อิ่มใจจังเลยค่ะ ^^

สวัสดีค่ะ จริงๆหนึ่งมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะนำมาเขียนบันทึก แต่เรื่องนี้ขอลัดคิวเรื่องอื่นๆซักนิดละกันนะคะ

เมื่อวันพุธ (27/10/53) ที่ผ่านมาระหว่างที่หนึ่งซักประวัติคัดกรองผู้ป่วยอยู่นั้น (วันนั้นผู้ป่วยที่มารอตรวจมีจำนวนมากมายจริงๆค่ะ) หนึ่งสังเกตเห็นคุณยายท่านนึงนั่งมองมาเหมือนรอคอยว่าจะถึงคิวเรียกซักประวัติรึยัง ประมาณนั้นค่ะ รอแบบที่แตกต่างจากผู้ป่วยรายอื่นคือนั่งจ้องมองมาที่เคาท์เตอร์พยาบาล และอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ โดยข้างๆกันนั้นก็มีญาติ(หลานสาว)นั่งอยู่ด้วย

เมื่อถึงคิวคุณยายปุ๊บ คุณยายรีบบอกหนึ่งทันทีค่ะ ว่า "คุณหมอ(พยาบาลค่ะ อิอิ)จำยายได้มั้ย" หนึ่งก็บอกว่า "จำได้สิคะคุณยาย" (จำได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่เคยมาฉายแสงครบคอร์สไปแล้วค่ะ) แล้วหนึ่งก็ซักประวัติคุณยายต่อไปเรื่อยๆ ถามคุณยายเกี่ยวกับอาการเมื่อกลับไปอยู่บ้าน คุณยายก็ตอบว่าสบายดีทุกอย่าง หนึ่งก็ถามคำถามสุดท้ายเรื่องการกินยาโรคประจำตัว และการแพ้ยา (คุณยายมีประวัติเป็นเบาหวานมา 4 ปีค่ะ) พอถึงตรงนี้คุณยายยิ้มกว้างเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพรอยยิ้มคุณยายเอาไว้ คุณยายบอกหนึ่งว่าตอนนี้คุณยายไม่ได้กินยาเบาหวานมา 3 เดือนแล้วค่ะ หนึ่งก็ตกใจ ทำไมคุณยายไม่กินยาต่อเนื่อง คุณยายเลยเอาสมุดประจำตัวโรคเบาหวานมาอวดค่ะ ว่าคุณยายสามารถคุมน้ำตาลได้ 3 - 4 เดือนมานี้น้ำตาลอยู่ในช่วง 91 - 114 เท่านั้นค่ะ ทำให้คุณหมองดยาเบาหวานไป และนัดเจาะน้ำตาลในเลือดอีกเดือนหน้า

หนึ่งดีใจกับคุณยายจริงๆค่ะที่สามารถควบคุมน้ำตาลได้จนไม่ต้องกินยา (แต่ก็ยังต้องคุมอาหารต่อไปนะคะ) คุณยายลุกขึ้นมาจับมือหนึ่งแล้วบอกว่าขอบคุณคุณหมอมากๆเลย หนึ่งก็งง ขอบคุณหนึ่งทำไม ญาติเลยบอกว่า ตอนมาฉายแสงคุณยายได้มาฝึกโยคะกับหนึ่งที่ OPDรังสี บ่อยๆ (บันทึกนี้ค่ะคลิกเลย => โยคะอาสนะลดความวิตกกังวล) และคุณยายได้คู่มือจาก OPDรังสี กลับบ้านไปด้วย ไปสอนให้หลานๆฝึก และตัวคุณยายเองก็ฝึกทุกวันเลยค่ะ วันละ 10 นาที ร่วมกับการควบคุมอาหาร คุณยายบอกว่าเป็นเพราะคุณยายได้ฝึกโยคะแน่ๆเลยที่ทำให้คุณยายควบคุมน้ำตาลในเลือดได้

จากเรื่องราวของคุณยายที่เล่ามา หนึ่งคิดว่าน้ำตาลในเลือดคุณยายลดลงจนอยู่ในระดับปกติได้นั้น เป็นเพราะการปฏิบัติตัวของคุณยายเอง มีทั้งการออกกำลังกายเป็นประจำ การควบคุมอาหาร และเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมมีประโยชน์ มีกำลังใจ สุขภาพดีทั้งกายและใจ มีญาติๆที่คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทุกอย่างที่กล่าวมาช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเราได้ มีส่วนทำให้คุณยายมีสุขภาพดีแบบนี้ค่ะ นี่ขนาดคุณยายเป็นมะเร็งเต้านมผ่านการรักษา ทั้งผ่าตัด เคมีบำบัด และรังสีรักษามาแล้วด้วย เป็นเบาหวานด้วยนะคะ ยังสดชื่น แข็งแรงได้ขนาดนี้เลย ยินดีด้วยกับคุณยายและครอบครัวคุณยายค่ะ ผู้ป่วยท่านอื่นๆ หรือไม่ป่วยก็ตาม หากตอนนี้รู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง หรือกำลังเผชิญกับปัญหาใดๆอยู่ก็ตาม หนึ่งขอเป็นกำลังใจให้สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดีนะคะ

ไม่มียาตัวไหนจะวิเศษเท่ายาใจนะคะ^^ (ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว)

ไม่ว่าจะเป็นผลจากโยคะหรือไม่ แต่หนึ่งก็รู้สึกดีมากๆที่มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยและญาติมีความสุขแบบนี้ค่ะ

ขอบคุณคุณยายและญาติมากๆเลยค่ะ หนึ่งเองอดอมยิ้ม ปลื้มใจ อิ่มใจ ไปทั้งวันไม่ได้จริงๆค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย สุวิญญา
ใน การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

คำสำคัญ (Tags): #สุขใจ

หมายเลขบันทึก: 405456เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2010 14:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน