ความคิดเห็น"อำนาจของครู" มากกว่า "การเรียนรู้ของผู้เรียน"


เพราะเราต้องสร้างให้เขาเป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์ครบถ้วนก่อนในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กไทยจบประถมศึกษาต้องอ่านออกเขียนได้เป็นหลักก่อนและทำได้ไม่ยาก มันยากอยู่ที่ว่าคนที่มีอำนาจที่จะชี้ให้เด็กเป็นอย่างไร ไม่เห็นบาทบาทของตัวเองต่างหาก ผู้บริหารสถานศึกษาไงละครับ

         วันนี้ได้เข้าไปอ่านการนำเสนอสาระที่ชวนให้ช่วยกันคิด  ของคุณ small  man ในเรื่องที่เป็นมุมมองความเป็นพลโลกด้านการศึกษาและผมได้ตัดมาบางส่วนให้อ่านกันด้วยคือ

 

      "ในขณะที่การจัดการศึกษาของเรา  ผมว่ายังมีบางส่วนที่ยังไม่ให้ความสำคัญกับผู้เรียนเท่าใดนัก "

 

     1. ยังเน้น  "อำนาจของครู"  มากกว่า "การเรียนรู้ของผู้เรียน"

     2.  ยังเน้น "สมองกล" (คอมพิวเตอร์) มากกว่า "สมองคน"

 

  ตามความคิดของผม ผมมองไปอีกทางหนึ่ง   ผมมองว่าการจัดการศึกษามันกำลังอยู่ในมือของคนจัด  มีอำนาจเต็มที่จะนำพาเด็กนักเรียนไปในทิศทางที่เรากำหนดได้  เพราะหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นฐาน  พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดกรอบและทิศทางให้เราจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาเป็นของเราเอง ว่าเราจะให้เกิดผลกับนักเรียนอย่างไร

        ผมได้รับเกียรติให้ไปดูแลโรงเรียน ๆ หนึ่ง   แล้วให้ร่วมจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา  ผมเสนอให้ไม่มีคำว่า"เป็นพลโลก " เพราะเราต้องสร้างให้เขาเป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์ครบถ้วนก่อนในระดับหนึ่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กไทยจบประถมศึกษาต้องอ่านออกเขียนได้เป็นหลักก่อนและทำได้ไม่ยาก  มันยากอยู่ที่ว่าคนที่มีอำนาจที่จะชี้ให้เด็กเป็นอย่างไร   ไม่เห็นบาทบาทของตัวเองต่างหาก  ผู้บริหารสถานศึกษาไงละครับ      

         ส่วนที่คำว่าอำนาจของครู  ผมว่าไม่ควรจะพูดถึง  ผมไม่เห็นด้วยเลยจริง ๆ ครับ ผมว่าครูส่วนใหญ่ว้าเหว่  บางโรงเรียนถูกลอยแพ   ไม่เคยถูกเหลียวแล  คนที่มีอำนาจในสถานศึกษาไม่เคยถามว่าคุณสอนมีปัญหาอะไรบ้าง  นักเรียนมีปัญหาหรือไม่อย่างไรและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กในความรับผิดชอบของตนพบปัญหาอะไรบ้าง   ครูที่จะได้อะไรในการสร้างเด็กเขาต้องการอะไรสนับสนุนบ้าง

         แถมบางท่านมาเป็นผู้บริหาร ยังไม่รู้เลยว่าบทบาทหน้าที่ในอำนาจของตนเอง มีอะไรบ้างมีขอบข่ายแค่ไหน

       ผมไม่ได้ต่อต้านการเป็นผู้บริหาร เพราะผมก็เคยเป็นครูธรรมดา ๆ มา 12 ปี  หลังจากนั้นก็เป็นผู้บริหารอีก 27 ปีจนเกษียณ  ผมเห็นว่าครูสำคัญตลอดผู้บริหารต้องใกล้ชิด  ต้องให้กำลังใจ  ต้องช่วยแก้ปัญหา  ผมไม่ทิ้งโรงเรียนไปทำกิจกรรมสังคมหรือประจบนายให้ได้ตามกิเลศปราถนาเหมือนคนอื่น ๆคนที่เป็นผู้บริหารจึงเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจ   อำนาจจริงอยู่ที่ผู้บริหารครับ 

       ผู้บริหารไม่ได้เรื่อง  ครูก็ย่อมไม่ได้เรื่อง  ยกเว้นครูที่มีจิตวิญญานครูจริง  ลองผู้บริหารบอกครูว่าคุณต้องรับผิดชอบต่อนักเรียนที่คุณกำลังสอนเขาอยู่ให้เป็นพลเมืองไทยที่สมบูรณ์  ครูก็ต้องทำตามนั้น  นี่คือตัวอย่างครับ

       จะอย่างไรก็ตามก็ยังจะขอฝากให้ช่วยสร้างนักเรียนของเราให้เป็นพลเมืองไทยกันให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านออก อ่านคล่องเขียนคล่อง  ถ้าเด็กไทยมีคุณลักษณะที่กล่าวมานี้ครบถ้วน การพัฒนาประเทศก็จะก้าวไปหลายสิบก้าวทีเดียว

       ผู้บริหารสถานศึกษา สามารถชี้ให้เปลี่ยนแปลงที่เป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ทุกเรื่องในการสร้างพลเมืองไทย

       ยกเว้นผู้บริหารไม่ได้เรื่อง จะทำอะไรก็ย่อมไม่ได้เรื่องไปด้วย หากท่านใดไม่เข้าใจคำว่า"ไม่ได้เรื่อง" มีนิยามความหมายอย่างไร ก็จะมาว่ากันวันต่อไป

หมายเลขบันทึก: 390650เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2010 08:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะ

ส่วนใหญ่คุณครูมาอ่านค่ะ  ก็รู้สึกสบายใจที่คุณธนาอยู่เคียงข้างครู  แต่ไม่ทราบว่าจะมีผู้บริหารมาอ่านสักกี่คนคะ

ในชีวิตที่ผ่านมา  เพียงแต่สรุปไว้ในใจว่า "ต่อให้ครูจะเก่งสักปานใด หรือเก่งทั้งโรงเรียน แต่ผู้บริหารขาดความสามารถ ก็ไปไม่รอด" ค่ะ

ครูที่จิตวิญญาณหรือมีอุดมการณ์จริง ๆ ก็มีมากนะคะ  แต่กระแสความกดดันกับขีดจำกัดของระบบการบริหาร  สามารถทำลายครูได้ค่ะ

สังเกตการลาออกก่อนเกษียณปีนี้ มีครูอายุราชการครอบ ๒๕ ปีพอดี  ที่มีความสามารถ ชิงลาออกจำนวนมากค่ะ

จะผิดหรือจะถูก ดิฉันไม่ได้ต่อต้านใครนะคะ พูดตามความจริงที่เห็นและขอรับผิดชอบความคิดของตนเองค่ะ

สวัสดีครับคุณครูคิมครับ  ความคิดของคุณครูถูกต้องครับผมเห็นด้วยทุกถ้อยคำ  เพื่อเป็นการต่อยอด ผมอยากจะให้คุณครูนำความคิดเห็นของคุณครูนำลงในบันทึกของคุณครูเอง  เพื่อนครูจะได้อ่านบ้าง  

ส่วนเรื่องอยู่ฝ่ายข้างเพื่อนคุณครู   ผมเป็นกลางครับ ผมเขียนไปตามที่ผมเห็น ที่ผมรู้   มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ครับ    ส่วนเรื่องที่ให้ผู้บริหารมาอ่านนั้นยากยิ่งยวดทีเดียวครับ  เพราะสิ่งที่เรากำลังแบ่งปันกันอยู่นี่  ไม่ใช่กิเลศของผู้บริหารที่จะต้องการครับ

     เสียดายแทนเยาวชนไทยที่จะต้องสูญเสียโอกาสที่จะได้ครูดี ๆสอน ต้องออกก่อนเกษียณ  อันเกิดจากผู้บริหารส่วนหนึ่ง  แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีครูเลือดใหม่เกิดขึ้นแน่นอนครับ ถ้าเขาพบผู้สร้างที่มีจิตวิญญานที่แท้จริง

อยากเห็นการพัฒนาลงที่นักเรียน ปรับกระบวนการแล้วนักเรียนได้ความรู้ มากกว่าจะปรับที่ สพท หรือ ตำแหน่งทางวิชาการครับ

สวัสดีครับ  ผมคิดแบบผม  แบบออกนอกรอบนิดหนึ่ง  ให้สพทออกแบบสอบ ความรู้ทางด้านภาษาไทยแต่ละโรงเรียนแล้ววัดเหมือนกันทั่วประเทศ  พอออกนโยบายว่าจะสอบนักเรียนเพื่อวัดศักยภาพของโรงเรียน  ผู้บริหารสถานศึกษาก็เต้นผาง ๆ ในทันที  ก็จะใช้วิธีการทำอย่างไรให้เด็กพัฒนาได้ตามที่ต้องการจะวัด   ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นเด็กได้เต็ม ๆ ครับ  ผมอยากให้ลองทำครับ  ผมไปเป็นที่ปรึกษาโรงเรียนผมกำหนด อีกสามปีข้างหน้าเด็กจะต้องอ่านหนังสืออกทั้งโรงเรียน  ถ้าทำไม่ได้ก็เห็นที่จะเลิกจ้างผู้บริหารกันเลย   ขอบคุณที่แบ่งปันความเห็นครับ

สวัสดีค่ะอ.ธนา

อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วยิ้มได้กว้าง ๆ ดีใจที่อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอดีต"ผู้บริหารสถานศึกษา"

ความจริงสมัยก่อน เราเรียกว่า "ครูใหญ่" ฟังดูเป็นกันเองและเป็น "ครู" ด้วย

คำว่า "ครู" มีมิติที่ลึกซึ้งกว่า "ผู้บริหาร" แม้จะต้องทำหน้าที่กำกับดูแล ใ้ห้เป็นไปตามนโยบาย ฯ

รออ่านบันทึกของอาจารย์ต่อค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับ  คุณไม่มีราก  ผมศิษย์เรียกครูทุกคนครับ  ตอนอยู่ที่บ้านนอก เขาก็เรียกครูใหญ่กันทุกคนเช่นกัน  แต่พอถูกย้ายเข้าในเมือง เขาเรียก"ผู้อำนวยการ"    ก็เป็นไปตามที่เขากำหนดครับ  การจะถูกเรียกอย่างไรก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราปฏิบัติและกระทำครับ  ผมถือเอาการประเมินจากเด็กจากครูมาเป็นคำตอบในการทำงานของผมเสมอ  อย่าลืมช่วยแบ่งปันวิธีการประเมินแบบวิจัยที่คุณกำลังทำอยู่ด้วยนะครับ

เรียนคุณธนา

ผมมีความสุข และภาคภูมิใจกับการเป็นครู

มีสอนนักเรียนมีหลักอยู่อย่างเดียวคือ

"ปลายทางของการศึกษาคืออุปนิสัยที่ดีงาม"

คือ สุดท้าย นักเรียนของเรา ต้องเป็น คนดี มีคุณธรรม

ขอบคุณครับ

แนวทางการบริหารกับแนวทางการสอนของครู

คงต้องเคียงคู่กันไป นโยบาย แผนงานและการพัฒนา

แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ครูไม่ได้สอนเพียงอย่างเดียว

และเด็กทุกคน ก็ไม่ได้เกิดมาแล้วพร้อมที่จะเรียนรู้

ครูคนหนึ่งในโรงเรียนเล็กๆ ต้องทำหน้าที่ตั้งแต่ครู ภารโรง ถึงแม่ครัว

ใครๆก็อยากให้เด็กอ่านออก เขียนได้ และเป็นพลเมืองดี

ถ้าปั้นได้เหมือนดินน้ำมัน ปัญหาคงไม่เกิด

ขอบคุณที่ท่านยังห่วงใยการศึกษาไทยค่ะ

  • สวัสดีครับคุณธนา
  • ช่วยกันคิด  เมื่อคิดแล้วช่วยกันแก้
  • การศึกษาไทยคงไม่แย่   คงไม่แพ้ประเทศข้างเคียง
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ความคาดหวังจากตัวเด็กสูงขึ้นเรื่อย ๆ

พ่แม่หวังพึ่งพาเจ้า ครูเล่าหวังให้สร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ เจ้าคือความหวังทั้งปวง

เด็กต้องแบกรับความหวังของผู้ใหญ่ทุกคน

แต่มีใครบ้างที่ทำอย่างที่ตั้งความหวังกับเด็กไว้

แนวคิดดีนะคะ ครูคนใหม่

สัวสดีคะ ดิฉันเห็นด้วยคะครูก็ต้องทำตามนโยบายของโรงเรียนอยู่แล้ว ผู้บริหารต้องมีนโยบายที่ดี เป็นต้นแบบที่ดี ต้องลงมือปฏิบัติบ้าง ไม่ใช่ออกคำสั่งเป็นอย่างเดียว ต้องสร้างความศรัทธาให้กับลูกน้อง

ดังพระพุทธเจ้าตรัสว่า "อันธรรมดาฝูงโค ถ้าแม่โคเดินตรงโคทั้งฝูงก็เดินตรงไปหมด ถ้าโคแม่ฝูงเดินคด โคทั้งฝูงก็พลอยเดิน

คดไปด้วย"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท