วันนี้ (3 ส.ค.49) ผมไปขอตรวจสอบวันลา เพื่อขอลาพักร้อนสัก 4 วัน กับพี่อร งานบุคลากร สสจ.พัทลุง ด้วยน้ำใสใจจริง พี่อรทักทันทีว่าน้องเขาจะยกเลิก ว.16 แล้วนะ ทำ ว.ได้แล้ว หมายถึงการส่งผลงานทางวิชาการเพื่อขอเลื่อนระดับ เนื่องจากผมเป็นระดับ 5 มาอย่างมาราธอน และไม่คิดจะทำ ว. เพื่อขอเลื่อนระดับเลย เรียกว่าชนเพดานมาหลายปีแล้ว อันนี้ผมมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ขอกล่าวถึง พี่อรบอกว่าผลงานมีกี่เรื่องต่อกี่เรื่อง กลับไม่ทำส่งเสีย ผมก็ได้แต่นิ่ง ๆ
ในใจแล้วใช่ว่าผมจะเพิกเฉยต่อความก้าวหน้าตรงนี้ เพียงแต่ใจมันไม่อยากทำในลักษณะที่เป็นอยู่ ผมขอเรียกว่าผมไม่ประทับใจในมาตรฐานการพิจารณา โดยเฉพาะจากงานที่เคยผ่านตา ประมาณว่าลอกเขามาอย่างไร้จริยธรรม กลับผ่านการพิจารณาไปได้ ประมาณนั้น จับได้เห็นว่าใช้คำสั่งใน Ms-word เปลี่ยนจาก “พังงา” “พัทลุง” อำเภอตะกั่วป่า เลยกลายเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดพัทลุงไปเลย (ชื่อจังหวัดและสถานที่ สมมติขึ้น)
หากเป็นผมคงให้ยกเลิกแล้วทำเรื่องใหม่ ไม่ใช่การให้ไปเปลี่ยนให้ถูกต้อง รวมถึงมีประเด็นอื่น ๆ อีกหลาย ๆ ประเด็น ล้วนเป็นประเด็นจริยธรรมในการวิจัย เพราะประเด็นนี้แหละหากใครละเมิด ผมยากที่จะทำใจยอมรับได้
พี่อรหยิบเอกสารให้ผมดู และบอกแหล่งที่จะให้ไปดาวน์โหลด เป็นหนังสือเวียนของ กพ. ว.10/2548 ซึ่งทาง อกพ.กระทรวงสาธารณสุขให้เริ่มใช้วันที่ 1 ก.ย.49 นี้ แทน ว.16/2538 ซึ่งใช้มา 10 ปีแล้ว เป็นเรื่องการประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งสําหรับผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ (ตําแหน่งประเภททั่วไป) และตําแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ ตําแหน่งระดับ 8 ลงมา
สำหรับรายละเอียดหนังสือเวียนต่าง ๆ ของ กพ. ลองติดตามดูได้จากที่ link ไว้นะครับ ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงนำมาแบ่งปันกันไว้ครับ
มีความเห็นในประเด็นของพี่ "ชายขอบ" ดังนี้
Dr. Ka-Poom
อรุณสวัสดิ์คะ "คุณอำนวย"...
ยินดียิ่ง...เจอแนวร่วมอีกคนแล้ว...
หากเราหลายๆ คนลุกขึ้นมาทำ...อย่างจริงๆ...
ค่อยๆ..ทำไปในกลุ่มเล็กๆ...
แล้วขยายวง...ให้กว้างออกไป...
ดิฉันเชื่อว่า...สักวันการเปลี่ยนแปลงนั้น...อาจเกิดขึ้น
คุณ"อำนวย"...
ท่านเจ้าของบันทึกยังไม่ตื่นรับรุ่งอรุณเลยคะ...
แต่ไม่เป็นไรนะคะ...เราชักชวนคนอื่น...อื่น...
มาร่วมด้วยช่วยกัน..
ทำสิ่งที่ถูกต้องและพึงทำ...ทางปัญญา...
ไปก่อน..นะคะ...ก่อนที่คุณชายขอบจะมาร่วมผลัก..ดันกันไปอย่างเข้มแข็งต่อไป
มาขยี้ขี้ตา...อยู่หน้าจอ...คล้าย ๆ คนละมือเดินลงมา
ตื่นกันเร็วจัง กะจะมาเป็นคนแรกนะเนี่ย
ตกลงสองท่านข้างบนเมื่อคืนได้หลับได้นอนกันใหมคะ (หมายถึง ต่างคนต่างนอนนะคะ)
เด็กระดับ 5 ขอคุยบ้างนะ
ประมาณว่าชอบสนับสนุนให้ข้าราชการทำผลงานเพื่อปรับระดับ ปรับเพื่อความก้าวหน้าทั้งตนเองและส่วนรวม
คนขอลอก...ประเภทมักง่ายสุด ๆ แล้วยังเดินหน้าด้านมาขอลอกแบบไม่เกรงใจ
คนให้ลอก...ก็ให้ลอกแบบเลี่ยงเสียมิได้...ก็เพื่อนอุตส่าห์หน้าด้านมาขอ
คนตรวจ...ประเภทเคยมักง่ายจากการลอกผลงานเพื่อนมาก่อนแล้ว ก็ขอตรวจแบบมักง่ายจะเป็นไรไป
ก็เป็นวัฎจักรครบวงจรของความมักง่ายผลงานทางวิชาการ แล้วจะพัฒนาคน พัฒนาผลงาน พัฒนาระบบให้ดีเลิศได้อย่างไรกัน ก็คิดกันแค่ฉาบฉวย ฉกฉวย ผลงานของผู้อื่นมาดัดแปลง...วางเสนอ...แล้วก็ผ่านกระบวนการพิจารณา...ยิ้มหน้าระรื่นกับความมักง่ายของตนกันทั่วหน้า
คุณน้อง "อำนวย"
ดีใจมากครับ ที่พอตีพิมพ์ ก็มีคนสนับสนุนในแนวคิด สำหรับพี่แล้ว นอกจากสนับสนุนโดยการกระทำด้วยตน ในส่วนของตน คือปฏิเสธการได้มาอย่างไม่สง่างามนั้นเสีย และหากใครมาขอคำปรึกษาเพื่อทำ และคิดจะทำเอง พี่ช่วยถึงขั้นนัดเอง กระตุ้นเอง ไปหาเขาเองก็ได้เพื่อให้เขาทำเองจริง ๆ จนเสร็จ แต่สุดท้ายเขาก็ค่อย ๆ หมดกำลังใจเมื่อมาส่ง จำนวนคนที่คิดจะทำเองก็ลดลงเรื่อย ๆ ง่าย ๆ ด้วยการตัดสินใจ ลอกเขา ปรับนิด ๆ 3-4 วันก็เสร็จ และที่สำคัญผ่านง่าย ๆ ซะด้วย
แต่คนที่ทำเองจริง ๆ และตั้งใจ ผ่านการพิจารณาจริง ๆ ก็มีเยอะนะครับ น่าเสียดายอีกประการคือ เราไม่เคยเห็นผลงานเหล่านั้นปรากฎออกมาในสังคมเลยครับ ว.10/2548 เขาบังคับให้มีการนำเสนอด้วย ตรงนี้แหละที่ชอบกว่า ว.16/2538 เดิม
Dr.Ka-poom
ยินดีด้วยอีกท่านนะครับ ที่ยังคงรักษาสถานภาพของความเข้มข้นทางจริยธรรมเอาไว้ให้ ว.10/2548 น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่พี่อรเล่าว่า ยังใหม่ ๆ จะทำยากไหมก็ไม่ทราบ
ว.10/2548 ต่างจาก ว.16/2538 ตรงที่ ของใหม่นี้หน่วยงานจะประกาศว่าตำแหน่งใครถึงคุณสมบัติและให้มาทำ แทนของเดิมที่เจ้าตัวต้องรับรู้เอาเองและทำเอาเอง ส่วนกระบวนการอื่น ๆ ก็แตกต่างกันอีกในหลาย ๆ ส่วน เช่น ต้องเขียนรายงานอย่างย่อส่งให้คณะกรรมการอ่านก่อน เป็นต้น
อาจารย์น้อง Vij
ข้อที่ว่า "คนตรวจ" นี่แหละครับ ที่ทำให้ผม อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่าแล้วก็เหนื่อย
คิดว่านะ หากบังคับให้นำเสนอต่อสาธารณะด้วย จะป้องกันการลอกได้ดีทีเดียว อย่างน้อยก็รู้สึกว่ากลัวเขาจับได้ อาย ประมาณนั้น หรืออย่างน้อยก็มีคนหลาย ๆ คนที่ทักท้วงหากลอกกันมา ไม่ทราบเห็นด้วยหรือไม่อย่างไรครับ
อาจารย์พี่ขจิต
ทำไมเบื่อระบบราชการครับ ผมไม่เบื่อนะ แต่มีใจอยากพัฒนาครับ "การงานแทนในหลวงเพื่อประชาชนของพระองค์"
เห็นด้วยกับแนวคิดคุณ "พี่ชายขอบ" ค่ะ
ทำให้นึกถึงการสอบป้องกันการเสนอดุษฎีนิพนธ์ของนักศึกษา เพราะนอกจากจะมีคณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานั้น ๆ แล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สนใจมีส่วนร่วมในการรับฟัง ร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมเป็นสักขีพยานในการตัดสิน เป็นวิธีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ช่วยให้นักศึกษามีจริยธรรมทางวิชาการได้มากขึ้น ป้องกันการคัดลอก และได้ดุฎีนิพนธ์ที่มีคุณภาพ จบออกมาก็ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ดร.ตัดแปะ"
อาจารย์พี่ Handy
ตามไปอ่านแล้วนะครับ ตอนนี้ถามใจตนเองว่า วิธีการใหม่ที่จะปรับเปลี่ยนนี้ จะสู้หรือเฉย ๆ อีกทีต่อไปครับ