จากวันเด็กถึงวันครู สิ่งที่ทุกคนคิดน่าจะคล้ายๆกันคือ นึกถึงเด็กนึกถึงครู แต่มันจะส่งผลให้เด็กและครูดีขึ้น พัฒนาขึ้น
มันคงจะไม่มีผลมากนัก ในฐานะที่เป็นครู ดิฉันก็มีความในใจ ที่คิดมาโดยตลอด ว่าตัวเรานั้นเป็นครูได้ดีขนาดไหน ครูจะต้องทำอย่างไรคำถามเหล่านี้ มันมีคำตอบ จากอดีตเมื่อเราเป็นเด็กตอนเป็นนักเรียนมาร่วมคิด และวิเคราะห์ในสมัยดิฉันเป็นเด็ก มันต่างจากสมัยนี้โดยสิ้นเชิงไม่ว่าความเป็นอยู่วิถีชีวิต ครอบครัว ฯลฯ นักเรียนสมัยก่อนกว่าจะไปโรงเรียนได้ ต้องช่วยงานพ่อแม่ซึ่งงานก็สารพัด ตั้งแต่หุงข้าวหุงปลา ดูแลน้อง หาเสื้อผ้าเองกินข้าวเอง ถึงเวลาไปโรงเรียน ก็ไปเอง เงินก็ได้บ้างไม่ได้บ้างอาศัยนำข้าวห่อไป ถึงโรงเรียนก็ต้องมีกฎระเบียบที่นักเรียนทุกคนต้องทำนักเรียนสมัยนั้นส่วนมากไม่ค่อยมีใครละเมิดกฎ ด้วยเหตุว่าผู้รักษากฎคือครู กวดขันเอาจริงเอาจัง การจัดการศึกษาในอดีตดูสอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงๆของเราเช่นการปิดเทอมก็จะตรงกับช่วงฤดูการทำนา และเกี่ยวข้าว นักเรียนสามารถช่วยงานพ่อแม่ได้ ซึ่งเด็กๆสมัยนั้นก็ช่วยพ่อแม่จริงๆจิตสำนึกของเด็กสมัยก่อนต่างจากจิตสำนึกของเด็กสมัยนี้มากความเป็นห่วง ความรักที่มีต่อพ่อแม่ นั้น แสดงออกโดยการปฏิบัติไม่ใช่พูดแต่ปากว่ารักพ่อแม่ แต่ไม่เคยช่วยอะไรพ่อแม่อย่างเด็กสมัยนี้ ช่วยอย่างเดียวที่เห็นชัดเจนคือ ช่วยใช้เงิน...
มาถึงครูสมัยก่อนต้องบอกว่าครูคือครูจริงๆขนาดดิฉันเป็นครูยอมรับเลยว่าครูในอดีต หรือครูของเรานั้น
เป็นครูด้วยร่างกาย และหัวใจ แววตาความรักของครูที่มีต่อเราเป็นแววตาที่เป็นห่วงเป็นใย ดุเราพอๆกับพ่อแม่เรา ตีเรา
สั่งสอนเราดูแล้วครูสมัยนั้นไม่ได้สอนวิชาการอย่างเดียว แต่ท่านได้สอนวิชาชีวิตไปด้วยพวกเราทุกคนจึงสามารถเอาตัวนอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
เด็กสมัยนี้เป็นอย่างไรดิฉันคงไม่ต้องกล่าวถึงเพราะทุกท่านต่างทราบกันดี แต่จะของกล่าวในฐานะครูที่คาดหวังต่อศิษย์
เอากันจริงๆก็อย่างที่หลายคนได้วิพากษ์ไปแล้วว่าระบบการศึกษาเป็นตัวปัญหาอย่างหนึ่ง หลายท่านว่าเป็นปัญหาใหญ่ด้วยซ้ำไประบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามยุคสมัยทางการเมือง มาจนถึงการสอนสมัยนี้ครูจะให้เด็กตกไม่ได้ หากเด็กตกมันหมายถึงคุณภาพครูครูไม่มีประสิทธิภาพ การประเมินต่างๆมีปัญหาครูสมัยนี้จึงต้องส่งศิษย์ขึ้นฝั่งแบบจำใจบ้างก็ปล่อยให้ลูกศิษย์ไปตายเอาดาบหน้า ดิฉันคิดว่าครูทุกคนก็ทราบดีหลายๆครั้ง ครูเฝ้ามองลูกศิษย์ด้วยความสงสาร แต่ทำอย่างไรได้ ??ถ้าให้เด็กติดตัวครู อนาคตครูก็มีปัญหาอีกมันเป็นสภาพที่แย่มากๆในความเป็นครู
หันกลับไปดูเด็กสมัยนี้ ก็น่าเป็นห่วง ดูเหมือนว่าเด็กสมัยนี้ไม่กลัว ไม่เคารพไม่เกรงครู แน่นอนส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของครูเองที่ปฏิบัติตนไม่เป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ ขาดจิตสำนึกของความเป็นครู อาจจะมาจากสาเหตุร้อยแปด แต่หากเป็นครูโดยวิญญาณก็ไม่สามารถจะอ้างเหตุผลใดๆได้อีกส่วนหนึ่งมาจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ไม่มีเวลาดูแลอบรมบ่มนิสัยลูก
อย่างพ่อแม่ในอดีต ก็อาจจะอ้างถึงความจำเป็นในค่าครองชีพซึ่งก็ต้องยอมรับว่า สังคมปัจจุบันเป็นสังคมบริโภคนิยม ทุนนิยมสิ่งเหล่าทำให้พ่อแม่ต้องทำงานมากขึ้นเพื่อสนองต่อความต้องการขั้นพื้นฐานอันมากกว่าอดีตที่ผ่านมา เมื่อความต้องการมากขึ้น ก็ต้องหาเงินมากขึ้นเพราะเงินคือคำตอบเริ่มต้น และคำตอบสุดท้ายของมัน สุดท้ายจึงไม่มีเวลาให้กับลูกแม้แต่จะกล่อมลูกนอนอย่าว่าแต่การอบรมสั่งสอนเลยหน้าที่การอบรมจึงตกอยู่กับสื่อ โดยเฉพาะโทรทัศน์ คุณภาพโทรทัศน์บ้านเราคงไม่ต้องบอกมันสามารถทำให้ลูกๆสมัยนี้เถียงกับพ่อแม่ ชนิดที่เรียกว่าไม่ตกฟาก ที่น่ากลัวไปกว่านี้คือสื่ออินเทอร์เน็ตที่ฉุดกระชากลากเยาวชนสมัยนี้ให้ลุ่มหลง มัวเมา แบบขาดสติ แม้แต่บางครั้งคนมีวุฒิภาวะอย่างพวกเรา ยังไม่วายโดนลากไปด้วย
ครูสมัยนี้ไม่สามารถบังคับใช้กฎได้เลยเครื่องไม้เครื่องมือก็ไม่มี ครูถูกหักไม้เรียว เสมือนกับถูกหักเครื่องมือปรามศิษย์ ครูทุกคนที่ถือไม้เรียวคงไม่มีใครที่คิดจะใช้ไม้เรียวเพื่อเป็นอาวุธประหัตประหารศิษย์ ไม้เรียวเป็นแค่เครื่องมือเท่านั้นอาจจะมีบ้างที่ครูบางคนใช้ไม้เรียวด้วยกับการบันดาลโทสะ แต่นั้นเป็นการใช้เครื่องมือของครูที่มีแต่เรือนร่าง หามีวิญญาณไม่และคงจะนำมาสรุปว่าการใช้ไม้เรียวผิดประการเดียวไม่ได้
เมื่อเป็นอย่างนี้คงต้องอาศัยวิญญาณครูล้วนๆแล้วละ ว่าจะนำพาศิษย์ไปในทิศทางใด จะถึงฝั่งหรือไม่ การนำวิชาการเพียงอย่างเดียวแบบที่ผ่านมาคงไม่ได้แน่เราคงได้พิสูจน์มาแล้วว่า คนเก่งบางครั้งก็สร้างปัญหา จึงต้องมีการรื้อฟื้นในเรื่องคุณธรรมกันขนานใหญ่ จนมีคำว่าคุณธรรมนำความรู้ เข้าสู่หลักสูตรการศึกษา ในด้านการดำเนินชีวิต ก็นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กันอย่างจริงจัง หวังว่าจะดึงเด็กจากการขาดคุณธรรม ขาดจิตสำนึก ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย มาสู่การมีจิตสาธารณะ ประหยัดมัธยัสถ์ จนคำขวัญวันเด็กในปีนี้ต้องมีประโยคเหล่านี้ด้วย
ครูในดวงใจก็เช่นกัน ดูเผินๆน่าจะดี แต่มองลึกๆน่ากลัวมาก ถ้าหากครูจะเป็นครูในดวงใจของลูกศิษย์ได้จะต้องทำ
อย่างไร ครูส่วนใหญ่คงมีคำตอบคล้ายๆกัน ...อย่าไปเข้มงวดมันมากนัก เอาใจมันหน่อย ตามใจมันเถอะ ฯลฯ อย่างนี้ครูในดวงใจคงอยู่ไม่ไกลแต่มันจะเข้าตำราพ่อแม่ทำร้ายลูก อันนี้ก็ครูทำร้ายศิษย์ ในส่วนของดิฉันคงไม่ต้องการครูในดวงใจที่จะต้องตามใจศิษย์ไปทุกเรื่อง
ดิฉันได้อ่านบันทึกของหลายๆท่าน ยกตัวอย่างบันทึกของครูคิม....ทีสะท้อนกริยามรรยาทของเด็กๆนั้น
ในฐานะครู รู้แล้วว่า หน้าที่พ่อแม่ที่สองจะต้องเข้มมากกว่าเดิม ในเมื่อพ่อแม่ที่หนึ่งบอกว่า ฉันมีภาระกิจมากจนไม่สามารถอบรมดูแลได้ดิฉันหวั่นใจว่าหาก ครูในฐานะพี่แม่ที่สองไม่สนใจอีก พ่อแม่ที่สามคือสื่อและสังคม จะทำหน้าที่ทันที เพราะทุกวันนี้พ่อแม่ที่สามก็ทำหน้าที่ อย่างได้ผลท่านลองดูซิค่ะ พ่อแม่ที่สามเปิดที่ไร ก็มีอิจฉา ริษยา ด่า ทะเลาะ แย่งผู้หญิง แย่งผู้ชาย เถียงพ่อ ทะเลาะแม่ ฯลฯ ล้วนแล้ว ได้ผล เด็กๆพร้อมที่จะเชื่อและทำตามพ่อแม่ที่สามอย่างผู้สวามิภักดิ์
ดิฉันจึงมองย้อนกลับไปที่คุณครูของดิฉันในอดีต ดึงภาพนั้นกลับมาแล้วมองให้ชัดๆ ...ภาพที่เห็นคือไม้เรียว เอาละตัดไม้เรียวไปก็ได้ ภาพต่อมาคือคุณครูดูแลดิฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า พร่ำสอน อบรม ตักเตือน ย้ำสิ่งเหล่านี้ จนเด็กๆสมัยนั้นน่าจะเรียกว่าเบื่อแล้วเบื่ออีกแต่คุณครูก็ไม่เบื่อหน่ายที่จะพร่ำสอน ตักเตือน จนดิฉันและคนรุ่นพวกเราได้ดิบได้ดี ในทุกวันนี้
สำนึกนี้คนรุ่นพวกเราน่าจะรู้ว่าคำสอนเหล่านั้นมันมีค่า ก็ช่วงที่จะจบออกมา เราคงจำภาพคุณครูที่ดุเราที่สุด แต่ร้องไห้เมื่อเราจะจบและลาจากกัน.... แต่เมื่อเราเป็นครูจึงรู้ได้อย่างชัดเจนว่า คุณครูของเราที่พร่ำสอน ว่า กล่าว ตักเตือน คุณครูไม่ต้องการครูดีเด่น ไม่ต้องการเอาใจพวกเรา แต่พยายามพิมพ์พวกเราให้ออกมาให้ดีที่สุด แม้ว่ากว่าจะนำเราเข้าพิมพ์ได้นั้นยากยิ่งนัก
ดิฉันจึงตั้งเจตนาแล้วว่า ดิฉันจะต้องนำเอาแบบอย่างคุณครูของดิฉันในอดีตมาใช้ ดิฉันจะไม่ตามใจเด็กของดิฉันจนเกินไป จะไม่ให้วิชาการเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว ก่อนจะสอนดิฉันจะต้องอบรม วิชาชีวิต ที่เด็กๆสอบตกมาโดยตลอด ยกตัวอย่างเช่น วิชาจิตสำนึก...ต่อไปนี้หากพฤติกรรมเด็กที่ดิฉันสอนไม่ดีขึ้นพวกเขาจะต้องทนฟังดิฉันบ่น อบรมสั่งสอน อย่างน้อยๆมั่นใจว่าเด็กๆน่าจะเกิดจิตสำนึก ตระหนักว่าเขาควรจะมีพฤติกรรมเช่นไร เมื่อออกสู่โลกที่กว้างขึ้น เขาต้องเป็นคนที่คิดเป็น รู้จักวิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้
ขอชื่นชมและให้กำลังใจในความเป็นครูที่ดีค่ะ..
ดอกเข็มที่หน้าบ้านนำมาบูชาครูทุกท่าน
มาดูความคิดเห็นของคนเป็นครู
ยังไง..ก็ต้องเป็นครู เพราะเราเป็นครู
ครู ป.1 สอนทุกอย่างให้ลูกศิษย์ทุกคน
แต่ศิษย์จะเก็บ จด จำ ได้แค่ไหน..ครูไม่ว่าค่ะ
มาชื่นชมและรับฟังความในใจของครูมีนาค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูครู ป.1
สอนทุกสิ่งที่ดีงามให้กับลูกศิษย์ทุกคน
แต่ศิษย์จะเก็บ จด จำ ได้แค่ไหน..ครูไม่ว่า
โชคดีมีความสุขค่ะคุณครู
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณยาย
ขอบคุณมากๆค่ะ
โชคดีมีความสุขค่ะ
I like your writing.
I love your teaching.
If my kids were younger I would gladly put them in the school where you teach.
สวัสดีค่ะ
สวัสดีวันครูค่ะครูมีนา
มีความสุขกับวันดีๆนะคะ
ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้ทำหน้าที่อันมีเกียรตินี้ด้วยเกียรติยศอย่างทรนง
ด้วยความยินดีค่ะ อ.ดาธิณี
สวัสดีค่ะ คุณ sr
thanks at visits and admire . . . . mind
lucky for you
ขอบคุณมากๆค่ะ คุณครูอิงจันทร์
สวัสดีค่ะท่านผอ. ประจักษ์ ปานอินทร์
ด้วยความเคารพระลึกถึงท่านเสมอค่ะ
ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
โชคดีมีความสุขค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณKRUDALA
โชคดีมีความสุขเช่นกันค่ะ
สวัสดีครับ พี่ Mena
เด็กจะดีเพราะมีครูครับ
ขอเป็นกำลังใจน้อยๆ แต่หนักแน่นให้กับครูดีอย่างพี่ครับ
ยินดีด้วยนะครับ
ที่ได้รับรางวัลครูดีในดวงใจ
จาก ครูโอภาส คนหลอ ฮิๆๆ อุ๊ยไม่ใช่ คนหล่อ ครับ
สวัสดีค่ะ คุณครูโอภาส
ขอขอบคุณทุกๆคนในครั้งนี้ค่ะ
มีความสุขและแสนจะภูมิใจที่สุดค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครู
สุขสันต์วันหยุดค่ะน้อง mena
ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณยาย
โชคดีมีความสุขค่ะ
อยากทราบว่าถ้าจะสมัครเข้าเรียน ม.1 ที่โรงเรียนร่องคำ จะต้องทำอย่างไรบ้างคะ? แล้วทางโรงเรียนเปิดรับสมัครวันไหนคะ? ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ
จาก.คุณแม่ไกลบ้าน ขอบคุณมากค่ะ
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ จากครูคนหนึ่งในลำปาง
สวัสดีค่ะ่ คุณครู คุณครูเป็นไงบ้างค่ะสบายดีหรือปล่าว หนูคิดถึงเสียงบ่นของคุณครูค่ะจังเลยแวะมาคอมเม้นให้ ค่ะ คุณครูสบายดีหรือปะคะปิดเทอมนี้คิดถึง พวกหนูปล่าว เรื่องทรง ผม ที่ซอย หนูไปจัดการมาแล้วค่ะ คิดถึงคุณครูเสมอ