"ตำลึง"....มีทั้ง "ตัวผู้" และ "ตัวเมีย"!!!!!!


"ยอดตำลึง" นี้.....เก็บภาพจาก "พิจิตร" ครับ....ไปทั้งที......ก็เลยขอเก็บผัก....มาฝากท่านผู้อ่านด้วยละคร๊าบ!!!

                            -ผักบ้าน ๆ ที่ไม่ธรรมดาวันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องราวของ "ตำลึง" ผักที่ใคร ๆ ก็รู้จัก......แต่มักไม่รู้ว่า....มันมีทั้ง "ตัวผู้" และ "ตัวเมีย".....ครับ....และวันนี้ผมจะพาท่านไปเก็บยอดตำลึง......และมาดูกันว่า "ตำลึง" ยอดเล็ก ๆ นอกจากจะใช้กินเป็น "ผัก" แล้ว...."ตำลึง" จะมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง......เมื่อพร้อมแล้ว....ตามผมมาได้เลยครับ.....

1."ตำลึง"หรือ "ผักแคบ" ของคนภาคเหนือ เป็นผักพื้นบ้าน ที่หากินได้ทุกพื้นที่ของบ้านเรา.....และถ้าสังเกตให้ดีเราก็จะเห็นตำลึงขึ้นอยู่ทั่ว ๆ ไปตามข้างรั้ว และตามพุ่มไม้ต่าง ๆ ครับ....."ตำลึง" ตามลักษณะทางพฤษศาสตร์เขาบอกไว้ว่า...เป็นไม้เถาเลื้อยที่มีมือจับ  เพื่อเกาะยึดหลัก  ลำเถามีสีเขียว  ใบจะเป็นใบเดี่ยวสลับกันไปตามเถา  ฐานใบรูปหัวใจ  ปลายใบแหลม  ขอบใบหยักแบบฟันเลื่อยตื้น ๆ ใบกว้าง 3-4 เซนติเมตร ครับ......แต่....มีข้อควรระวัง.....ก่อนเก็บควรจะดูให้ดีก่อนนะครับว่าเป็น "ตำลึงตัวผู้" หรือ "ตำลึงตัวเมีย" ผมมีรูปมาให้ดูด้วยครับ.......

2.เขาบอกไว้ว่า "ตำลึงตัวเมีย" กินได้ไม่มีปัญหา.....แต่..."ตำลึงตัวผู้" กินเข้าไปแล้ว...ท้องจะเสีย.....ครับ.....

3.เก็บ "ตำลึง" แล้ว มาดูประโยชน์ทางด้านสมุนไพรกันบ้างดีกว่าครับ....เขาบอกว่า "ตำลึง" เป็นผักที่มีวิตามินเอสูง  มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ  เป็นสมุนไพรที่ใกล้ชิดชาวบ้าน....เพราะตำลึงใช้...เป็นสมุนไพรต่าง ๆ เช่น....

1.ลดอาการคัน อักเสบเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย  โดยนำใบตำลึงสด 2-20 ใบ  ตำให้ละเอียดผสมกับน้ำ  คั้นเอาน้ำ ทาบริเวณที่แสดงอาการ สักพักก็จะหายดี...

2.รักษาโรคเบาหวาน  โดยนำเถาแก่ ๆ ประมาณ 1 กำมือ  ต้มกับน้ำหรือน้ำคั้นจากผลดิบ  ดื่มวันละ 2  ครั้ง เช้า-เย็น  จะสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้....

3.ทำให้ใบหน้าเต่งตึง (หน้าเด้ง) ให้นำยอดตำลึง 1/2  ถ้วย  น้ำผึ้งแท้  1/2  ถ้วย  นำมาผสมกัน  ปั่นให้ละเอียด  พอกหน้า  ทิ้งไว้ 20 นาที  แล้วล้างออก...เขาบอกว่า....หน้าจะเด้ง ๆ  ๆ ๆ ๆ ครับ.....เรื่องราวของ "ตำลึง" ยังมีอีกมากมาย  ติดตามต่อได้ที่นี่ครับ  http://thrai.sci.ku.ac.th/node/1458

                                                    สำหรับวันนีั......

                                                                                      สวัสดีครับ

                                                                                          เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                          15/09/2553

ปล.ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.ku.ac.th ด้วยนะครับ......

หมายเลขบันทึก: 394611เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2010 20:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ขอบคุณค่ะ..สนใจสรรพคุณข้อ 3...ที่บ้านเป็นตำลึงตัวเมียค่ะ..หน้าฝนมีมากมาย ต้องรีบไปจัดการใช้ประโยชน์ค่ะ..

 

อ้าว มีด้วยเหรอค่ะ ผักก็มีตัวผู้ตัวเมียด้วย

ความรู้ใหม่เลย

กอเข้าใจมาตลอดว่า ผักตำลึงที่เรียกตัวเมียคือผักอ่อน

ส่วนที่เรียกตัวพ่อ คือตำลึงที่สงสัยมันแก่มากๆๆๆ

อ๋อ เข้าใจผิดมาตลอดเลยค่ะ

อีกสรรพคุณหนึ่ง...

เคยมีผู้ใหญ่เล่าให้ฟังตอนเด็กๆ แล้วได้ทดลองด้วยตัวเองพบว่า "ตำลึงตัวผู้ ทานแล้วเป็นยาระบาย ถ่ายคล่องเกือบถึงอาการท้องเสียเลยล่ะ" ไม่เชื่อก็ลองดู

คนท้องผูก...ลองได้

สวัสดีค่ะ

ตำลึงยอดอ่อนพร้อมดอกสีขาวก็สวยพออยู่แล้ว เพิ่มลูกตำลึงสีเขียวสีแดงเข้ามาอีกยิ่งสวยมาก มีวิตามินเอสูงมีคุณค่าทางโภชนาการ และยังมีสรรพคุณทางสมุนไพรอีก... แต่ Krudala ยังไม่เคยได้ลองสักที ตำลึงหลังบ้านพอมียอดก็เด็ดมาทำไข่เจียวยอดตำลึงเป็นเมนูจานด่วนของKrudala ค่ะ

                       ขอบคุณเรื่องดีๆที่แบ่งปันค่ะ

สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณกับความรู้ใหม่ค่ะ  และสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ของตำลึงค่ะ  ที่หน้าบ้านนอกรั้วมีมากมายค่ะ เพื่อนบ้านชอบมาเด็ดบ่อย ๆ

  • เห็นยอดตำลึง
  • นึกถึงแกงถ้วยโปรด
  • "แกงจืดใบตำลึง"ค่ะ
  • ทานตอนร้อนๆ ว้าว!!
  • เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม.
  • ตามมาบอกว่า
  • เพิ่งรู้ตอนมาทำงานที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • ทีแรกคิดทั้งตัวผู้และตัวเมียว่าเหมือนกัน
  • เอามาฝากด้วย
  • ทำแกงได้ด้วย
  • ฮ่าๆๆๆ
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/194838

ขอบคุณที่นำความรู้ดีๆมาแบ่งปันค่ะ นึกว่าเป็นคนละสายพันธุ์

เอาหมากข้าวจี่มาฝากค่ะ รสหวานอมเปรี้ยวค่ะ

สวัสดีจ๊ะ

   ภาพผักตำลึงลูกตำลึงสวยจัง  พี่ดาชอบตำลึงทำอาหารที่ชื่อว่า... บะช่อตำลึง..อร่อยมากแต่ต้องเป็นฝีมือของแม่นะ พี่ดาทำทีไรไม่อร่อยเท่าแม่ทำเลย ยิ่งใส่เห็ดฟางด้วยยิ่งอร่อยมากค่ะ  หน้าฝนนี้คนเมืองบอกว่าทานตำลึงต้องระวัง ท้องเสียได้  เรื่องตัวผู้ตัวเมีย ทานแล้วระบายท้องดีหรือท้องเสียนั้น พี่ดาลองแล้วค่ะ ไม่ว่าจะตัวผู้หรือตัวเมีย หากทานครั้งละมากๆในมื้อเดียวนั้น ระบายท้องได้ดีเหมือนกันค่ะ ก็โทษตัวผู้อยู่หลายครั้งคือเตือนผู้อื่นให้ทานแต่ตัวเมีย  ดั้งนั้นใครท้องผูกมากๆ ก็ทานทั้งตัวผู้ตัวเมีย ในมื้อนั้นมากๆก็เรียบนร้อยค่ะ เช่นเดียวกับ ทานยอดมะรุมสดลวกจิ้มน้ำพริก  ไม่ต้องซื้อยาถ่ายเลย ล้างลำไส้ดีนักแล.........

        

               

เข้าใจแล้วครับ ว่าเป็นอย่างไร

ตำลึงหลังบ้านพี่เยอะนะ

มีทั้งตัวผู้ และ ตัวเมีย ปะปนกันเลย

-สวัสดีครับคุณนงนาท,คุณไผ่ไม่มีกอ,คุณไม่แสดงตน ,คุณ KRUDALA,คุณ ครูคิม ,คุณ ครูแป๋ม,อ. ขจิต ฝอยทอง ,คุณ นิดหน่อยเอง,พี่กานดา น้ำมันมะพร้าว,คุณ โสภณ เปียสนิท,และ ครู ป.1....

-คุณนงนาทจะนำสรรพคุณข้อที่ 3 ไปใช้  ได้ผลเป็นอย่างไรแล้ว...อย่าลืมนำมาบอกต่อด้วยนะครับ....

-ยินดีกับการได้แบ่งปันเรื่องราวของ "ตำลึงตัวผู้" และ "ตำลึงตัวเมีย" ที่ทำให้ผู้อ่านหลาย ๆ ท่านได้รู้จัก/แยกเพศได้ ครับ...

-"แกงลูกตำลึงสด ๆ" ที่ อ.ขจิตพาไปดู ...น่าสนใจไม่น้อย.....หากมีโอกาสจะลองทำดูครับ......

-"บะช่อตำลึง" ของพี่กานดา...แต่ต้อง "เป็นฝีมือของแม่" ซะด้วย....นะครับ...ที่อร่อย...จนลืมไม่ลง......

-ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมบันทึกนี้ด้วยนะครับ

-สบายดี....มี.."ผักเพื่อสุขภาพ " มาฝาก....ครับ....

ศิษย์น้อง

ศิษย์พี่ขอตัวผู้หนึ่งตัว ตัวเมียหนึ่งตัวจะเอาไปเลี้ยงไว้จับหนู...คริ๊ๆๆ

เอาตัวนี้มาแลกไว้บินไปเที่ยวน่ะ ไม่ต้องจ่ายค่าตั๋ว

เคยสังเกตความต่างของใบอยู่เหมือนกัน

แต่ไม่ทราบว่าแยกเพศ

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ครับ....

มาอีกรอบหนึ่งค่ะ..เพิ่งเก็บภาพเถาตำลึงที่ลานหลังบ้าน..มีทั้ง "ตัวผู้ "และ "ตัวเมีย" ..ได้ใช้ประโยชน์ตามที่แนะนำแล้ว..รอผลอยู่ค่ะ..

ตัวผู้หรือตัวเมืยทำ  แต่เอ  มีคนบอกว่าเวลาเก็บตำลึงก็มีส่วนสำคัญเหมือนกันในการทำให้ท้องเสียไม่ทราบจริงหรือเปล่า มีข้อมูลไหมคะอยากทราบค่ะ แล้วมือของตำลึงกินได้ไหมคะเพื่งประสพกับตนเองเมื่อคืนนี้เองตำลึงทำเรื่อง  ทุก  2  ชั้วโมงเลยาตั้ง  5 ครั้งแน่ะ   ไม่ทราบว่า

ท้องเสียจริงๆค่ะ  เคยเป็นหลายครั้งเวลาทานตำลึง  แม่บอกว่า  โดยเฉพาะหน้าฝนจะออกฤทธิ์แรง  ถึงกับไปทำงานไม่ได้เลยค่ะ

4 กุมภาพันธ์ 2555 ผัดยอดตำลึงกับไข่ (เฉพาะยอดตำลึงจริง เด็ดมาไม่เกิน 1 คืบ) รับประทานตั้งแต่มื้อเช้า ผ่านไปไม่เกิน 2 ชั่วโมง ปวดท้องแบบท้องเสียเลย จนถึง 15.00 น. ต้องพึ่งเกลือแร่เลยแหละ

กินเข้าไปแล้วครับ ตัวผู้ไม่เกิน 10 ชม มาแน่..

จริงครับ...ผมสังเกตตัวเอง..ท้องเสียทุกครั้งหลังกินตำลึง..จิ้มพริกกะปิ...ใส่ต้มจีด...ทำราดหน้า..เกิดความสงสัย..เลยมาเปิดหาความรู้ในเน็ต...เป๊ะเลย

-สวัสดีครับลุงใจ..และท่านผู้อ่านทุกท่าน..

-รู้สึกยินดีกับข้อมูลทีีเขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อนนะครับ

-แบบนี้ถือเป็นข้อมูลที่เก็บไว้สำหรับสืบค้นได้ดีทีเดียว

-ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและติดตามบันทึกของผมนะครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท