"พลูคาว”เป็นพืชสมุนไพรประจำถิ่นที่พบมากในแถบภาคเหนือของไทย เป็นพืชตระกูลเดียวกับพลู ชอบขึ้นในพื้นที่ชื้นแฉะ มีร่มเงาเล็กน้อยและสภาพอากาศเย็น มีลักษณะแตกต่างจากพลู คือ ที่ใต้ใบของพลูคาวจะ มีสีแดงอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม ชาวบ้านในเขต ภาคเหนือจะเรียกว่า “ผักคาวตอง” เนื่องจากต้นและใบจะมีกลิ่นคาวรุนแรงคล้ายคาวปลา ซึ่งส่วนใหญ่นิยมนำใบมาเป็นผักเคียงใช้บริโภคสดกับอาหารประเภทลาบหรือหลู้
จำนวนประชากรในภาคเหนือเป็น “โรคมะเร็ง” ค่อนข้างน้อย เนื่องจากบริโภคพลูคาวเป็นประจำ และหมอแผนโบราณเคยใช้พลูคาวมารักษาผู้ป่วยริดสีดวงทวาร ทำให้หายเจ็บปวดโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด
สรรพคุณ
- รักษาโรคมะเร็ง โดยเฉพาะเกี่ยวกับมะเร็งปอด มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งปากมดลูก
- เนื้องอกในสมอง
- ริดสีดวงทวาร โดยไม่ต้องผ่าตัด
- กามโรค
- โรคผิวหนัง
- ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
- เพิ่มการแบ่งตัวของเซลล์เม็ดเลือดขาว รักษาอาการอักเสบต่าง ๆ เช่น ฝีอักเสบ ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ตาอักเสบ ตับอักเสบ ไตอักเสบ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อรา หูชั้นกลางอักเสบ
นำพลูคาวมาต้มโดยให้ผุ้ป่วยดื่มบำรุงร่างกาย และใช้ร่วมกับการรักษาของคณะแพทย์โดยการฉายรังสี ปรากฏว่า สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยมะเร็งได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้มากขึ้น ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นและยืดอายุของผู้ป่วยได้นานขึ้นด้วย ซึ่งดีกว่าการรักษาด้วยการฉายรังสีเพียงอย่างเดียว
พลูคาวจึงนับได้ว่าเป็นพืชที่เป็นความหวังสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งเป็นอย่างมาก และนอกจากโรคมะเร็งแล้วก็ยังสามารถที่จะรักษาโรคอื่น ๆ ได้อีก
ถึงแม้จะทราบประโยชน์อันมหาศาลของมัน
แต่...ไม่สามารถทำใจกับกลิ่นของมันได้ ขอยอมแพ้
ทางเหนือคนที่ชอบกินเขากินกับลาบรสแซ่บๆ...ลำแต้ๆ
เป็นสาระความรู้ที่ดีและมีประโยชน์มากค่ะ
ดีมากได้รู้สรรพคุณของยา