จะผ่อนกุญแจไปทำไมให้เมื่อยตุ้ม


กรณีที่รถยนต์สูญหาย ผู้เช่ายอมชดใช้ค่ารถยนต์เป็นเงินเท่ากับค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือที่ผู้เช่าจะต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาเช่าซื้อทันที

ฮิ.ฮิ.......เจอะหัวข้อนี้เข้า...เลย...งง....ซิ

ผ่อนกุญแจนี้เกี่ยวกับวงการ....อุต...สา...หา....กรรม..การผลิตรถยนต์ป่าวนะ....(ภาษาที่ถูกคือ....เปล่านะ...ซิมิ..ซิมิ..)

ดูภาพให้สบายใจก่อนไม่ต้องคิดมาก

 

เอาหละไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวเยี่ยวเหลือง....ฮิ..ฮิ..

ที่บอกว่าผ่อนกุญแจนี้ผมหมายถึง การเช่าซื้อรถยนต์ ในระหว่างที่ยังผ่อนไม่หมด อยู่ๆรถยนต์คันที่เราเช่าซื้อมาถูกไอ้คอฅน (ไม่รู้จะเรียกอะไรดี) มาเอาไปใช้แบบไม่ยอมเอากุญแจไปด้วย และไม่มีโอกาสได้รถคืน  ผู้เช่าซื้อเลยสุดเจ็บ เพราะไม่ผ่อนกุญแจต่อก็จะถูก ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องร้องเอา หากจะผ่อนต่อก็มีแต่จ่ายตังค์แต่ไม่มีรถให้ขับ เออ.....แล้วจะทำไงดีหละ......ทั้งกลุ้มทั้งเจ็บ.....นี้คือข้อเท็จจริงโดยย่อ

แล้วใครช่วยได้หละครับ...หากเจอปัญหาเยี่ยงนี้

ทนายครับ....ช่วยท่านได้.....จะให้ช่วยก็ต้องจ่ายตังค์อีกแล้ว.....ฮา......

เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2541

ในช่วงเช้าเมื่อผมเข้าสำนักงานก็ได้พบกับ บุรุษ ผู้น่าสงสารท่านหนึ่ง ผมดูแล้วอายุก็น่าจะมากกว่าผมหลายปี แต่ยกมือไหว้ผมพร้อมกับเรียกผมว่าพี่ทนาย ผมเลยสะดุ้งรีบบอกว่าท่านกรุณาอย่างเรียกผมว่าพี่..ไม่อยากแก่..ฮา..หลังจากสอบถามที่มาที่ไปจึงทราบว่าเจ้าของโรงงานปลาทูน่า ที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่แนะนำให้มาหา เพราะเดือดร้อนเรื่องรถยนต์ที่เช่าซื้อมายังผ่อนค่ารถไม่หมดถูกลักไป ตอนนี้ต้องมาผ่อนกุญแจอยู่ ขอให้ช่วยบอกกลุ้มใจมากกินไม่ได้นอนไม่หลับทั้งเจ็บใจทั้งเสียใจ     ไปขอเจรจากับผู้ให้เช่าซื้อ (บริษัทลิสซิ่ง) จะขอผ่อนชำระบางส่วนแต่ไม่ได้รับความยินยอม กลับถูกข่มขู่ว่าหากไม่ชำระเงินที่เหลือทั้งหมดในครั้งเดียวจะถูกฟ้องร้องและติดตามยึดทรัพย์  ขณะที่พูดก็เห็นตาแดงๆแบบหมดอาลัยกับชีวิต  

ผมในฐานะทนาย....ก็ต้องยิ้มรับไปก่อนและเรียนบุรุษท่านนี้ว่า ใจเย็นๆท่าน....ทุกอย่างต้องมีทางออก.....(ทั้งที่ขณะนั้นผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะช่วยยังไงแต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวบุรุษท่านนี้จะผูกคอตายหน้าสำนักงานผม)

พักสายตาก่อนนะครับ

 

 

 

ไปกันต่อนะ ตั้งจิตให้นิ่งนึกถึงคนนอกบ้านน่าตาดีๆไว้....ฮิ.ฮิ..

เมื่อผมได้สอบปากคำและตรวจดูเอกสารต่างๆแล้วก็มีข้อสรุปได้ว่า

1.รถยนต์คันนี้ทำสัญญาเช่าซื้อกันในราคา 666,000.-บาท

2.แบ่งผ่อนค่าเช่าซื้อเป็น 36 งวดๆละ  18,500.-บาท

3.นับถึงวันที่มาพบผมได้ผ่อนชำระไปแล้ว 15 งวดเป็นเงิน 277,500.-บาท รวมกับเงินดาวน์ที่ชำระในงวดแรกอีก 50,000.-บาทเป็นเงินที่จ่ายแล้วทั้งสิ้น 327,500.-บาท

4.รถยนต์คันนี้มีประกันภัยประเภท 1 (ที่เราเรียกกันติดปากว่าชั้นหนึ่งนะครับ) ไว้ในวงเงิน 620,000.-บาท ระบุให้ผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์ รถยนต์ถูกลักไปก่อนมาพบผมประมาณ 5 เดือนมาแล้ว ภายหลังผมสอบถามไปยังบริษัทประกันภัยทราบว่าทางผู้ให้เช่าซื้อได้รับเงินค่าสินไหมเต็มวงเงินประกันแล้ว

5.ตามสัญญาเช่าซื้อกำหนดไว้ว่าในระหว่างการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อ รถยนต์คันนี้ต้องทำประกันภัยประเภท 1 ไว้เต็มวงเงินทุกปี และต้องเป็นบริษัทประกันภัยที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด

6.สัญญาเช่าซื้อฉบับนี้มีผู้ค้ำประกันด้วยหนึ่งท่านยินยอมรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วม ที่สำคัญคือผู้ค้ำประกันท่านนี้เป็นผู้มีพระคุณกับผู้เช่าซื้ออย่างมาก ไม่อาจจะให้ต้องรับภาระหรือถูกฟ้องร้องใดๆได้เลย ซึ่งสิ่งนี้เป็นสาเหตุหลักของความกลัดกลุ้ม จนมองไม่เห็นทางออก

พักตาอีกทีนะครับ

 

ต่อนะครับ ตั้งใจอ่านดีๆ ข้อนี้สำคัญ

7.ผมพบว่าในเงื่อนไขของข้อสัญญาเช่าซื้อมีข้อความอยู่ตอนหนึ่งที่ผู้เช่าซื้ออ่านแล้วมีความประสงค์จะให้ M-150 ตกใส่ บริษัทลิสซิ่ง ข้อความระบุไว้ตามที่ผมคัดมานี้ครับ

(ในสัญญาเรียก “ผู้ให้เช่าซื้อ” ว่า “ เจ้าของ”  เรียก “ผู้เช่าซื้อ” ว่า “ผู้เช่า” )

ข้อ 3.......

(จ).กรณีที่รถยนต์สูญหาย ผู้เช่ายอมชดใช้ค่ารถยนต์เป็นเงินเท่ากับค่าเช่าซื้อส่วนที่เหลือที่ผู้เช่าจะต้องชำระทั้งหมดตามสัญญาเช่าซื้อทันที  โดยผู้เช่าจะไม่ยกเหตุที่เจ้าของมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทผู้รับประกันภัยตามกรมธรรม์ผู้เช่าประกันภัยรายที่ผู้เช่าเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยตามเงื่อนไขของสัญญาเช่าซื้อ ข้อ 3(ฉ) มาปฏิเสธความรับผิดที่จะต้องชำระราคาดังกล่าวข้างต้น

(ฉ)ผู้เช่าจะประกันภัยรถยนต์โดยทันที (เว้นแต่เจ้าของจะได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นอย่างอื่น) และระหว่างอายุสัญญาฉบับนี้จะประกันภัยรถยนต์ไว้ตลอดเวลาโดยใช้กรมธรรม์ชนิดให้ความคุ้มครองเต็มจำนวนราคาค่าเช่าซื้อโดยปราศจากข้อกำหนดความรับผิดอย่างต่ำที่ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบเองหรือข้อจำกัดสิทธิใด ๆ กับบริษัทประกันภัยที่เจ้าของเชื่อถือ และให้สลักหลังระบุให้เจ้าของเป็นผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์เต็มจำนวนและมอบกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวไว้กับเจ้าของ   ผู้เช่าในฐานะผู้เอาประกันภัยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์อย่างเคร่งครัด ถ้าผู้เช่าส่งคืนรถยนต์ให้แก่เจ้าของหรือถ้าเจ้าของกลับเข้าครอบครองรถยนต์นั้น ส่วนได้เสียของผู้เช่าในการประกันภัยใด ๆ ที่ทำไว้ตามสัญญาฉบับนี้ให้ตกเป็นของเจ้าของอย่างสิ้นเชิง  โดยให้เจ้าของมีสิทธิได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการประกันภัยดังกล่าวรวมทั้งสิทธิเรียกร้องใด ๆ ตามกรมธรรม์ที่ยังค้างอยู่ ณ เวลาที่ส่งรถยนต์คืน หรือ ณ เวลากลับเข้าครอบครองรถยนต์และ/หรือส่วนลดเบี้ยประกันภัยใด ๆ สิทธิที่จะได้รับเงินจำนวนใด ๆ และเงินทั้งหมดที่บริษัทผู้รับประกันภัยจะต้องจ่ายและที่ได้จ่ายในกรณีรถยนต์ถูกลักหรือเสียหายอย่างสิ้นเชิงตามสัญญาประกันภัยใด ๆ ดังกล่าวแล้วให้บริษัทรับประกันภัยจ่ายให้แก่เจ้าของโดยตรงและโดยสัญญานี้ ผู้เช่ามอบหมายอำนาจอันจะเพิกถอนมิได้ให้เจ้าของเป็นผู้ออกใบรับเงินให้แก่บริษัทผู้รับประกันภัยสำหรับเงินใด ๆ ที่บริษัทผู้รับประกันภัยจะต้องจ่ายตามสัญญาประกันภัยดังกล่าว

เป็นไงครับเริ่มเบื่อยัง พักไปดื่มน้ำปัสสาวะตามปกติก่อนแล้วกันครับ...ฮิ.ฮิ...

 

 

เมื่อตะกี้ท่านใดพักไปดื่มน้ำก็โชคดีไป แสดงว่าเว้นวรรคได้ถูก...ฮา.....

กลับมาเข้าเรื่องต่อนะครับ

เมื่ออ่านข้อสรุปทั้ง 7 ข้อแล้วเห็นหรือยังครับว่าทำไมต้องผ่อนกุญแจทั้งที่รถยนต์ได้ถูกลักไป สัญญาในข้อ 3 (จ.) กับข้อ 3 (ฉ.) ก็ระบุไว้ชัด แล้วผมจะช่วยยังงัยหละ......ฮิ.ฮิ....

ถ้าจ่ายตังค์ค่าทนายช่วยได้ครับ....ฮา....(บอกแล้วอย่าปรองดองกัน...ฮิ.ฮิ...)

คือผมช่วยยังงี้ครับ

แทนที่บุรุษท่านนี้จะต้องตกเป็นจำเลย

ผมให้ท่านได้รับเกียรติเป็นโจทก์ครับ.....เออ...เลย....งง...มันทำงัยวะ..ฮิ.ฮิ....จ่ายตังค์ค่าทนายแล้วไม่ผิดหวังรับรอง.....ฮา....

ตามที่ผมสรุปประเด็นมาให้ทราบสั้นๆ หากท่านอ่านทำความเข้าใจสักเล็กน้อยก็จะเห็นได้ว่า ผู้ให้เช่าซื้อ จะได้รับค่ารถยนต์คันนี้ถึงสองทาง

ทางแรก   จากผู้เช่าซื้อ ที่จะต้องชำระเงินทั้งหมดทันทีที่รถยนต์สูญหายมีกำหนดไว้ตามที่ผมขีดเส้นใต้ไว้นะครับ แต่ปรากกฎว่า ผู้เช่าซื้อยังใช้วิธีผ่อนชำระตามรายงวดเช่นเดิม รวมเป็นเงินที่ชำระตามงวดไปแล้ว 277,500.-บาท

ทางที่สอง  จากบริษัทประกันภัยที่ต้องจ่ายเป็นค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่ทำไว้ในวงเงิน 620,000.-บาท ค่าสินไหมนี้ทางประกันเขาจ่ายให้ผู้รับประโยชน์ คือตามที่ผมหมายสีไว้และเป็นไปตาม (ฉ) ตามทันนะครับ

ที่นี้เมื่อรวมทั้งสองทางแล้วจะเห็นได้ว่าผู้ให้เช่าซื้อ(เจ้าของ)ได้เงินไปแล้วทั้งสิ้น 897,500.-บาท นี้ยังไม่รวม 50,000.-บาทที่จ่ายเงินดาวน์ นะครับ พอมองออกหรือยัง.....ราคารถที่ผ่อนตามสัญญา 666,000.-บาท ก็เท่ากับได้รับเงินเพิ่มขึ้นอีก 231,500.-บาท ถ้ารวมกับ 50,000.-บาท เท่ากับได้รับเงินเพิ่มขึ้นถึง 281,500.-บาท เป็นไงครับ สัญญานี้ให้ความเป็นธรรมกับผู้เช่าซื้อ(ผู้เช่า)ป่าวครับ.....ไม่เป็นธรรมใช่ป่าว....ฮิ.ฮิ...ยังงี้มันต้องฟ้องครับ

คดีนี้ผมฟ้องทางแพ่ง ข้อหาว่า ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และผิดสัญญาเช่าซื้อ และลาภมิควรได้ครับ

ผมตั้งเรื่องฟ้องเรียกเงินส่วนที่ชำระเกินกว่าสัญญาเช่าซื้อที่ผู้ให้เช่าซื้อควรจะได้รับ  คือเรียกเอาส่วนที่เกินไป 281,500.-บาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ  7.5 ต่อปี

ผลคดี

ความเป็นธรรมมีครับศาลพิพากษาให้ผู้ให้เช่าซื้อคืนเงินแก่ผู้เช่าซื้อเป็นเงิน 320,000.-บาท(คำพิพากษามีเศษด้วยแต่เอาแค่ตัวกลมๆ) ในคำพิพากษามีข้อความตอนหนึ่งที่ผมขอนำมาบันทึกไว้ ณ ที่นี้เพื่อความเข้าใจของท่านผู้ที่ได้แวะมาอ่านบันทึกนี้ ข้อความมีว่า

“ กรณีรถยนต์ที่เช่าซื้อถูกลักไป จำเลยผู้ให้เช่าซื้อได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย  ทางหนึ่ง และได้จากโจทก์ผู้เช่า อีกทางหนึ่ง เป็นการเกินกว่าความเสียหายที่จำเลยได้รับ  และการที่โจทก์เสียเบี้ยประกันภัย โดยยินยอมให้จำเลยเป็นผู้รับประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันภัยก็เพื่อโจทก์จะไม่ต้องรับเป็นภาระใช้ค่ารถให้แก่จำเลย และจำเลยได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยไปแล้วยังใช้สิทธิรับเงินค่าเช่าซื้อที่เหลือจากโจทก์ ภายหลังอีกทางหนึ่งเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต  จำเลยต้องคืนเงินค่าเช่าซื้อดังกล่าวให้โจทก์  ”

คำพิพากษาส่วนที่คัดมานี้อธิบายความได้แจ้งชัด คราวนี้ท่านคงทราบแล้วว่า...ทนายนะน่ารัก...คบไว้...นอกจากเสียตังค์แล้ว...โอกาสได้ตังค์ก็มี....ฮา......

 

พักอีกทีนะครับ จะดื่มน้ำอะไรก็ตามสะดวกครับ..ฮิ.ฮิ..

 

 

มาตราที่อ้างอิงมีตามนี้ครับ

มาตรา 5 ในการใช้สิทธิแห่งตนก็ดี ในการชำระหนี้ก็ดี บุคคลทุกคนต้องกระทำโดยสุจริต

มาตรา 406 บุคคลใดได้มาซึ่งทรัพย์สิ่งใด เพราะการที่บุคคลอีกคนหนึ่งกระทำเพื่อชำระหนี้ก็ดี หรือได้มาด้วยประการอื่นก็ดี  โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้  และเป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งนั้นเสียเปรียบไซร้  ท่านว่าบุคคลนั้นจำต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา   อนึ่งการรับสภาพหนี้สินว่ามีอยู่หรือหาไม่นั้น ท่านก็ให้ถือว่าเป็นการกระทำเพื่อชำระหนี้ด้วย

    บทบัญญัติอันนี้ท่านให้ใช้บังคับตลอดถึงกรณีที่ได้ทรัพย์มา เพราะเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมิได้มีได้เป็นขึ้น หรือเป็นเหตุที่ได้สิ้นสุดไปเสียก่อนแล้วนั้นด้วย

 

มาตรา 572  อันว่าเช่าซื้อนั้น คือสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว

    สัญญาเช่าซื้อนั้นถ้าไม่ทำเป็นหนังสือ ท่านว่าเป็นโมฆะ

  

เห็นยังครับ "ยุติธรรมคือศาสตร์" จริงๆนะจะบอกให้

คราวหน้ามารู้เรียนเรื่อง “ ค้ำประกัน ”

ปล.ขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับที่ผมเข้ามาเขียนบันทึกให้อ่านล่าช้ากว่ากำหนด

หมายเลขบันทึก: 409064เขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2010 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (37)

สวัสดี่ค่ะ คุณฝนแปดแดดสี่

ดิฉันก็มาจากแถวๆฝนแปดแดดสี่เหมือนกัน

ปกติไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย

แต่เรื่องนี้ได้ประโยชน์มากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ ปกติจะเป็นผู้เข้ามาติดตามอ่านทุกบันทึก แต่ก็ไม่สามารถจะแสดงความคิดเห็นอะไร  ทั้ง ๆที่ทราบว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

ทุกเรื่องน่าจะรวบรวมเล่มทำเป็นหนังสือออนไลน์นะคะ  ใครผ่อนรถไว้ตอนนี้โปรดกลับไปอ่านกรมธรรม์ประกัยภัยด่วน  เพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้น

ท่านคนนี้มีโอกาสดีนะคะ  ขอขอบคุณแทนท่านด้วยค่ะ

สวัสดีครับท่านทนาย หายหน้าไปหลายวัน โหมเราน้ำท่วมบ้านพังยางเสียหาย แม่ยายป่วย ดีที่พี่น้อง อบต.บ่อแสนมาช่วยบรรเทา .....ไม่ฮาดีกว่า

ชื่นชม เพราะเชี่ยวชาญ ช่ำชอง อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายออก บอกกฎหมายได้ ใช้กฎหมายเป็น เห็นประโยชน์ในกฎหมาย จึงพลิกโจทย์มาเป็นจำเลย ต้องชดเชยลาภมิควรได้ บริษัทกลายมาเป็นจำเลย....

สวัสดีค่ะคุณทนาย

พักตา..บ่อยเหลือเกินนะ..พักยายมั่งจะได้ไปดื่มน้ำ....อิอิ..เล่ห์กลของพวกบริษัทผู้ให้เช่าซื้อ บริษัทลิสซิ่ง มันแสบจริงๆนะคะ...บางคราวผู้เช่าซื้อมิได้อ่านอะไรหนักหนาหรอก ตัวหนังสือก็เล็กจี๊ดเดียว มีแต่บอกให้เซ็นต์ๆๆๆๆๆ...คนเช่าซื้อก็เซ็นต์ลูกเดียว...ไม่รู้ให้เซ็นต์อะไรนักหนา..อย่างนี้..ต้องอ่านตรวจดูให้ดีก่อนเซ็นต์...นะคะ..ประเดี๋ยวจะต้องจ่ายตังส์ให้ทนายนะคะ...แต่แน่นอนค่ะว่า "ยุติธรรมคือศาสตร์"จริงๆค่ะ...มาชวนไปดูคนนอกบ้านค่ะ...ที่บันทึกเกาหลีเหนือนะคะ

ขอบคุณสำหรับกรณีศึกษาดี ๆ ขอรับ

โอ้โฮ....หายหน้าหายตาไปหลอกเอาตังค์ชาวบ้านแถวไหนมานี่คุณทนาย....อิๆๆๆๆๆ( ชิมิชิมิ )

อ่านแล้วพักแต่ไม่ดื่มน้ำ..พักแล้วอ่านถึงได้เข้าใจว่า อ้อ...มันเป็นเช่นนี้เอง  คราวหลังจะต้องตั้งสติแล้วเรียกหา...ทนาย....ฮา

ดีจังเลยที่มีทนายคู่ใจประจำ GTK  แถมมีคุณอัยการอีก ( ขาดอะไรอีกน้อ..)  ต่อไปมีอะไรจะ..ลุย

แล้วอย่างกรณีที่รถเราไม่มีภาระจากลิสซิ่ง  แต่ประกันชั้นหนึ่งเอาไว้  แล้วเกิดวันดีคืนร้ายถูกพรรคพวกยืมรถไปโดยไม่เอากุญแจ..อย่างนี้ประกันต้องชดใช้ใช่บ่???

สุขสันต์วันศุกร์นะคะ...

ให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้ อ่าน..ทุกคน 555

ขอบคุณที่ชี้ทางสว่างให้คนมืดบอด..

กรณีรถพัง ก็เหมือนกันใช่ไหมครับท่าน..

กรณีผ่อนบ้านกับธนาคารละขอรับ หากบ้านเกิดไฟไหม้ ผู้กู้ต้อง ผ่อนต่อ อีกไหม บ้าน (ที่ดิน ) ที่เหลือจะเป็นของใคร เพราะผู้ซื้อ เป็นผู้จ่ายค่าประกันภัยไฟไหม้เหมือนกัน

สวัสดีครับคุณ Ico32 nana งาน พสว.ศอ.8

ยินดียิ่งที่ได้รู้จักกับคุณ นานา ครับ และดีใจครับที่คุณนานาเคยไปชื่นชมบรรยากาศที่แสนสุขของจังหวัดพังงา

คุณนานาจากพังงามานานหรือยังครับ คิดจะกลับไปเยือนพรรคพวกเพื่อนพ้องน้องพี่อีกสักครั้งหรืครับ ชาวพังงายังรอคุณนานาเสมอครับ

ขอบคุณครับทีแวะมาทักทายกัน

สวัสดีครับคุณ Ico32 ยายคิม

คุณยายคิมสบายดีนะครับ ผมไม่ได้แวะทักทายเสียนาน

ขอบพระคุณมากครับที่แวะมาให้กำลังใจ ความตั้งใจในการเขียนบันทึกของผมก็เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และให้เข้าใจกฎหมายอย่างง่ายๆ ผมพยายามจะเสนอรูปแบบการรู้เรียนกฎหมาย ให้อ่านแล้วสนุกและได้ทราบข้อกฎหมายเพื่อจะได้สร้างมุมมองกฎหมายอย่างเข้าใจก่อนตัดสินใจทำสัญญากัน

พี่น้องชาวไทยเรายังเข้าใจกฎหมายได้น้อยมากครับ ส่วนใหญ่จะรู้จักทนายความ หรือนักกฎหมายเมื่อมีปัญหาแล้วเท่านั้น  ยังใช้ทนายความผิดวิธีการ คือแทนที่จะใช้ในทางป้องกัน แต่กลับใช้ในทางแก้ไข คือก่อนจะทำสัญญาหรือทำนิติกรรมใดๆแทนที่จะสอบถามปรึกษาเสียก่อนกลับไม่ทำ แต่จะนึกถึงทนายความทันทีเมื่อเกิดปัญหาขึ้น

ข้อเสนอของคุณยายคิมอยู่ในแนวคิดครับว่าจะจัดทำเป็นรวมเล่มออนไลน์แต่คงไม่ได้ทำคนเดียว ตอนนี้กำลังประสานงานกับพรรคพวกให้มาช่วยกันจัดทำ คงไม่นานเกินรอครับ

ขอบพระคุณอีกครั้งครับสำหรับกำลังใจที่ให้

สวัสดีครับท่านIco32 วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ขอส่งกำลังใจมาให้ครับ...สู้ต่อไปครับโก้..มีอะไรให้ช่วยบอกมานะครับ

ธรรมชาติทำร้ายกำลังใจของเราไม่ได้ตลอดไปหรอกครับ

ยังมีอีกหลายท่านที่เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์ เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ขณะนี้มีปัญหารถเสียหายเพราะภัยธรรมชาติไม่ทราบทางออก ผมนำเอาประสบการณ์เรื่องนี้มาเพื่อให้รู้เรียนเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา

แต่ถ้าท่านใดไม่มีแนวทางต่อสู้จริงๆก็ไปต่อสู้คดีในศาลเถอะครับ รับรองว่าภาระที่จะต้องรับผิดชอบค่าเช่าซื้อจะลดลงได้มาก ขอให้เชื่อในการใช้ดุลพินิจของศาล ส่วนไม่มีค่าจ้างทนายก็ให้ไปพบกับสภาทนายประจำจังหวัดแต่ละแห่ง ทางสภาทนายมีแนวทางช่วยเหลืออยู่แล้วครับ

สู้ต่อไปครับท่านวอญ่า บ้านพังซ่อมใหม่ได้แต่ชิวิตต้องอยู่ครับ

อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ยังงๆอยู่บ้างเพราะยาวมาก ดีที่มีพักสายตากกับดอกไม้งามทุกภาพและทั้ง 5 ภาพสวยงามนั้นไม่ทราบชื่อเลย ช่วยบอกชื่อด้วยนะคะ สวยมากค่ะ

สวัสดีครับคุณครูIco32 มาตายี 

 

ฮิ.ฮิ...ภรรยาของตาทนอดน้ำได้ดีครับ ผมถึงไม่อนุญาตให้ภรรยาของตาพัก กลัวอยู่ทนเกินควร สงสารตา เพราะได้ข่าวว่าภรรยา จู้จี้ขี้บ่นแก่ง่ายหมดอายุขัยช้า....ฮา...

โดยข้อเท็จจริงแล้วสัญญาเช่าซื้อที่เราไปทำกับทางลิสซิ่ง เราไม่สามารถจะขอแก้ไขได้แน่นอนครับ ตัวอักษรมันจะเล็กจะใหญ่ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเมื่อเราอยากได้รถ เราเป็นฝ่ายต้องยินยอมเขา ถ้าทุกคนร่วมใจกันโดยกำหนดว่า ถ้าลิสซิ่ง ไม่ทำสัญญาให้เป็นธรรมเราขอแก้ไขไม่ได้ ก็ตัดใจไม่ต้องซื้อ หากร่วมกันอำนาจจะเป็นของผู้ซื้อ ลิสซิ่ง หากไม่ยอมเราก็ไม่ทางทำมาหากิน เขาต้องตามใจเราทางเราเป็นฝ่ายหาเงินให้เขานะครับ....เออ....โทษทีผมฝันไป...ฮา...

คุณครูกระแตเขียนบรรยายการเยือนเกาหลีเหนือได้ดีมากครับ ผมติดตามอ่านทุกตอนแต่ไม่ได้แวะทักทาย  การตดตามอ่านบันทึกของคุณครูกระแตทำให้ผมเข้าใจสภาพสังคมของเกาหลีเหนือมากขึ้น แรกๆที่ได้รับทราบข่าวองทางเกาหลีเหนือยังคิดอยู่ว่า ทำไมเกาหลีเหนือต้องทำอะไรในทางที่จะก่อเกิดสงครามอยู่เสมอๆ แต่พอได้อ่านจากบันทึกทำให้ผมตั้งใจค้นข้อมูลเกาหลีเหนือมากขึ้น ทำให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้นครับ

ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจตลอดมา

สวัสดีครับ ท่านIco32 นาย วัฒนา คุณประดิษฐ์

ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านวัฒนา

บันทึกที่ท่านได้อ่านทั้งหมดผมนำเอาประสบการณ์มาแบ่งปันเพื่อการรู้เรียนกฎหมายกันได้บ้าง แต่วีการเขียนของผมไม่เน้นวิชาการนะครับ เน้นไปทางให้เข้าใจวีคิดอย่างนักกฎหมายแต่ก็ให้เกิดความสนุกในการอ่าน ถ้าจะเขียนให้นักกฎหมายอ่านต้องเขียนอีกวิธีหนึ่งครับ ซึ่งบรรดานักกฎหมายต่างมีตำรากฎหมายที่ให้อ่านค้นคว้าอยู่มากจนอ่านกันไม่รู้จบอยู่แล้ว

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจแล้วผมจะแวะไปเยี่ยมนะครับ

สวัสดีครับคุณครูIco32 krugui Chutima

ฮา......ลุยเลยครับคุณครูกีร์.....มีอะไรไม่ต้องคิดมากไม่ต้องปรองดองนะครับ...ลุย.....ถือว่าทำบุญให้ทนายมีงานทำ.....ฮา......ลองคิดดูเล่นๆถ้าทั้งประเทศไม่มีใครขัดแย้งกัน ทนาย อัยการ ศาล น่าจะอดตายแน่....ฮา.....

รถยนต์ที่เราทำประกันประเภท 1 ไว้หากรถยนต์สูญหาย หรือเสียหายทั้งคันจนใช้การไม่ได้ โดยปกติแล้วทางประกันต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ แต่ยังงัยก็ดูในเงื่อนไขของกรมธรรม์ เสียก่อนนะครับว่าคุ้มครองแค่ไหนเพียงใด

สวัสดีครับท่านIco32 เกษตร(อยู่)จังหวัด

ฮา....แล้วผมผู้เขียนบันทึกหละท่านเกษตร ไม่อวยพรให้ได้ทรัพย์สินบ้างหรือ เดี๋ยวมีงอน...นะตัวเอง

กรณีรถพัง หากไม่อาจจะใช้งานได้ตามปกติต่อไปก็ได้รับค่าสินไหมทดแทนเท่าจำนวนที่ทำประกันไว้เช่นกันครับ แต่ต้องดูเงื่อนไขในกรมธรรม์ด้วยว่าคุ้มครองในกรณีใดบ้าง เช่นรถพังเพราะถูกยิงด้วย M-150 จากเหตุจลาจลอะไรทำนองนี้หากไม่ได้ซื้อการคุ้มครองไว้ก็ไม่มีสิทธิได้รับ แต่ถ้าซื้อไว้ก็ได้รับค่าสินไหมแน่นอนครับ

ขอบคุณครับที่ท่านแวะมาให้กำลังใจบ่อยๆ

สวัสดีครับคุณคนซื้อบ้าน 

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะครับ

กรณีของคุณคนซื้อบ้าน น่าจะไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อครับ

เพราะโดยปกติแล้วเป็นเรื่องการกู้ยืมเงินจากธนาคารแล้วนำเอาโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง(บ้าน)ไปจดจำนองไว้เป็นหลักประกันการกู้ยืมโดยมีเงื่อนไขให้ผ่อนชำระพร้อมดอกเบี้ยแล้วนำเอาเงินที่ผ่อนชำระส่วนหนึ่งไปชำระดอกเบี้ยรายเดือนคงเหลือจากชำระดอกเบี้ยแล้วถึงนำไปหักชำระเงินต้น ซึ่งในช่วงการผ่อนชำระปีแรกๆจะถูกหักชำระดอกเบี้ยเกิบทั้งหมดเหลือหักเงินต้นน้อยมาก พอเงินต้นลดลงดอกเบี้ยก็น้อยลง ก็หักเงินต้นได้มากขึ้นคือธนาคารเขาคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกนะครับ

ส่วนการเช่าซื้อทางลิสซิ่งเขาคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) คือคิดดอกเบี้ยครั้งเดียวแล้วคูณด้วยจำนวนเดือนนำไปบวกกับเงินต้นแล้วหารออกเป็นงวดที่จะต้องผ่อนชำระ ดอกเบี้ยที่แท้จริงจึงสูงมาก

คำถามที่คุณคนซื้อบ้านถามว่า

กรณีผ่อนบ้านกับธนาคารละขอรับ หากบ้านเกิดไฟไหม้ ผู้กู้ต้อง ผ่อนต่อ อีกไหม บ้าน (ที่ดิน ) ที่เหลือจะเป็นของใคร เพราะผู้ซื้อ เป็นผู้จ่ายค่าประกันภัยไฟไหม้เหมือนกัน

คำตอบ

บ้านและที่ดินเป็นชื่อของคุณคนซื้อบ้านครับ บ้านจะถูกไฟไหม้หรือไม่ก็ตามไม่เกี่ยวกับการผ่อนชำระเงินกู้ การผ่อนชำระต้องมีต่อไป เพียงแต่ธนาคารอาจเห็นว่าหลักทรัพย์ค้ำประกันลดมูลค่าลงอาจเรียกให้หาหลักทรัพย์มาเพื่มเติม ส่วนที่มีการทำประกันภัยไว้ ทางประกันก็ต้องจ่ายค่าสินไหมให้ผู้รับประโยชน์ตามข้อตกลงในกรมธรรม์ หากจ่ายให้ธนาคารทางธนาคารก็ต้องนำไปชำระดอกเบี้ยคงเหลือก็ชำระเงินต้นครับ ส่วนที่ดินที่คงเหลืออยู่ก็ยังเป็นกรรมสิทธิของคุณคนซื้อบ้านครับ

ผมมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการทำประกันภัยทรัพย์สิน(บ้าน)ไว้เป็นข้อพิจารณาดังนี้ครับ

กรณีที่จะทำประกันภัยทรัพย์สิน ถ้าหากทางบริษัทประกันเขาประเมินราคาทรัพย์สินไว้สมมุติว่า 2,000,000.-บาท หากเราบอกว่าไม่ทำ2,000,000.-บาท  ขอทำเพียง1,000,000.-บาท กรุณาเข้าใจด้วยว่าท่านทำเพียงร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินเท่านั้นนะครับ เวลามีความเสียหายเกิดขึ้นทางประกันเขาจะจ่ายให้เพียง 50% สมมุติว่า บ้านเกิดไฟไหม้เสียหายเป็นเงิน 700,000.-บาท ทางเราทำประกันไว้1,000,000.-บาท อย่าเข้าใจว่าประกันจะจ่ายให้ 700,000.-บาทนะครับ เขาจะจ่ายให้ 50 % คือ 350,000.-บาท เท่านั้นเพราะเราทำประกันเพียง 50%ของมูลค่าทรัพย์สิน ฉะนั้นหากทางประกันประเมินราคาไว้เท่าไหร่ก็ให้ทำประกันเต็มมูลค่าดีที่สุดครับ  หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับที่ถามเพราะจะยังประโยชน์กับท่านอื่นด้วย

สวัสดีครับคุณ Ico32 กานดา น้ำมันมะพร้าว

คุณกานดาอ้วนท้วนแข็งแรงสมบูรณ์น่ารักเหมือนเดิมนะครับ ฮิ.ฮิ.

ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจทีละน้อยๆครับไม่ต้องรีบร้อน หากมีเวลาก็ลองอ่านคำตอบที่ผมตอบคุณคนซื้อบ้านในความเห็นที่ 17 ก็จะยังประโยชน์ต่อได้อีกส่วนหนึ่งครับ

ส่วนดอกไม้มีชื่อตามนี้ครับ

เกล็ดกะโห้ด่าง

รัตมา

ดอกฝ้าย

สารภีทะเล

เครือขมัน

ดอกไม้ที่เห็นหาชมยากยกเว้นดอกฝ้ายครับผมถ่ายไว้นานแล้วตอนนั้นไม่ได้จดไว้ว่าดอกจะบานช่วงไหนบ้าง

ขอบพระคุณที่ติดตามให้กำลังใจตลอดมาครับ

สวัสดีค่ะ 

มาอ่านบันทึกนี้แล้วชอบใจเรื่องกฏหมายขึ้นมาทันที ขนาดเคยเรียนมาบ้างเล็กน้อย ยังแอบงงเรื่องกฏหมาย อ่านทีไรต้องตั้งสติเยอะๆ นะค่ะ :)

อ๋อ...อีกอย่างค่ะ ชอบใจภาพประกอบด้วย ได้พักสายตาเป็นช่วงๆ ต้องบอกว่าเป็นไอเดียสำหรับการช่วยให้ผู้อ่านสบายตาสบายใจเวลาต้องอ่านบันทึกที่มีเนื้อหายาวๆ 

ยกนิ้วให้คุณทนายนะคะ ไอเดียดีมาก และข้อมูลที่นำมาบอกเล่ามีประโยชน์ อ่านแล้วก็สนุกด้วยค่ะ :)

ขอบคุณมากๆ ค่ะ 

แวะมาบอกคุณทนายว่าเฉลยแบบทดสอบอีคิวแล้วล่ะ  เพราะถ้าคำตอบไม่ถูกใจจะได้รีบชิ่งกลัวถูกฟ้องอ่ะ..ฮา

                         

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาเยี่ยมเยียนกันค่ะ  สบายดีนะค่ะ
  • มีความสุขกับวันทำงานดี ๆ ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                                

โห คุณครูทนายฯ สามารถจริง เพิ่งทราบว่ามีแบบนี้ได้ด้วย บรรดาคุณทนายฯ ๆ นี่เก่งจริงๆ เหมือนดูหนังแก้คดีบางเรื่อง น่าทึ่งอย่างปลอมตัวเป็นลูกขุนซะเอง

เสียดายจังคันแรกเดี้ยงแบบขาดทุนไปแล้ว ไว้บ้านรถปูพังเมื่อไหร่จะใช้บริการนะคะ อิ อิ

ภาพดอกไม้สวยงาม เข้ากันกับหนุ่มผู้สามารถ ๕ ๕ มาบอกครูว่าปูจับภาพน้ำค้างได้ดั่งใจแล้ว ขอบคุณนะคะ :)

 

คุณทนาย...หายไปไหนคะ...มาเยี่ยมค่ะ...

คุณครูทนายแปดขาฯ นี่ไงค่ะที่บอกว่าใช้ F A M S แล้วเมฆแตกกระจายกระจุย เลยค่ะ

http://gotoknow.org/blog/lanandaman/414059  ไว้จะลองจับใหม่ตามคำแนะนำ นะคะ และจะปีนภู ชมดอกไม้เผื่อคนมีอุปกรณ์หล่อด้วย ส่งกำลังใจ งานเข้า ๆขอบคุณค่ะ

มาตามหาคุณทนายค่ะ....บันทึกหายไปนานรออ่านบันทึกสนุกๆอยู่นะคะ...

สวัสดีค่ะครูทนายเซียนถ่ายฯ

ให้ทายว่าที่ไหน ง่ายไปไหมคะ ... สุขสันต์ส่งท้ายปีค่ะ  

สวัสดีค่ะครูทนายเซียนถ่ายฯ

ให้ทายว่าที่ไหน ง่ายไปไหมคะ ... สุขสันต์ส่งท้ายปีค่ะ  

          สุขสันต์วันปีใหม่ ๒๕๕๔ ค่ะ

ในวาระดีถีแห่งปีใหม่2544

ขอให้ทนายจงมีความสุขตลอดไป เป็นขวัญใจชาวบ้านด้านกฎหมาย เป็นทนายชาวโกทูโนเรียนรู้กฎหมายที่ง่ายต่อการรู้

มีความสุขในวันปีใหม่ไทยเรานะคะ ไปว่าความต่างประเทศหรือค่ะหายเงียบจริงๆค่ะ

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะคุณทนายแปดขา

สบายดีไหมคะ หายเงียบเข้ากลีบเมฆไปว่าความนอกราชอาณาจักรรึคะ :)

สงกรานต์ที่ลาดพร้าวเป็นไงบ้างเอ่ยคะ .. ช่วงนี้ไม่ค่อยได้จับภาพค่ะ

คิดถึงภาพดอกไม้งามๆ ที่เจ้าของมีอุปกรณ์เสริมหล่อ ๕ ๕ ๕ :)

 

"คิดถึงท่านทนายไม่หน่ายแหนง

หายไปนานยังจำมั่นไม่เปลี่ยนแปลง

รักหนักเหนียน รักระโห๊ะ รักอย่างแรง

ใช่จะจะแกล้งมายอ ขอบอกรักและคิดถึง"

ทนายยังไม่เข้าบ้าน ......หลายคนมายืนรอริมรั้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท