การคิดสร้างสรรค์หรือกรรมวิธีใหม่ ๆ
ซึ่งต่างไปจากที่เคยปฏิบัติมาใช้แก้ปัญหาในการปฏิบัติงานต่าง ๆ
ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เราเรียกว่า "นวัตกรรม" คนเราจึงต้องมีนวัตกรรม คือ
ต้องรู้จักสร้างสรรค์ ต้องมีความพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า
เพื่อปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน
ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผลในบั้นปลายนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ครู - อาจารย์
จะต้องพยายามค้นคว้าหาวิธีการใหม่ ๆ คิดค้นขึ้นมาในรูปแบบต่าง ๆ
ซึ่งเรียกว่า "นวัตกรรมทางการศึกษา" ฉะนั้นคำว่า
"นวัตกรรมทางการศึกษา" จึงหมายถึง การนำสิ่งใหม่ ๆ
แนวความคิดวิธีการหรือการกระทำใหม่ ๆ ซึ่งได้ผ่านการทดลอง วิจัย
หรืออยู่ระหว่างการทดลอง
หรืออาจเคยเป็นสิ่งที่ใช้มาแล้วมาปรับปรุงใหม่มาใช้ในการศึกษาเพื่อปรับปรุง
หรือเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
ในการจัดการเรียนการสอน การนำนวัตกรรมการศึกษามาประยุกต์ใช้
จะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาตามความต้องการ
นวัตกรรมการเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย วิถีคิด ที่ออกนอกกรอบเดิม
พอสมควร คือ จะต้อง ออกนอก "ร่อง" หรือช่องทางเดิม ๆ ที่เคยชิน
เรียกได้ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด
หรือกระบวนทัศน์ที่มีอยู่เดิมเกี่ยวกับการเรียนรู้เสียใหม่
จากที่เคยเข้าใจว่าการเรียนรู้ คือ การศึกษาเพียงเพื่อให้ได้รู้นั้น
มาเป็นการเรียนรู้ที่นำมาใช้พัฒนางาน พัฒนาชีวิต สังคมประเทศชาติ
ซึ่งเป็นความรู้ที่แนบแน่นอยู่กับงาน เป็นความรู้ที่มีบริบท
การเรียนรู้ตามกระบวนทัศน์ใหม่นี้จึงมักเริ่มด้วยการตั้งโจทย์ขึ้นมาก่อน
โดยใช้ปัญหาหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
และให้หาแนวทางแก้ปัญหา หรือการพัฒนา
เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เกิดการเรียนรู้นี้ขึ้น
มีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
คิดเอง ทำเอง และแก้ปัญหาเองได้ โดยครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะ
คอยให้คำแนะนำในการเรียนรู้
ที่ถูกต้องเหมาะสมในการทำนวัตกรรมให้ประสบผลสำเร็จได้นั้น
ต้องเริ่มจากการให้คำมั่นร่วมกันระหว่างคนที่เกี่ยวข้องในการทำนวัตกรรม
โดยทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสินค้าและตราสินให้เกิดความมั่นคงร่วมกัน
การปรับประบวนทัศน์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้
แต่มิได้หมายความว่าเพียงปรับกระบวนทัศน์แล้วนวัตกรรมจะเกิดขึ้น
จำเป็นต้องมีปัจจัยและองค์ประกอบอื่น ๆ มาสนับสนุนอีก เช่น
1)เวลา 2) โอกาส 3) ไมตรี
องค์ประกอบแรก คือเรื่องง่าย
ๆ และตรงที่สุดคือถ้าไม่มีเวลา การเรียนก็ไม่เกิด
เพราะเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเรียนรู้ องค์ประกอบต่อไปคือโอกาส
หรือเวทีที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เช่น การประชุมสัมมนา
การอบรม หรือการรวมตัวกันก็ได้
และที่จำเป็นที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ไมตรี คือต้องมีน้ำใจให้แก่กัน
แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
นวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องอาศัยใจที่เปิดกว้าง
ว่างพอที่จะรับของใหม่ ๆ เป็นความรู้สึกตื่น ต้องการ แบ่งปัน
และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
สรุป
การสร้างสรรค์นวัตกรรมเกิดขึ้นได้ในตัวครูทุกคน
แต่ครูทุกคนเหล่านั้นจะต้องมีเวลา ให้โอกาสกับตัวเอง มีจิตไมตรีต่อกัน
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ถ้าในวงการทางการศึกษาไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า มีโอกาสกว่า
และผ่านมาแล้วในการทำผลงานทางวิชาการเปิดโอกาสให้รุ่นน้อง ๆ
ได้เข้าไปเรียนรู้ ด้วยการบอกกล่าว จัดอบรม ให้
แล้วคิดว่าการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของวงการศึกษาไทยคงจะเจริญก้าวหน้า
เพื่อพัฒนาเด็กไทยอย่างแน่นอน