การลดน้ำหนักกับยา(1)


เพื่อสาวๆ ที่กำลังหันไปใช้ยาเข้าใจเรื่องยาเหล่านี้ให้ดีขึ้น (หนุ่มก็อ่านได้นะครับ)
ก่อนจะเริ่มเรื่องยาขอกล่าวถึงการลดน้ำหนักก่อนนะครับการลดน้ำหนักคืออะไรทำไมเราต้องลดน้ำหนักและเราต้องลดน้ำหนักอย่างไร จึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ 

ต้องเน้นตรงนี้ครับเพราะการลดน้ำหนักปัจจุบันมีการเผยแพร่ออกมามากมายจริงๆ

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวิธีที่ไม่ได้ผลหรือได้ผลไม่นานก็กลับมาเหมือนเดิมหรือหนักกว่าเดิมอีก

บางทีก็เป็นวิธีการที่หักโหมอย่างหนักจนร่างกายทนไม่ไหว

ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าครับ ที่หลายคนทุ่มเทจ่ายเงินไปแล้วได้ร่างกายที่ทรุดโทรมกลับมา

แน่นอนครับว่าในกลุ่มโฆษณานี้มีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจริงๆ อยู่ด้วย ซึ่งพวกท่านก็จะบอกคล้ายๆ กันครับว่าการลดน้ำหนักนั้นต้องคุมอาหารและออกกำลังกาย (ภายหลังพบว่านั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงวิตชีวิตของผมเลยละ)

 

เป็นคำตอบที่ดูง่ายไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ (แต่ทำยากจริงๆ ให้ดิ้นตายสิ)

 ขอเตือนก่อนที่จะอ่านต่อไปนะครับการใช้ยาเป็นวิธีการท้ายๆ ที่ผมอยากจะให้คุณทั้งหลายใช้ รองจากการผ่าตัดดูดก้อนไขมันออก 

เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่มันมาเร็วย่อมจะไปเร็วเป็นเหมือนกฎธรรมชาติ ถ้าอยากให้หุ่นเราลดแล้วอยู่กับเรานานๆ เราต้องค่อยๆ ทำให้ทุกอย่างค่อยๆ เป็นไป

ดังนั้น ผมแนะนำให้วิธีการลดน้ำหนักโดยการเปลี่ยนวิธีการดำรงชีวิตเป็นคำตอบแรกสุด ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้อยู่

 

เพื่อความน่าเชื่อถือขึ้นนะครับ ผมขอบอกว่า

ตอนจบมาใหม่ๆ ผมสูง 167 ซม. หนัก 70 กก. ไม่มีใครบอกว่าผมอ้วนหรอก

แต่ตัวผมรู้กระจ่างใจดีก่อนเข้ามหาลัยผมสูงเท่านี้ละแต่หนัก 55 กก. ผ่านไปหลายปีจนจบออกมาน้ำหนักเพิ่มเป็น 70 กก. เท่ากับเพิ่มมา 15 กก. คุณผู้อ่านว่าผมอ้วนขึ้นไม๊ละ ดูจากรูปแล้วไม่มีใครบอกได้ครับว่าผมอ้วนเพราะน้ำหนักไปลงที่หน้าท้อง สะโพก ต้นขาอย่างสมดุลกันมาก ดังนี้ครับ

 

ก่อนเข้ามหาลัย       หลังเรียนจบ        ปัจจุบัน

นน. 55 กก.             70 กก.                     60.5 กก.

เอว 27 นิ้ว               32 นิ้ว                29 นิ้ว

สะโพก 37 นิ้ว         42 นิ้ว                38 นิ้ว

ต้นขา ตอนนั้นไม่ได้วัดครับ เลยเทียบไม่ได้

แต่กางเกงตอนปี 1 ผมใส่ไม่ได้แล้วครับ ฟิตทั้งก้นเอวและต้นขา ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ 2 ครั้งแน่ะตอนเรียน จากเอว 28 นิ้ว มาใส่ตัว 30 /32 นิ้ว แต่เสื้อใส่ตัวเดิมได้ไม่ต้องเปลี่ยนไซส์เลยตอนนี้ผมหนัก 60.5 กก. ใช้เวลาในการลด 4 เดือนครับ ตกเดือนละประมาณ 2.5 กก. และผ่านมาก็เกือบ 8 เดือนแล้วครับน้ำหนักก็ยังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ตอบตามจริงว่ามันมีแปรปรวนบ้างแต่เพิ่มลดไม่เกิน 1 กก. โอ้ร่ายมายาว ยังไม่ไปถึงไหนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อเรื่องยาครับ

บทความนี้พิมพ์ตั้งแต่ 16.30-18.00 น.ขณะกำลังจิบน้ำชาหลังเลิกงาน 

หมายเลขบันทึก: 40779เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2006 11:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
มีสาวๆที่แอบมาอ่านบันทึก ตอนที่ผมอ่านบันทึกคุณจันทร์เมามาย บอกว่า พวกเขารอคอย ที่จะอ่านบันทึกเขียนต่อครับผม
  • น่าจะออกกำลังกาย
  • มากกว่าครับ
  • อาทิตย์จะได้ไม่เมามาย เข้าพรรษาแล้วด้วย

คุณจตุพร ฝากบอกสาวๆ ด้วยนะครับว่าคงต้องรอหลายตอนหน่อยเพราะข้อมูลค่อนข้างเยอะ เนื่องจากทีแรกจะเขียนแต่เรื่องยาล้วนๆ แล้วคุณขจิตทำให้ผมคิดใหม่ว่า น่าจะแนะนำวิธีลดที่ถูกต้องก่อนคร่าวๆ ก่อนจะไปเรื่องยา

คุณขจิต ชอบลูกยกน้ำหนักของคุณจริงๆ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ เห็นด้วยกับที่คุณขจิตว่าออกกำลังกายจะดีที่สุดควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร แต่ก็มีครับสำหรับคนที่ใช้ยากลุ่มนี้ไม่ว่ากำลังใช้อยู่หรือกำลังตัดสินใจใช้  เช่นผมในตอนแรกๆ ที่หันไปลองใช้ยาในการคุมน้ำหนัก

ผมเห็นว่าคนกลุ่มนี้ต้องได้รับข้อมูลมากขึ้นในการตัดสินใจครับ ว่า เมื่อเรากินไปแล้วอาจเกิดผลเช่นนี้ คุณจะรับได้หรือไม่ ขึ้นชื่อว่ายาแล้วต้องมีอันตรายแฝงมาครับอาจจะมากหรือน้อย ขึ้นกับบุคคล อาการของโรค ชนิดของยา รวมทั้งวิธีการใช้ยาด้วย

ปล. ความอ้วน ปัจจุบัน FDA ถือว่าเป็นโรคแล้วนะครับ ผมว่าเราก็ไม่ควรนิ่งนอนใจกันนัก

  •  รอฟังด้วยใจระทึกครับ
  • ชอบสำนวนคุณเขียนมาก สนุกดี เหมือนได้อ่านงานของ พี่ รงค์
  • ขอบคุณมากครับ
    TreadmillStep Aerobics






ขอบคุณครับที่ชม ผมไม่รู้จักพี่รงค์หรอกแต่น่าจะเป็นคนที่เขียนเก่งนะ หึๆ

จะพยายามลงต่อเนื่องเรื่องนี้ให้จบละครับแต่เนื้อหายิ่งรวมข้อมูลยิ่งรู้สึกว่ามันเยอะจริงๆ คิดว่าได้แค่ไหนก็ทำแค่นั้นก่อน

จิบน้ำชาช่วยลดคอเรสเตอรอลใช่ไหมค่ะ เคล็ดไม่ลับที่ควรคู่สำหรับคนรักษาน้ำหนักค่ะ

ดร. จันทวรรณ น้อยวัน 

สังเกตุเก่งมากเลยครับ

 เวลาทำงานหรือเข้าประชุมมักจะเจอ 2 อย่างนี้ครับ คือ กาแฟและน้ำชา

ดื่มกาแฟต้องชงใส่ครีม,นม,น้ำตาลลงไปด้วยครับ ซึ่งไม่เหมาะกับคนที่คุมน้ำหนักอยู่ แถมตัวมันมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะอีกต่างหาก

 ส่วนน้ำชา รสขมหน่อยๆ ของมันทำให้ลดความกระหายน้ำ ได้ดีครับ

รวมทั้งการจิบน้ำชาอุ่นๆ ถือเป็นความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่งของผมครับ ใครจะทดลองก็ได้นะครับไม่ว่ากัน

การลดน้ำหนัก หากเรามีความสุขไปกับมันด้วยจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท