180.เบาๆช่วงถือศีลอด เดือนรอมฏอน
ช่วงนี้ผมเบดูอินยุ่งๆมากเพราะนอกจากจะต้องอดอาหารทั้งกินและดื่มตั้งแต่ก่อนรุ่งอรุณจนกระทั้งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้ว ยังต้องรับผิดชอบรายการเสียงรมฎอนให้กับหมู่บ้านมุสลิมที่มีประชาการเกือบห้าพันคน ทุกๆเย็นจนถึงเวลาละศีลอด
ช่วงค่ำก็มีภาระกิจการนมัสการที่มีเฉพาะในเดือนรอมฎอนเท่านั้นคือ "ละหมาดตะรอเวียะ" ซึ่งเป็นละหมาดสุนนะฮ์(ละหมาดที่ท่านศาสดาส่งเสริมให้ทำ) มุสลิมถือว่าเดือนนี้ เป็นเดือนที่เป็นมงคลยิ่ง เป็นเดือนที่ประเสร็ฐ การทำความดีในเดือนนี้ จะได้รับภาคผลเป็นทวีคูณ ฉะนั้นมุสลิมส่วนมาก(นั้นหมายความว่ายังมีส่วนน้อยด้วย-ที่ไม่สนใจ) จะให้ความสำคัญ ให้เกียรติ มุ่งมั่นทำความดีจนสุดความสามารถ
การทำความดีที่ว่านี้ มีมากไปกว่าการทำนมัสการต่อพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการทำความดีต่อมนุษย์ด้วยกัน เราจึงเห็นว่าทุกๆช่วงเย็นก่อนละศีลอด แต่ละบ้านก็จะนำอาหารไปให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง แลกเปลี่ยนอาหารการกินซึ่งกันและกัน สังคมมุสลิมช่วงนี้เลยอิ่มหนำสำราญกันทั่วหน้า
กระผมเบดูอิน อดมา 8-9 วันแล้ว ทดลองชั่งน้ำหนักดูปรากฎว่าแทนที่น้ำหนักจะลด กลับหนักขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนพุง(ท้อง)ยังเป็นน้องๆคนท้อง 8 เดือนอยู่เล็กน้อย
พี่น้องเอ๋ย ช่วงเย็น เดินผ่านร้านไหน เป็นต้องซื้อ ผ่าน 10 ร้านก็ 10 อย่าง เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ....ได้เวลาละศีลอด ฮ่าฮ้า.....ปะทะน้ำไป 4-5 แก้ว นั่งอืดขยับไปไหนไม่ได้ หากใครปล่อยเสือมาช่วงนี้ผมยอมให้เสือกินแน่นอน ไม่วิ่งไปไหนแล้ว ฮา
สมัยเด็กที่เกือบจะวัยรุ่น(ยังเอาะๆนั้นแหละครับ) ผมกับเพื่อนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ขากลับเช้ารถจอดที่ขนส่ง หันซ้ายหันขวา จ๊ะเอ๋ร้านกาแฟ ผมกับเพื่อนเดินไปหาร้านกาแฟแบบไม่ได้นัดหมาย ท่านไม่ต้องถามนะครับว่าผมกับเพื่อนไปทำอะไร...อิอิ ท้องกางออกมาเลย เย็นๆถึงหมู่บ้าน เขาถือศีลอดกันทั้งนั้น ผมกับเพื่อนก็ต้องทำหน้าแห้งๆ ประมาณว่า ไอ้พวกนี้ถือศีลอดมานี่หว่า...
ถึงเวลาละศีลอด ก็ละกับเขาด้วย กินข้าวไปขำไป คนที่กินข้าวด้วยกันคงงงๆว่าไอ้พวกนี้มันขำอะไรกันนักหนา...อิอิ
จริงๆแล้วถ้าใครไปแอบกินอาหารเชื่อแน่ว่าไม่มีใครรู้ แต่มุสลิมเชื่อมั่นว่า แม้คนไม่เห็นแต่พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็น ถ้าเขาศรัทธาจริงๆ ย่อมไม่ทำผิดทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือที่เราเรียกว่า "คุณธรรม" นั้นเอง
การเดินทางจริงๆแล้วไม่ต้องถือศีลอด แต่ต้องถือชดใช้ในภายหลัง การถือศีลอดที่จำเป็นต้องถือ ไม่ถือไม่ได้ จะมีเฉพาะในเดือนรอมฎอนเท่านั้น นอกนั้นเป็นการถือศีลอดอาสา
ความเห็น (21)
- สวัสดีค่ะ คุณเบดูอิน
- แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
- ศาสนาอิสลามเน้นเรื่องการแบ่งปัน การบริจาคให้ผู้ยากไร้
เป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชม - การถือศีลอดทำให้จิตใจเข้มแข็ง
- ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องมุสลิมทุกคนค่ะ
สวัสดีค่ะ
พี่ดามีคำถาม แล้วคนที่กำลังมีลูกอยู่ในท้อง ต้องถือศีลอดหรือไม่? มีข้อยกเว้นหรือเปล่า น้ำหนักขึ้นพุงโตเหมือนท้อง 8 เดือน ถือศีล อด 1 เดือน ก็คลอดพอดี
ค่ะ" ไม่ทำผิดทั้งต่อหน้า และลับหลัง"
ขอบพระคุณมากครับ
- คนท้องไม่ต้องถือครับ ในบันทึกที่แล้วผมเขียนไว้ครับ
- อิสลามมิกชนจะต้องถือศิลอดทุกวัน บัญญัตินี้บังคับกับมุสลิมที่บรรลุศาสนภาวะแล้ว ไม่บังคับกับสตรีมีครรภ์ เด็ก คนชรา หรือคนเดินทาง
พี่ดานี่อารมณ์ขันจริงๆ
สวัสดีค่ะท่านเบดูอินมาเยี่ยมค่ะ นานๆได้มาทักทาย ท่านคงจะเพิ่มความอดทนเข้าไว้แล้วล่ะเพื่อให้พุงยุบลงบ้างน่ะ อิอิ นึกภาพนี่ขนาดว่ายังไม่เจอตัวจริงนะคะ ยังระลึกถึงเสมอค่ะ
สลามครับท่านเบ ส่วนว่าผมนน.ลดลงแล้วครับ
กะว่าเดือนนี้จะไม่ไปไหน ก็ต้องไปไหนจนได้ครับ
อิอิ ภาพที่นึกเป็นอย่างไรครับ อยากรู้จัง
- วอญ่าเหมือนผมเลยครับ
- วันนี้ผมก็เดินทางอีกแล้ว
- สลามท่านพี่น้อง
เบดูอิน -
ได้อ่านบทความของท่านแล้วกระผมรู้สึกสบายๆ เหมือนชื่อบันทึกยังไงอย่างงั้นเลยครับ
-
สำหรับคุณพี่ดา ครับ กานดา น้ำมันมะพร้าว
-
พี่ดามีคำถาม แล้วคนที่กำลังมีลูกอยู่ในท้อง ต้องถือศีลอดหรือไม่? มีข้อยกเว้นหรือเปล่า น้ำหนักขึ้นพุงโตเหมือนท้อง 8 เดือน ถือศีล อด 1 เดือน ก็คลอดพอดี
-
ต้องขออนุญาตทางเบดูอินด้วยนะครับ ผมขอเสริมครับ
อนุญาตให้สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรงดเว้นการศีลอดได้ แต่จำเป็นต้องถือชด ส่วนการบริจาคอาหารเพียงอย่างเดียวนั้นถือว่าใช้ไม่ได้
นักวิชาการมีทัศนะที่แตกต่างกัน เกี่ยวกับหุก่มของสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร ในกรณีที่นางทั้งสองงดเว้นการถือศีลอด ดังนี้:
ทัศนะแรก : จำเป็นต้องถือศีลอดชดเพียงอย่างเดียว นี่เป็นทัศนะของอิหม่ามอบูหะนีฟะฮฺ เราะหิมะฮุลลอฮฺ และเศาะหาบะฮฺที่มีทัศนะเช่นนี้ก็ได้แก่ท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ
ทัศนะที่สอง : ถ้าหากนางทั้งสองงดเว้นการถือศีลอด เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง ก็จำเป็นต้องถือศีลอดชดเพียงอย่างเดียว แต่ถ้างดเว้นการถือเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อเด็ก ก็จำเป็นต้องถือศีลอดชดพร้อมบริจาคอาหารให้แก่ผู้ยากไร้ หนึ่งคนต่อหนึ่งวันที่ขาดไป และนี่คือทัศนะของอิหม่ามชาฟิอีย์และอะหมัด และอัลญัศศอศได้ระบุว่าเป็นทัศนะของอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา
ทัศนะที่สาม : จำเป็นต้องบริจาคอาหารเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องถือศีลอดชด ทัศนะนี้มีรายงานจากเศาะหาบะฮฺบางท่านเช่น ท่านอับดุลลอฮฺ บิน อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา นอกจากนี้ท่านอิบนุกุดามะฮฺยังได้ระบุไว้ในหนังสืออัลมุฆนีย์ (3/37) ว่ามีรายงานมาจากท่านอิบนุอุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา เช่นกัน
-
กระผมขอซีเรียสหน่อยนะครับท่าน เพราะเรื่องศาสนาจำเป็นต้องซีเรียสครับ
-
ขอขอบคุณครับท่านเบดูอิน
-
สำหรับคุณพี่ดาครับ หากสงสัยเพิ่มเติมเชิญได้ที่นี่ครับ http://www.islamhouse.com/p/231363
-
วัสลามครับ
แวะมาทักทายในเดือนถือศีลอดด้วยคนค่ะ
อ่านจากที่เล่ามาแล้วรู้สึกไม่ค่อยซีเรียส เท่าไหร่เลยนะคะคุณเบดูอินกับเพื่อน ยังมีอารมณ์ขันเมื่อแอบทำผิด อิ อิ
มาส่งยิ้มก่อนเข้านอนค่ะ 
*** สวัสดีเดือนรอมฎอนเดือนแห่งความเป็นมงคลยิ่งค่ะ ***
- ดีมากเลยครับ ช่วยเสริมในเชิงวิชาการ
- ส่วนผมนำเสนอแบบง่ายๆครับ
ขอบคุณครับ ถ้าผมนำเสนอซีเรียส์ เดี่ยวท่านหายกันหมดผมเหงาแย่เลย
ขอบคุณลูกสาวคนสวยมากๆ
เข้ามาทักทายคนมีลูกสาวสวยค่ะ
ฮาฮ่าๆอิจฉาคนมีลูกสาวสวยละซิ
สวัสดีค่ะ
พี่ดาจะแวะมาถามว่าเลือดกรุ๊ปอะไร ทานอาหาร ให้ถูกต้องจะได้แข็งแรง เพราะเห็นบอกจังเลยว่าแก่แล้วๆๆๆๆ......
http://gotoknow.org/blog/kanda02/387078 ทานอาหาร ตามกรุ๊ปเลือด
ขอบคุณมากนะคะคุณ Spidy พี่ดาเข้าใจมากขึ้นทั้ง 3 ทัศนะแล้วค่ะ
ผมจะรีบตามไปดูเพื่อความหนุ่มครับ
สวัสดีค่ะป๊ะเบฯ
๕ ๕ ป๊ะเบฯ ช่วงอด น้ำหนักขึ้น อิ อิ ค่ะ ได้ความรู้ใหม่เลย เพิ่งทราบว่ามีศีลอดอาสา ด้วย
ขออภัยลูกสาวมากที่มาตอบช้า แต่ว่าตอบช้าดีกว่าไม่ตอบนะครับ