สุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง


คนเรานี่ล่ะนะ ให้ยากดีมีจน จะต่ำต้อยหรือมียศถาบรรดาศักดิ์อะไรกันแค่ไหน ดีชั่วอย่างไร ก็ขอให้มีสุขภาพกายดีเถอะ ความสุขก็จะตามมา.....

           หายหน้าไปหลายวัน เพราะมีปัญหารำคาญเรื่องสุขภาพ ทำให้หงุดหงิดไม่ค่อยมีแก่ใจจะทำอะไร ใครที่เคยมีอาการแบบนี้คงเข้าใจได้ดี อยู่ ๆ เราจะมีอาการเวียนศีรษะ ยิ่งเวลาที่เราเปลี่ยนอริยาบทจากนั่งเป็นนอน หรือนอนอยู่แล้วลุกขึ้นนั่ง จะเกิดอาการที่เราเรียกว่า "บ้านหมุน" ถ้าเป็นมาก ๆ เราจะรู้สึกโคลงเคลงเหมือนอยู่บนเรือ
          
          ตัวเองเคยเกิดอาการที่เป็นมากเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ครั้งแรกไปพบแพทย์ด้านประสาทเพราะเห็นว่าเป็นอาการเวียนศีรษะ และคลื่นไส้ ซึ่งเป็นคลินิคใกล้บ้าน ผ่านไปเกือบเดือน เปลี่ยนยาไปสองครั้ง ก็ไม่ดีขึ้น มีคนแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นช่วงคลินิคพิเศษนอกเวลา เขาบอกว่ามีญาติที่มีอาการแบบนี้ ไปรักษาแล้วหาย

          วันที่ 27 ธันวาคม 2548 ดิฉันไปถึงโรงพยาบาลประมาณสี่โมงเย็น ขณะที่ยืนกรอกข้อมูลเพื่อทำบัตรประจำตัวผู้ป่วยอยู่นั้น มีคุณพยาบาลคนหนึ่งได้เข้ามาทักทายและซักถามอาการ ประวัติของการรักษาก่อนที่จะมาโรงพยาบาลแห่งนี้ 

          เมื่อเธอทราบว่าดิฉันมีอาการแบบนี้มาร่วมเดือนแล้ว รักษาที่คลินิคใกล้บ้านแล้วไม่ได้ผล จึงต้องเดินทางจากสุพรรณบุรีเข้ามากรุงเทพฯในเย็นวันนั้น จึงได้แนะนำให้ดิฉันแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรว่าขอเข้ารับการรักษากับ นายแพทย์ประสิทธิ์  ศรีสมบูรณ์ ซึ่งคุณพยาบาลคนนั้นเรียกว่า อาจารย์หมอ (และมาทราบรายละเอียดอีกครั้งจากคุณพยาบาลคนเดิมหลังออกจากห้องตรวจแล้วว่า ขณะนี้ท่านไม่ค่อยลงตรวจในเวลาแล้ว เพราะท่านต้องสอนคุณหมอ และจะลงตรวจในคลินิคนอกเวลาราชการเฉพาะวันอังคารเท่านั้น และท่านเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคนี้มาก ๆ ซึ่งนับว่าดิฉันโชคดีมากที่มาพบท่านในวันนี้)

            จากผลการรักษาซึ่งอาจารย์หมอให้ยาไปทานครั้งแรกประมาณสองสัปดาห์ อาการนั้นดีขึ้นมากไม่โคลงเคลงอยู่ตลอดเวลาแล้ว แต่ยังมีอาการเวลาที่เปลี่ยนอริยาบทจากนั่งเป็นนอน....หรือนอนเป็นนั่ง....หรือจากตะแคงซ้ายไปขวา.....ขวาไปซ้าย.....ทำนองนี้  ดิฉันจึงไปพบอาจารย์หมออีกครั้งท่านให้ยามาทานซ้ำอีกสองสัปดาห์ เหลืออาการนิดหน่อยเท่านั้นดิฉันจึงไม่ได้ไปโรงพยาบาลอีก

          จากการที่ดิฉันสงสัยในอาการของตัวเอง จึงได้ซักถามท่านอาจารย์หมอ ทำให้ทราบว่าอาการอย่างนี้ ที่ใคร ๆ ต่างพากันเรียกว่า "โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน" เป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีโรคนี้ในโลกนี้หรอก ให้ดิฉันเรียกว่าเป็น "โรคเกี่ยวกับหูชั้นใน" สาเหตุนั้นไม่แน่ชัด ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่....เมื่อไม่ทราบสาเหตุ แพทย์ก็ยังไม่รู้วิธีรักษาอาการให้หายขาด จะรักษาได้ตามอาการ บอกไม่ได้ว่าทานยานี้แล้วจะดีขึ้นอีกนานสักเท่าไร อาการจะกลับมาอีก อาจเป็นปี....เป็นเดือน...หรือสองสามวันผ่านไปก็เป็นอีกได้....

          ความจริงดิฉันอยากจะถามมากกว่านี้ แต่เกรงใจที่มีคนไข้คนอื่น ๆ รอคิวอยู่.....ต้องขอขอบพระคุณ "ท่านอาจารย์หมอ" เป็นอย่างมากค่ะ....รวมถึงต้องขอบคุณ "คุณพยาบาล" ด้วยค่ะ (เสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อเธอไว้ เพราะตอนนั้นกำลังโคลงเคลง) ที่ช่วยให้ดิฉันดีขึ้นในคราวนั้น

          หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้ว ดิฉันก็ยังมีอาการประปราย  แต่ 3-4 วันมานี้อยู่ ๆ ปวดศีรษะบีบ ตามมาด้วยเวียนศีรษะ คลื่นไส้ แต่ยังไม่โคลงเคลง สังเกตตัวเองว่าอาการมักจะเกิดเมื่อเราไม่ค่อยได้พักผ่อน โดยเฉพาะเครียด....และน่าจะเป็นเพราะขาดการออกกำลังกายด้วย (ดิฉันนิสัยไม่ดี ไม่ชอบออกกำลังกาย) ขณะที่เขียนบันทึกอยู่นี้ก็ยังมีอาการ...รำคาญค่ะ

          "คนเรานี่ล่ะนะ ให้ยากดีมีจน จะต่ำต้อยหรือมียศถาบรรดาศักดิ์อะไรกันแค่ไหน ดีชั่วอย่างไร ก็ขอให้มีสุขภาพกายดีเถอะ ความสุขก็จะตามมา....ตอนนี้รู้สึกอย่างนี้จริง ๆ...."

                   

หมายเลขบันทึก: 39658เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2006 16:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 13:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • น่ากลัวเหมือนกันนะครับ
  • การไม่เป็นโรค เป็นลาภอันประเสริฐครับ
  • รออ่านเรื่องของอาจารย์อีกครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท