ๆ

เมื่อมาเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ทำให้เข้าใจความหมายจากที่อ่านมากขึ้นอีก พี่คิมเข้าใจแล้วว่าหากมันเป็นเรื่องง่าย โลกนี้ก็คงมีแต่ความรืนรมย์เจ้าค่ะ

 

สวัสดีค่ะน้องครูแป๋ม

ขอขบคุณค่ะน้องรัก  คนเราเกิดมาแล้วมีความจำเป็นที่จะต้องทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวมและความสุขของคนรอบข้างจึงจะสมกับเป็นมนุษย์

พี่คิมได้เรียนรู้กับวัน เวลา และสถานการณ์รอบข้าง  ทำให้คิดได้สอดคล้องกับเรื่องที่อ่าน 

หากไม่มีสถานการณ์เช่นนี้ อ่านมาก็คงจะไม่มีความหมายค่ะ

สวัสดีค่ะชำนาญ เขื่อนแก้ว

จริงค่ะ  พอหลุดจากที่คับขันจอแจ  ก็ยิ้มให้กับตัวเองทุกครั้งว่า เรารอดแล้ว ฮา ๆ ๆ   การขับรถพี่คิมเคยขับรถเร็วมาก  ภายหลังมีคนเตือนบ่อย ๆ เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง 

เมื่อมาศึกษาและเรียนรู้ธรรมะ จิตใจก็เยือกเย็นลง  เห็นได้จากมีผู้มาบอกว่าขับรถช้าลงแล้ว

ที่พิษณุโลก  การจราจรยอดแย่อยู่แล้ว  แต่ไฟสัญญาณยังมาเสียอีก  แย่ไปใหญ่ เมื่อรถไปติดตรงนั้นก็เกิดแย่งทางกันอีก "รถล้นถนน" ค่ะ

ดีแล้วที่น้องขับรถช้า  ขอเป็นกำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะ✿อุ้มบุญ✿

ขอขอบคุณค่ะ ดอกแก้วมีกลิ่นหอมชื่นใจค่ะ

สวัสดีค่ะหนูรี

ประสบการณ์และเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาหรือเราประสบด้วยตนเองพี่คิมว่ามันเป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามากมายค่ะ

เมื่อได้พบสถานการณ์  จึงนึกถึงพระธรรมคำสอนที่เคยอ่านมาค่ะ ไม่เช่นนั้นก็อาจหลงลืมไป

นี่แหละค่ะสัจธรรมของคำพระธรรม มีธรรมชาติเป็นบทเรียนรู้

ขอขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน

สวัสดีค่ะนาย ฐานิศวร์ ผลเจริญ

ดีใจจังค่ะ และมีความสุขมากที่น้องได้บอกความรู้สึกของการเป็นครู  มีอะไรให้รับใช้ก็ยินดีค่ะ 

เรื่องสำคัญกว่าจะมาเป็นเล่ม ๆ ได้จาการจดบันทึกค่ะน้อง  บันทึกพฤติกรรมของเด็กทุกชั่วโมง

หากเป็นกรณีพิเศษก็อาจได้บันทึกยืดยาวหน่อย  ลองทำดูนะคะ  และขอเป็นกำลังใจค่ะ สู้ ๆ ๆ ๆ พี่คิมเชื่อว่า "ครูดีมีอยู่ทั่วประเทศไทย"ค่ะ

สวัสดีค่ะIco48

  • ธรรมชาติสร้างมนุษย์และให้ปัญญามาเป็นอาวุธ ใครประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ได้ดีถือเป็นกำไรชีวิต และที่แน่ๆเชื่อว่า เราทุกคนสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ค่ะ
  • ตอนนี้กำลังหลงใหลกับตัวหนังสือที่โหลดไป อ่านวันนิด กลัวหมด
  • ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้ ช่วยสร้างพลังในการทำงานได้ดีเยี่ยม
  • อย่างน้อยก็อยากเจริญรอยตามในทางที่พอทำได้
  • ขอให้มีความสุขในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆตลอดไปค่ะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

       เรื่องราวชีวิตของคนเราในแต่ละวันนั้นสามารถเป็น อุทาหรณ์ ให้กับอีกหลายๆคนได้เป็นอย่างดีนะคะ..บางทีก็นึกอยากเก็บคุณธรรมเข้าไว้ในลิ้นชักเหมือนกันค่ะ...เจอกัน 18ก.พนี้นะคะ..คิดถึงค่ะ..จุ๊บๆๆ

สวัสดีครับพี่คิม

การเอาชีวิตรอดในแต่ละวันว่ายากแล้ว พี่คิมยังมีชีวิตรอดในแต่ละวัน ด้วยสายตาและมุมมองที่น่านับถือ และมีมุม มีมุขที่น่านับถือ น่าอ่านครับ

หมอสุข

สวัสดีค่ะkrupong

ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ  อย่าเอาอย่างพี่คิมเลย  แพ้ความดีความเก่งลาออกมาอยู่บ้าน เปิดหน้าจอออนไลน์ตลอดวัน

อ่านแล้วมีสะดุดตรงไหน โปรดแจ้งด้วยนะคะ  ยินดีรับข้อเสนอแนะเพื่อนำไปพัฒนาการสื่อสารด้านภาษาต่อไปค่ะ

ขอขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีต่อกันค่ะ

สวัสดีค่ะมาตายี

กลับมาหลายวันแล้ว  ยังไม่ได้ขึ้นบันทึกภาคบุรีรัมย์และร้อยเอ็ดเลยนะคะ  วันนี้แหละค่ะ จะเริ่มเสียหน่อย

ตอนแรกพี่คิมตั้งใจจองรีสอร์ทธารวังทองค่ะ มีธรรมชาติงดงาม มีน้ำตก อากาศเย็นสบาย 

 คุยกับหนานเกียรติแล้วว่าจะไปจัดค่ายฯ ที่โรงเรียนกระแตค่ะ

สวัสดีค่ะหมอสุข

ขอขอบคุณค่ะ

เป็นเพราะพี่คิมไม่มีงานประจำทำแล้วค่ะ จึงมีเวลาเรียนรู้ชีวิตและตัวเองมากขึ้น  มีเวลาอยู่หน้าจอตลอดเวลา

สถานการณ์ที่เราพบเห็นมีทั้งมืดและสว่าง หากเราไม่ได้เป็นคนมืด  ประสบการณ์สู่ความคิดก็ไม่บอดสำหรับเราค่ะ

สวัสดีค่ะป้าคิม

ดำมาบอกป้าว่า  ตอนนี้ที่หน้าโลตัสปิดช่องกลับรถแล้วค่ะ ต้องไปกลับหน้าโฮมโปร  ป้าคิมเห็นหรือยังคะ  ดีจังค่ะ  ป้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ น้อง ๆคิดถึงป้าค่ะ

  • อ่านแล้วเห็นภาพ "ภาพของสังคมไทยในปัจจุบัน" ครับ ขอบคุณครับ
  • ปณิธิ ภูศรีเทศ

สวัสดีค่ะครูวีณา

จริงค่ะ  เห็นแล้วว่าเขาปิดทางแล้ว  ดีนะคะ  พวกเราจะได้รับการสะดวกในการใช้ช่องทางตรงนั้นค่ะ คิดถึงเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะปณิธิ ภูศรีเทศ

บ้านเราการจราจรวุ่นวายน่าดูค่ะ  แถวกลับบ้านพี่คิมเลยจากสี่แยกอินโดจีนแล้ว มอเตอร์ไซค์อกมาแย่งทาง ขับยากมากค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท