เล่าเรื่องการทำงาน


ทนกับกลิ่นที่รุนแรงแต่เราสามารถทำให้คุณลุงไม่ต้องเสียนิ้วนางไปอีก 1 นิ้ว

    สวัสดีคะ หลังจากเปิดดำเนินการคลินิกสุขภาพเท้ามาได้ 2 เดือนกว่า ๆ เราก็ทำงานไปตามภาระกิจหน้าที่  อะ อะ...อ่านดูไม่ตื่นเต้นเร้าใจเลยใช่ปละ แต่เราทำ ๆ ไปก็ได้รับการชักชวนจากผู้มารับบริการว่าน่าจะไปเปิดร้านเสริมสวยบ้าง เปิดสปาเท้าบ้าง ดิฉันก็รู้สึกตัวพองขึ้นมาทั้ง ๆ ที่เดิมก็ตัวพองอยู่แล้ว ( อิ..อิ..) แต่คิด ๆ ไปแล้วเรา 2 คนที่ทำงานอยู่ในคลินิกด้วยกันคนเรียกเราว่าเป็นเลข 10 เลยกลัวคนที่มาจะเรียกร้านของเราว่าร้านเลข 10 นะซิ เลยตั้งยับยั้งไว้ก่อน  แล้วมีเรื่องที่เราไม่ทราบว่าจะเศร้าหรือขำดีนะคะ เรื่องมีอยู่ว่ามีคุณป้าท่านหนึ่งเรานัดมาขูดหนังหนาตาปลาแล้วคุณป้าก็มาด้วยหน้าตาอิดโรย เราเห็นแล้วตกใจถามคุณป้าว่าเป็นอะไรไป คุณป้าบอกว่า เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนสักงีบเลย ฉันกลัวนะหมอ ( อยู่พิษณุโลกเราเป็นหมอกันทุกคน ) กลัวว่าจะเจ็บ เลือดจะออกแล้วกลับบ้านไม่ได้ คนข้างบ้านเค้าบอกว่าหมอจะมีดมากรีดมาตัดที่เท้า ฉันก็เลยกลัวคิดมันทั้งคืนเลยหมอ เราเลยเศร้าใจว่าทำความเครียดให้คุณป้า แต่คุณป้าก็น่ารักมาก ๆ เลยขนาดกลัวมากขนาดนี้ยังอุตสาห์มาตามนัด พอถามความสมัครใจอีกครั้งว่าคุณป้าจะยินยอมให้ทำหรือเปล่าคุณป้าก็ " โอเคนะคะ " เราก็เลยเริ่มปฏิบัติการให้  ทำไปได้สัก 10 นาทีก็เริ่มมีเสียงเอฟเฟกต์เกิดขึ้นดัง " ครืดคราด ๆๆ" จินตนาการเอาเองนะคะว่าเสียงอะไร เรามองหน้ากันแล้วอมยิ้ม พอตื่นขึ้นมาคุณป้าก็ลูบๆคลำๆเท้าตัวเองแล้วบอกว่าเท้าฉันจริงๆหรือหมอ โอ้โห้หมอทำซะสวยเลยเรารู้ภูมิใจนะที่ทำให้คุณป้าท่านนี้มีความสุขกับเท้าของตัวเองได้ แล้วยังมีอีก case ที่เรารับ consult มาจาก ward ศัลยกรรมเป็นคุณลุงเคยถูกตัดนิ้วก้อยเท้าข้างขวามา 2 ปีกว่าแล้วแผลยังไม่หาย และมาครั้งนี้ด้วยแพทย์นัดมาตัดนิ้วก้อยเท้าอีกข้างด้วยเป็นแผลระดับ 3A เราได้รับ consultเรื่องแผลเก่าที่ยังไม่หายส่วนเรื่องแผลใหม่เป็นอะไรที่เกินความสามารถของเราไปแล้ว ( เฮ้อ! เรื่องมันเศร้า ) พอผู้ป่วยถูกส่งมาถึงเราขอบอกว่ากลิ่นนำมาก่อนเลยคะ  พอได้เห็นเท้าขอบอกอีกครั้งว่าเยินมากจริงๆคะและนิ้วนางของข้างที่โดนตัดนิ้วก้อยไปแล้วเริ่มแดงๆลามออกมาจากแผลเก่าถ้าปล่อยทิ้งไว้คงจะลุกลามมากกว่านี้แน่ ๆ  (เริ่มเครียดตามเราแล้วใช่ไหมล่ะ) เราเลยขูดหนังหนาแต่งแผลให้พบว่ามีแผลเป็นหนองด้านใน 2 จุดเราเลยทำแผลให้พร้อมประสานกับward เรื่องการทำแผลและติดตามเยี่ยม หลังจากนั้น 1 สัปดาห์แผลก็แผลดีซึ่งcaseนี้ใช้เวลาทำนานมากๆประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และกลิ่นก็ติดอยู่ในคลินิกนานประมาณ 2สัปดาห์ได้ แต่เรารู้สึกดีมาก ๆ ที่ยอมเสียเวลาในการทำ ทนกับกลิ่นที่รุนแรงแต่เราสามารถทำให้คุณลุงไม่ต้องเสียนิ้วนางไปอีก 1 นิ้ว  นอกจากที่เราทำงานในคลินิกแล้วยังได้จัดการอบรมเจ้าหน้าที่ศูนย์สุขภาพชุมชนอีกด้วย ( ยกตัวเองเป็นอาจารย์ซะเลยค้า )ซึ่งผ่านไปได้ด้วยดี พอถึงเวลาฝึกปฏิบัติเห็นคนที่เข้าฝึกจับด้ามมีดแล้วนึกถึงตัวเองตอนที่ไปฝึกที่ ร.พ.เทพธารินทร์ เพราะทั้งสั่นและเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนกันเล้ยแล้วขูดก็ไม่ได้เนื้อได้หนังอย่างที่พี่ยุวดีและพี่กิ่งเพชร (Trainer ของเราตอนไปฝึกที่เทพธารินทร์ )ว่าเอาไว้อย่างงั้ยอย่างงั้นส่วนคนที่มาเป็นModelก็เป็นเจ้าหน้าที่ของเราเอง จะนอนตัวเกร็งมากแล้วบอกว่าเสียวจริง ๆ นะเธอแต่พอเสร็จแล้วรู้สึกสบายเท้าจริง ๆ ส่วนคนที่เข้าฝึกก็บอกว่ารู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะคัดกรองและทำหัตถการเองที่ชุมชน และหลาย ๆ ที่ได้เริ่มคัดกรองเองที่ศูยน์สุขภาพชุมชนแล้ว พอมีปัญหาก็โทรฯมาปรึกษา        หลังจากได้ฝึกวิทยายุทธได้สักพัก ก็เริ่มติดตาม อ.นพ.นิพัธไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.49 ไป จ.นครสวรรค์ ได้รับมอบหมายให้พูดต่อจาก อ.นพ.นิพัธและคุณรัชดาซึ่งทั้ง 2 ท่านนำเสนอดีมาก ตัวดิฉันก็เกิดอาการเกร็ง เลยพูดซะรัวเร็วมาก จนอ.นพ.นิพัธต้องมาบอกว่าอ้อพูดช้าๆก็ได้ ฟังไม่ทัน ดิฉันเลยต้องตั้งสติใหม่แล้วพูดให้ช้าลงกว่าจะผ่านไปได้ เฮ้อ.... และก็มีมาอีกครั้งเมื่อ 6 ก.ค.49ได้ไปบรรยายกับทีมเดิมนี่แหละค่ะไปที่ ม.นเรศวรเป็นงาน HPH ไปพูดเรื่องเดิมแต่มีเพิ่มเติมเล็กน้อยหลังบรรยายจบน้องที่เป็นพิธีกรชวนทันทีให้ไปเปิดสปาค่ะ แสดงว่าดิฉันนำเสนอดีใช่ไหมคะ (ยอตัวเองซะเลย ฮิ...ฮิ..) และครั้งสำคัญก็มาถึงคือเมื่อวันที่ 14 กค.49 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปนำเสนอทางวิชาการเรื่องการดูแลสุขภาพเท้าผู้ป่วยเบาหวานในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในงานมหกรรมสุขภาพชุมชนจัดที่ ม.นเรศวร การนำเสนอครั้งนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกเครียดและตื่นเต้นมากโดยเฉพาะตอนทดลองนำเสนอให้ อ.นพ.นิพัธฟังทั้ง ๆ ที่อาจารย์ก็ให้คำแนะนำดี้ดีและก็ไม่เคยดุเล้ยแล้วยังให้กำลังใจว่าอ้อต้องทำได้อยู่แล้วแต่เรากลับรู้สึกไปเอง  แล้วยังได้น้อง ๆ ที่แผนกช่วยแนะนำและเป็นกำลังใจให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณทับทิมทั้งให้กำลังใจ ทั้งทำ Power point ให้ด้วย ดิฉันต้องขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ได้กล่าวถึงมานี้เป็นอย่างสูง  พอมาถึงเวลานำเสนอจริงตัวเองก็ให้กำลังใจตัวเองว่า " เอาวะ! อะไรจะเกิดก็เกิดวะ " ( ขอโทษนะคะที่ไม่สุภาพ ) แต่พอจบการนำเสนอครั้งนี้ก็มีคนชวนอีกนะแต่ไม่ใช่ให้เปิดร้านเสริมสวยหรือสปาหรอกนะคะ แต่ชวนให้ไปเปิดคณะตลกแทน อ.นพ.วิโรจน์เป็นคนชวนนะค่ะดิฉันก็เลยอยากชวนอาจารย์ว่าสนใจจะร่วมเป็นสมาชิกด้วยหรือไม่ ฮิ...ฮิ.....จากการนำเสนอครั้งนี้ขอแสดงความยินดีกับคุณสุนันทาและคุณยุคลธรด้วยนะคะที่ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลในการนำเสนอดีเด่นกลับมา ขอบอกว่าน้อง 2 คนนำเสนอได้ดีมาก ๆเลยค่ะ ที่สำคัญอย่าลืมพาพวกพี่ ๆ ไปเลี้ยงล่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะจ๊ะ ในครั้งนี้ขอจบไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ถ้าได้พบอะไรที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ จะเอามาเล่าให้อ่านกันใหม่นะคะ สวัสดีค้า.......  ผู้เล่า...................เปรมสุรีณ์/ทับทิม                             

หมายเลขบันทึก: 39651เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2006 16:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
ดีใจที่งานของคุณอ้อและคุณทับทิมมีความก้าวหน้า เขียนเล่าบ่อยๆ นะคะ

อ้อ เล่าแบบนี้ดีมากนะ ได้บรรยากาศ ความรู้สึกและอารมณ์ ดีใจที่ทำงานอย่างมีความสุข

ได้อ่านบางตอน รู้สึกดีมากเป็นแรงกระตุ้นให้ รพ. เล็ก ๆ อย่างเรา พยายามที่จะทำ(สิ่งดีๆ) ตาม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท