นั่งรถไฟไปสุราษฎร์ธานี


                   นั่งรถไฟไปสุราษฎร์ธานี

 

 

 

            บรรดานักเรียนโข่งเดินทางกันอีกแล้วครับ  คราวนี้ไปไกลหน่อยถึงเมืองคนดี"สุราษฎร์ธานี"โน่น

             ไม่ได้ไปโดยเครื่องบิน เพราะนักเรียนเต็ม 80  ไปคราวนี้ 72 คำนวณแล้วทั้งไปทั้งกลับ ต้องใช้งบบานตะไท  จึงตกลงกันไป "รถไฟไทย"แล้วค่อยกลับทางเครื่องบิน ประหยัดงบไปได้หลายหมื่น (เดินทางกลับใช้งบของเหล่านักศึกษากันเองครับ ไม่ต้องกังวลใดใดกับงบแผ่นดิน)

             ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อครับ  บรรดานักศึกษาทั้งหลายกว่า 60 คน ไม่ได้นั่งรถไฟมานานกว่า 10 ปี รวมทั้งผมด้วย เมื่อไปถึงหัวลำโพงจึงเก้ๆ กังๆ จะบอกว่าตื่นเต้นก็ไม่ใช่ แปลกใจก็ไม่เชิง เอาเป็นว่า งง ๆ กับสิ่งใหม่ที่เห็นในหัวลำโพง ภายในที่สว่างไสว สะอาดตาและร้านรวงตั้งเป็นสัดส่วน เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย

             แต่...รถไฟยังเก่าเหมือนกัน

             เพื่อไม่ให้บรรดานักศึกษาโข่งต้องทรมานกับการตรากตรำเดินทางราว 11 ชั่วโมง จึงต้องเหมาตู้นอน 2 ตู้และเช่าตู้เฉพาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ 1 ตู้ มีคาราโอเกะและอาหารไว้พร้อมพรัก โดยหวังว่าความสนุกสนานจะช่วยทำให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว

             การเหมาตู้เพื่อร้องเพลงและสังสรรค์แบบนี้ ไม่ต้องห่วงผู้โดยสารอื่นๆ จะเดือดร้อน เพราะตู้ที่ส่งเสียงดังด้วยเสียงเพลงนี้จะอยู่ท้ายขบวนและใช้ตู้นอน 2 ตู้คั่นไว้ หากจะหนวกหูก็ต้องทนกันเองในเหล่านักเรียนที่เดินทาง

             รถออกเวลา 19.30 น.แต่ถึงที่หมายเอาเวลา 8.30 น. ร่วม 13 ชั่วโมง เท่ากับบินจากไทยไปแถวฝรั่งเศสโน่น  ทำให้นึกถึงรถไฟด่วนของจีน ญี่ปุ่นหรือฝรั่งมังค่าทั้งหลาย  ที่ระยะทาง 400 กว่ากิโลเมตรใช้เวลาไม่นานเกินกว่า 2 ชั่วโมงก็ถึง

             ไทยเรา อีกกี่ปีจะได้นั่งกันบ้างหนอ

             อ่านถึงตรงนี้ คงสงกะสัยว่า เดินทางกันไปทำไม คำตอบคือไปดูการจัดการเลือกตั้งซ่อม เพราะพวกเราเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการพัฒนาการเมือง นั่นเอง (ช่วงดูงานจะเล่าในภายหลังตอนต่อๆ ไป)

                    ผมเองร่วมสนุกสนานและร้องรำทำเพลงกับเพื่อนๆ จนเกือบ 1 นาฬิกา ก็ค่อยๆ ย่องหลบไปเข้าที่หลับที่นอน เตียงชั้นล่างที่ติดประตูเข้าออก

                    อื้อฮือ ช่วงหลับเหมือนทำสงครามครับ  เพราะทุกครั้งที่รถจอดหรือมีเพื่อนๆ เข้าห้องน้ำหรือกลับมาเข้านอน ประตูอัตโนมัติจะเปิดดังตึง ปิดดังตึง ทั้งคืน ผมจึงต้องนอนแบบตั้งสติ หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนจนถึงที่หมาย

                    ด้วยภาวะร่างกายที่ทรุดโทรมและอ่อนแออย่างน่าสงสาร

 

หมายเลขบันทึก: 405710เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2010 07:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (57)

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณครูหยุย

;) มาชมบรรยากาศท่านนักเรียนโข่งโดยสารรถไฟโข่ง ๑๑ ชม.  .. นี่ดีนะคะเป็นตู้นอน ถ้าตู้นั่งหลังตรง คงได้ตราตรึงแบบลืมไม่ลงเชียวค่ะ (จะมาชมภาพอีกครั้งนะคะ )

เดี๋ยวนี้รถไฟพัฒนาไปมากเลยนะคะเมื่อเทียบกับอดีต ปูเพิ่งใช้บริการเมื่อไม่นานนี่เองค่ะ เพิ่งทราบว่า รถไฟให้บริการปชช. ฟรี มานาน (แบบที่บ้านไม่มีรถไฟ เลยเพิ่งทราบ ฮา)

สวัสดีค่ะ

เพิ่งทราบค่ะว่ารถไฟไทยมีตู้คาราโอเกะให้ด้วย

ไม่เห็นรูปเลยค่ะ สงสัย G2K กำลังปรับปรุงระบบหรือเปล่า

เรียนครูครับ

ขออนุญาตถือโอกาสตรงนี้เลยนะครับว่า อยากได้รถไฟรางคู่ทั่วประเทศเลยนะครับ ทำอย่างไรดีครับ 120 กว่าปีแล้วนี่ครับ รถไฟไทย

poo ครับ ขอบคุณที่มาให้กำลังใจครับ พัฒนาไปไกลกว่าเดิมแน่ แต่ความเร็วยังช้าเหมือนเดิมครับ

ณัฐรดาครับ เปลี่ยนภาพใหม่สดใสจังครับ ทั้งดวงตา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข

สำหรับตู้คาราโอเกะ เป็นตู้พิเศษที่หากไปเป็นหมู่คณะเช่าได้ครับ สำหรับภาพคงรอจากเพื่อนๆ ที่เขาจะส่งมาภายหลังครับ

คุณโสภณครับ ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ล้วนแต่จำเป็นและไทยล่าไปมากแล้ว ต้องทวงถามจากรัฐบาลทุกรัฐบาลครับว่าเมื่อไหร่จะลงทุนเพื่อการรถไฟไทยเสียที หากมีรถไฟความเร็วสูง ราคาเครื่องบินจะลดฮวบหรือหยุดให้บริการเลยครับ เพราะเร็วใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่า แถมไม่ต้องไปนั่งรอเป็นชั่วโมงด้วย

สวัสดีค่ะ

ได้มโนภาพเห็นบรรยากาศหัวลำโพง ไม่ได้ไปหลายปี....นานแล้วค่ะ....นักเรียนโข่งไปคราวนี้น่าสนุกสนานนะคะ...แล้วจะกลับมาชมบรรยากาศใหม่อีกรอบค่ะ

แวะมาซึมซับบรรยากาศด้วยคนครับ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่ารถไฟมีตู้คาราโอเกะด้วย จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยนั่งจากสุรินทร์ มากับคุณยายเข้ากรุงเทพ แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้นั่งรถไฟอีกเลย

สวัสดีค่ะครูหยุย..

การได้นั่งรถไฟไปกันเป็นหมู่คณะ  ขอบอกว่ามันสนุกจริงๆค่ะ

แต่ละคนแทบจะไม่สนใจคนรอบข้างเลย ( ว่าเขาจะรำคาญแค่ไหน )

แล้วจะรอชมภาพนะคะ...

  • ผมเป็นคนชอบดูหนังจีนกำลังภายใน การฝึกให้ร่างกายแข็งแกร่ง  ช่างคล้ายๆกับคุณครูหยุย เอาร่างกายโทรมๆ ไปทดสอบฝึกฝนกับการนั่งรถไฟไทย เสียจัง..
  • แต่ไม่เห็นครูหยุย บอกถึงผลการฝึกฝน หลังการนั่งรถไฟเสร็จสิ้นเลย ฮ่าๆๆๆ..

มาตายีครับ หัวลำโพงแปลกตาไปมาก คล้ายเมืองนอกในทางที่ดี แต่รถไฟยังต้องพัฒนาอีกมากครับ

Peter P ครับ เท่าที่สอบทานความหลังดู เข้าใจว่ามีมาช่วงนายกทักษิณ ใช้ประชุมครม. แล้วการรถไฟมาปรับปรุงเป็นตู้เฉพาะ บริษัทเอกชนจำนวนไม่น้อยเช่ารถตู้นี้เป็นระยะๆ

krugui ครับ สนุกมาก ใช่แล้วครับ แต่คงไม่รำคาญคนอื่นหรอกครับเพราะมีแต่พวกกันเอง หกาไปร่วมกับขบวนอื่น คงได้หัวแตกแล้วครับ เพราะอึกทึกสิ้นดี

สามสักครับ ช่วงหลังการฝึกฝนจะหาโอกาสเล่าในตอนต่อๆ ไปครับ อดทนอีกนิด ให้ร่างกายฟิตเสียก่อน ฮิฮิ

สวัสดีครับคุณครูหยุย

แวะมาชมนักเรียนรุ่นดึกดำบรรพ์ไปนั่งรถไฟเที่ยวกันครับ แต่ไม่เห็นภาพเห็นแต่มโนภาพ เลยต้องบวกตัวเลขเอาเอง 72 ท่าน นำเอาวัยมารวมกัน.....โอ....ปุนเถ้ากง....ช่วยด้วย....ปาเข้าไป 4320 ปี....ฮิ.ฮิ...

ผมก้ไม่ได้นั่งรถไฟมานานมากแล้ว จำได้ว่านั่งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2538 ตอนไปว่าความที่ชุมพร หลังจากนั้นไม่เคยได้นั่งรถไฟเลยครับ อ่านบันทึกของคุณครูหยุยแล้วเห็นทีต้องหาเหตุไปนั่งรถไฟอีกแล้ว หากใครไม่ปรองดองกันผมจะนั่งรถไฟให้ดู....แฮ....จะรอชมภาพครับ

ขอบพระคุณที่แบ่งปันครับ 

 

สวัสดีค่ะ

ยายคิมเคยนั่งสายยาวที่สุด  ก็สายใต้นี่แหละ และได้โดยสารตู้นอนเป็นครั้งแรก  ก็ตื่นเต้นเหมือนค่ะ

ชาวฝนแปดแดดสี่ครับ คำนวณอายุแล้วก็ประมาณนั้นล่ะครับ แต่ที่เรียกว่ารุ่นดึกดำบรรพ์คงหนักหนาสาหัสเกินไป สำหรับภาพนั้นจะพยายามเร่งนำจากเพื่อนๆ มาลงครับ

ครูคิมครับ นานๆ นอนบนรถไฟทีก็แปลกดี แต่หลายหนก้ไม่ไหวครับเพราะเสียงประตูเปิดปิดนี่ ทรมานยามนอนมากหลายครับ

สวัสดีครับครู หยุย

ผมเดินทางขึ้นลง กทม.กับรถไฟเป็นประจำ ถ้าไม่เป็นช่วงเทศกาลก็จะนั่งรวมกับประชาชนชั้นสาม

นานๆครั้งถึงจะโดยสารรถนอน ทั้งๆทีผมมีบัตรเดินทางรถไฟครึ่งราคา(บัตรผู้บำเพ็ญประโยชย์กับสังคม)

ในชั้นสามได้พวก ได้มิตร ได้เห็นวิถี ได้เห็นอาชีพที่หลากหลายบนรถไฟ

ได้เห็นอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้เห็นทศกัน ครบเครื่องในรถไฟชั้นสาม ชอบครับ

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้ว รู้สึกเหนื่อยไปด้วย สามสิบปีก่อนเคยขึ้นรถไฟจากชุมพรไปกรุงเทพฯ เจอเหตุการณ์แปลกๆ มากมาย เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใจเลย มีคนเอาของมาวางใกล้ๆ เรา แต่ไปยืนไกลๆ แล้วก็คอยจ้องดูแต่พอมีตำรวจมาเดินตรวจ ไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ เราเองก็เพิ่งขึ้นรถไฟครั้งแรก ไม่เคยพบเคยเจอ งงดี อ้อ! แล้วก็แน่นมากๆ ก็ดีนะคะอาจารย์ ทำให้นึกถึงความหลัง ถ้าถามว่าจะลองใช้บริการอีกไหม ต้องคิดดูก่อน(คิดนานๆ ด้วย)

ศิริวรรณ

ลุงวอญ่าครับ ต้องขื่นชมความวิริยะมากเลยครับ ผมคงต้องฝึกความอดทนอีกมากกว่าจะทำได้แบบนี้

ศิริวรรณครับ เจตนาการเขียนครั้งนี้ ไม่ได้หมายรวมถึงการไม่สนับสนุนให้ใช้บริการนะครับ รถไฟเป็นสิ่งจำเป็นมากและทุกประเทศในโลกมีใช้ เพียงแต่ไทยเรานั้นบรรดานักการเมืองไม่มีวิถีคิดเพื่อประชาชนในการสนับสนุนให้มีรถไฟดีดีใช้เลย รถไฟเราจึงไม่เจริญขึ้นตามสมัยเสียที

สวัสดีค่ะครูหยุย

ไม่ได้นั่งรถไฟมานานพอสมควรแล้วค่ะ ส่วนมากไปรถทัวร์เพราะถึงเร็วกว่า 555

เคยนั่งรถไฟชั้นสามสายอีสานจากสระบุรีกลับอุบลค่ะ เค้าขายไก่ย่างกันทั้งคืนเลย ตีสอง ตีสามก็ขาย...เลยสงสัยว่า คนเรานี่กินกันตลอดเลยหรือไงนะ น่าจะหลับนอนกันบ้าง

เป็นบรรยากาศที่จำได้ไม่ลืมเลยล่ะค่ะ ยืนบนรถไฟห้าชั่วโมงเพราะไม่มีที่นั่ง เมื่อยมากจนต้องนั่งบนทางเดิน 555

blue star ครับ ผมเป็นคนสุรินทร์ นั่งรถไฟมาตลอดตั้งแต่เด็กจนจบปริญญา จากนั้นก็นั่งเรื่อยมาจนอายุย่าง 30 ปี ก็ละห่างไป แต่ยังจำบรรยากาศดังที่ได้เล่ามาให้ฟังได้ครับ ที่ฉงนใจคือทำไมรถไฟไทยพัฒนาไปได้ไม่ดีนัก ลงท้ายก็พบว่าการเมืองไม่สนับสนุนงบประมาณมาพัฒนา งบจึงน้อยมาก ทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้แล

สวัสดีค่ะ

มาชมภาพอีกครั้งค่ะ

เลยได้เห็นรถไฟไทย ดูทันสมัยดีค่ะ

  • ความจริงรถไฟไทยก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก
  • โดยเฉพาะตู้นอนแอร์ชั้น 2 (ยังไม่เคยใช้บริการนอนแอร์ชั้น 1) ความสะดวกสบายและความปลอดภัย (สำหรับสุภาพสตรี ที่เดินทางคนเดียว) ก็ใช้ได้ดีพอสมควร (ยกเว้นห้องน้ำ ยังมีกลิ่นแบบไทย ๆ)
  • ถ้าไปเชียงใหม่ เราเลือกขบวนนครพิงค์ รถจะใหม่ สอาด และภายนอกรถจะดูสวยงาม ชาวต่างชาติใช้กันเยอะ โดยเฉพาะในหน้าหนาวแบบนี้
  • ส่วนใหญ่ใช้บริการในตอนกลางคืนเพื่อประหยัดเวลาเดินทาง
  • ครูหยุยโชคร้ายที่ได้เตียงนอนติดประตู ถ้าเป็นเตียงอื่น ที่อยู่ตรงกลาง ๆ ตู้ คงนอนหลับสบายกว่านี้
  • แต่สงสัยที่ครูหยุยนอนไม่หลับ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากคาราโอเกะน้อยไปหรือเปล่า เพลงที่เตรียมไปยังใช้ไม่หมด

 

ณัฐรดาครับ มาเยี่ยมแต่เช้าเชียว ภาพรถไฟนั้น เป็นภาพลำลองของอนาคตที่หวังว่ารถไฟไทยจะมีใช้ครับ

ใยไหมครับ ความจริงสิ่งที่ผมเขียนนั้น ไม่ได้มองว่ารถไฟไทยแย่นักนะครับ เพียงแต่ยังแล่นช้าและนอนติดประตู ทำให้ไม่หลับเท่านั้นเอง อีกประการคือมีโอกาสนั่งรถไฟจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน สวิสฯ เมื่อนำมาเทียบเคียงแล้ว จึงน่าสงสารรถไฟไทยที่ไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร

สวัสดีคะ..ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ

ติดตามผลงานของท่านมาเรื่อยๆคะ

อ้าว @_@

คิดว่าของจริงค่ะ

เพิ่งดูข่าวจากทีวีไทย กลุ่มอาสาสมัคร 1,500 ไมล์ ช่วยกันพายเรือคายัคเพื่อเอาข้าวของไปบรรเทาทุกข์ที่อยุธยา และกำลังจะไปช่วยที่หาดใหญ่แล้วปลื้มใจค่ะ

คนไทยไม่ทิ้งกัน ใครทำอะไรได้ก็ทำค่ะ

ศิษย์สินธุครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนเช่นกันนะครับ แล้วจะหมั่นไปติดตามเรื่องราวจากอินเดียนะครับ

ณัฐรดาครับ มีอารมณ์ขันไม่เบาเลย หากรถไฟไทยได้ดังภาพล่ะก็ ผมว่าเครื่องบินเจ้งกันเป็นแถว

สำหรับข่าวการช่เยหลือน้ำท่วมนั้น น่าชื่นชมครับกับน้ำใจทุกฝ่ายที่ร่วมกัน

อ้อ..วันงาน g2k ที่เซ็นทรัล คุณณัฐรดาไปหรือเปล่าครับ หากไปคงได้พบกันที่โซนเขาปันปัน...

  • อย่าลืมนั่งรถไฟไทยกลับบ้านบ้างเน้อ

เพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาชวนนั่งรถไฟกลับบ้าน น่าสนใจเนอะ

สวัสดีค่ะ

ขอโทษนะคะ ถ้าทำให้เข้าใจผิด การไม่ใช้บริการรถไฟ ก็เพราะความกลัวในความประทับใจครั้งแรกมากกว่า เพราะต่อมาก็ไม่ได้ใช้อีก สมัยที่ใช้บริการ บ้านอยู่ภูเก็ต ไม่มีรถไฟหรอกค่ะ แต่มาทำงานที่ระนอง เลยไปใช้บริการที่ชุมพร เพราะอยากมีประสบการณ์การใช้รถไฟ ขอโทษมากๆ ถ้าจะทำให้คนกลัวการใช้รถไฟ คงไม่หรอกนะคะ

เป็นการเดินทางที่สนุกและตื่นเต้นนะคะอาจารย์ รู้สึกชีวิตมันมีสีสันดีนะคะ

คุณศิริวรรณมีความรู้สึกเหมือนผมคือ ไม่ได้ต้องการให้รู้สึกไม่ดีกับรถไฟ เพียงแต่เล่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาซึ่งมุ่งหมายว่าจะได้รับการใส่ใจจากฝ่ายการเมืองในการทำให้รถไฟไทยดีขึ้น เรารู้สึกตรงกันครับ

ครูนารถครับ การไปเป็นกลุ่มใหญ่ มีตู้เฉพาะ ทุกอย่างพร้อมสรรพ ความสนุกก็ไล่ความเบื่อหน่ายและเวลาไปได้อย่างรวดเร็ว ส่วนความตื่นเต้นนั้นคงมีน้อย เพราะอายุมากแล้ว แฮะๆๆๆ

ตามมาอ่าน และขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่blog จ้า

ไม่เคยขึ้นรถไฟเหมือนกัน ที่จังหวัดไม่มีรถไฟโดยสารผ่าน

ตอนไปเรียนโดนเพื่อนล้อเหมือนกันว่าขึ้นรถไฟไม่เป็น

ตอนนี้ลูกคงโดนล้อว่าขึ้นรถไฟฟ้าไม่เป็น

ขอบคุณที่ให้เกียรติจ้า

จันทร์ยิ้มครับ ผมพยายามพลิกกลับไปดูประวัติเพื่อต้องการรู้ว่าอยู่จังหวัดใดหนอ ทำไมไม่มีรถไฟผ่าน การได้นั่งรถไฟนั้นที่สุดตื่นเต้นมากคือตอนผมเด็กๆ มีสองรูปแบบคือแอบนั่งรถไฟฟรีและขึ้นนั่งเสี่ยงภัยบนตู้รถไฟ ยังจำได้ดีติดใจถึงปัจจุบัน

รู้สึกตื่นเต้น เหมือนได้ขึ้นเอง

ที่บ้านกระติกก็ไม่มีรถไฟเหมือนกัน  เขาบอกว่า กลัวรถไปตกราง เพราะมันต้องวิ่งขึ้น ลง โค้ง ตามภูเขา แล้วล้อจะหลุด  สรุปคือ ไม่คุ้มกับการลงทุน

พึ่งมาขึ้นครั้งแรก ตอนที่พาลูกทดลองนั่ง  แล้วลูกก็บอกว่า เข็ดแล้ว เพราะจอดทุกที่ รวมทั้งที่ไม่ใช่สถานีด้วย

ผ่านไป กว่า 10 ปี ไม่รู้ว่ายังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ค่ะ

กระติกครับ การรถไฟไทยพัฒนาครับ แต่พัฒนาไปช้า ที่เห็นเปลี่ยนแปลงคือสถานีต่างๆ พัฒนาทันสมัยขึ้น หัวรถจักรรุ่นใหม่มีขึ้นบ้าง แต่มีไม่กี่หัวจักร ที่ไม่ได้สังเกตคือตอนถ่ายนั้น ยังปล่อยลงมาตามรางรถไฟหรือมีถังรองรับไว้ ไม่แน่ใจครับ

ผมอยู่ปัตตานี นั่งรถไฟชั้น 3 ไปเรียนหนังสือที่ กทม. จนเจ็บหลังแล้งครับ 16-18 ชม. ต้องปูหนังสือพิมพ์มุดเข้าไปนอนใต้เก้าอี้ ตื่นต่อเมื่อพนักงานมากวาดกระดาษหนังสือพิมพ์ประมาณ 7-8 โมงเช้า โน่นแหละ สมัยนั้นค่าโดยสารรถเร็ว ปัตตานี-หัวลำโพง 130 บาท ครับ เดี๋ยวนี้ไม่ไหวแล้วครับ รถฟรีก็ไม่ไหว

คุณชนันครับ สมัยเป็นวัยรุ่นหรือเริ่มหนุ่ม อะไรๆ ก็ไหว โหนทั้งคืนก็ไหว นั่งตรงรอยต่อระหว่างตู้รถก็ไหว ปูนอนใต้เก้าอี้ก็ไหว นั่งบนหลังคาตู้รถไฟก็กล้า เดี๋ยวนี้ที่กล่าวมาทั้งหมด หมดไปตามวัยแล้วครับ แฮะๆๆๆ

  • สวัสดีคะ  ครูหยุย
  • ตามมาเรียนรู้ "ระหว่างการเดินทาง" คะ
  • เรื่องเล็กๆ ที่จริงๆ ควรจะได้รับความสนใจในการปรับปรุงการคมนาคมขนส่งของไทยให้ดีขึ้นกว่านี้
  • การเดินทางครั้งนี้ จะว่าไปก็สะดวกสบายน้อยหน่อย สำหรับคนชนชั้นกลาง ที่สามารถเลือกใช้ริการสาธารณะได้
  • แต่ถ้ากลับไปมองดูการเดินทางของคนที่ต้องใช้บริการรถไฟชั้น 3 ในเมืองไทยเราก็ต้องบอกว่า ออกจะแย่... กับการเดินทางระยะยาวแบบนี้
  • และถ้าไปสายตะวันออกเฉียงเหนือ สายกรุงเทพ-สุรินทร์-อุบล ยังต้องน่าศึกษาว่า...(ซึ่งเป็นสายที่น่าปรับปรุงมากที่สุดในทุกเส้นทาง)
  • บริการรถไฟสาธารณะสำหรับคนไทย...น่าจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ได้มากกว่านี้...
  • ??? 
  • ...โดยส่วนตัว ก็ชอบใช้บริการของ "รถไฟไทย" คะ ช้าๆ แต่ว่าได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนสองริมทาง... (แต่ก็เฉพาะกรณีที่ไม่รีบเร่ง...เท่านั้นจริงๆ)
  • ^_^

PoOmDeE ครับ รถไฟสายอีสานใต้ กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี ผมนั่งบ่อยมากในช่วงเด็กถึงหนุ่ม เพระผมเป็นคนสุรินทร์

คนภาคอื่นเขาจะแปลกใจมากว่า ทำไมเลขที่นั่งที่กำหนดไว้ในตั๋วชั้นสามถึงมีคนอื่นนั่งเต็มก่อนแล้ว เป็นปัญหามาโดยตลอด รถไฟแน่นมากจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็ยังพัฒนาน้อย จะดีหน่อยก็คือดีเซลรางปรับอากาศ สะอาดและแล่นเร็วกกว่ารถไฟปกติราวชั่วโมง ต้องใช้เวลาอีกนานครับ คงต้องอดทนและพวกเราชาวอีสานอดทนมานานแล้วครับ

ป้าชอบนั่งรถไฟมากกว่าเครื่องบิน   เพราะไม่ต้องรีบร้อน

แต่ป้าชอบปีนขึ้นไปนอนเตียงบน(ไม่เจียมสังขาร)  เหมือนได้นอนเปล ไม่กระเทือน

หากเลือกนอนเตียงล่างจะได้ยินเสียงของล้อบดกับรางหนวกหูมาก

ป้าพธูครับ หากมีโอกาสนั่งรถไฟอีก จะขอใช้เทคนิคของป้านะครับ นอนเตียงบน กลางๆ ตู้ น่าจะดีครับ

นั่งรถไฟสนุกดีค่ะ นั่งตั้งแต่สมัยเรียนจากยะลาไปกรุงเทพ ต่อไปกรุงเทพ-เชียงใหม่ เหนื่อยมากๆ แต่ก็สนุกไปอีกแบบ

oreo มีความพยายามมากครับ จากใต้สุดไปเหนือสุด ยกนิ้วให้เลยครับ

พูดถึง รถไฟ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เพราะตอนสมัครทหารเรือ แล้วการเดินทางเริ่มต้นของภาคใต้ไปที่ สัตหีบนั้น

ต้องไปทางรถไฟ โบกี้เก่าๆ ที่นั้นเปนตัว L การเดินทางสุดแสนจะยาวนาน

รถไฟถึงท่ารถที่ทุ่งสง ตอน 20.30 น. กว่าจะถึงที่หมายก็ราวๆ 15.00 น.

ไม่ต้องบรรยายอะไรมาก ว่ามันเหนื่อยสุดๆ

แต่พอนึกย้อนไป เท่าที่รู้สึกลำบากมากที่สุดช่วงเป็นทหาร ก็คือวันเดินทางทางรถไฟนี้แหล่ะ

ปาปอนด์ครับ ความลำบากคราวนั้น อย่างน้อยก็ช่วยให้จดจำไว้ในความทรงจำ คนรุ่นหลังจำนวนมากไม่มีโอกาสนั่งรถไฟขบวนนั้นครับ

น่าสนุกนะคะ แต่ก็ไม่เคยไปหรอกค่ะสุราษฎร์ธานี รู้แต่ว่ามันไกลอ่ะค่ะ มีรุ่นพี่ที่เรียนในรุ่นเดียวกันทุกๆวันศุกร์จะต้องนั่งรถมากรุงเทพ

แล้วทุกๆวันอาทิตย์เย็นๆ ก็ต้องนั่งรถกลับหรือขับรถกลับกลับสุราษฎร์ธานี ไปๆกลับๆสุราษฎร์ธานี - กรุงเทพ ทุกอาทิตย์ เก่งมั้ยค่ะ

นี่ล่ะค่ะ ไกลแค่ไหนก็คงไม่ใช่ อุปสรรค ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่แท้จริง ใช่มั้ยค่ะอาจารย์

ท่านเดินทางบ่อยๆ ขอให้รักษาสุขภาพด้วยครับ

ต้นแก้วครับ จะว่าไกลก็ไกล ไม่ไกลก็ไม่ไกล สำคัญคือเดินทางด้วยอะไร รถไฟช้าสุด รองลงมาคือรถปรับอากาศ เร็วหน่อยรถส่วนตัว เร็วสุดคือเครื่องบิน แต่สุดท้ายก็กลับมาที่คำพูดของต้นแก้ว "ไกลแค่ไหนไม่ใช่อุปสรรค ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่แท้จริง" ใช่เลยครับ

นายออมสิน วัฒนะรัตน์(ต้อง)

ขอร่วมแสดงความเห็นเรื่องรถไฟกับครูหยุยหน่อย

รถไฟสายอิสานใต้นั้น เคยใช้บริการมาตั้งแต่เล็ก เพราะจัดว่าเป็นการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด เคยยืนตั้งแต่หัวลำโพง จนถึงจังหวัดสุรินทร์ เคยปูกระดาษหนังสือพิมพ์นั่งนอนตรงที่ว่างอ่างล้างหน้า หรือแม้กระทั่งตรงบันไดก็เคย รถไฟสายนี้มีประชาชนใช้บริการมากที่สุด แต่ทำไมการรถไฟจึงให้ความสำคัญปรับปรุงน้อยมาก เคยเดินทางรถไฟสายเหนือ,สายใต้ ในสายตาคนอิืสานแล้ว จัดว่าหรูทีเดียวทั้งที่ ผู้โดยสาร น้อยกว่า เมื่อไหร่หนอ การรถไฟจะเอาใจใส่สายอิสานใต้บ้าง ไม่ต้องถึงขนาดเร็วมาก เพียงแต่ขอให้สะอาด และสบายคนอิสานมักน้อย ก็พอใจแล้ว

จะว่าไปส่วนดี ก็ยังพอมี เพราะนั่งรถไฟนั้นต้องทำใจ ถึงก็ชั่ง ไม่ถึงก็ชั่ง ชีวิตคนไทยจำนวนมากผูกพันกับรถไฟไทยมาช้านาน แม่ค้าขายไก่ย่าง,ข้าวเหนียว เช่น ที่อำเภอห้วยทับทัน ศรีสะเกษ จนกลายเป็นอาชีพสร้างรายได้มหาศาลในทุกวัน,พ่อค้าขายของเบ็ดเตล็ด ซึ่งศิลปินตลกนำไปสะท้อนเชิงขบขัน ก็เป็นสภาพชีวิตคนไทยจริงๆที่มีมานาน หรือ เช่นสถานีรถไฟหัวหิน เป็นสถานที่เก่าแก่สวยงาม ห่อหมกใบตอง,อาหารการกินต่างๆตามสถานีรถไฟ ล้วนเป็นของเก่าของดีทั้งสิ้น สิ่งดีๆเหล่านี้ ก็อยากให้คงอยู่และส่งเสริมกันต่อไปด้วย

ออมสินครับ จะนำเรื่องนี้ส่งต่อไปยังการรถไฟโดยเร็ว ให้พัฒนาสายอีสานใต้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ นำเสนอมานั้น เห็นด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท