แว่น...อันใหม่ Pin Hold


         ภาพของผู้ป่วยคนแล้วคนเล่าที่ไหลเลื่อนจากห้องบัตร  มาวัดความดัน  ชั่งน้ำหนัก  และเจาะเลือด  แล้วเข้าไปรวมกันที่ห้องเล็กๆ  สี่เหลี่ยม  เมื่อทุกคนมาถึงก็ตรงไปยังมุมห้องอีกด้านหนึ่ง  พร้อมหยิบถ้วยมาตักเข้าต้มในหม้อใบใหญ่  และรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย  หลังจากนั้นก็เริ่มจับกลุ่มคุยกันเสียงจ๊อกแจ๊ก จอแจเหมือนนกแตกรังและเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งว่าไม่เคยพบกันมาก่อน  แต่เป็นภาพที่มีแต่รอยยิ้ม
         ภายในห้องที่ค่อนข้างจะแออัดและคับแคบรับผู้คนได้ 50-60 คน  เริ่มแคบลงๆ ทันทีภายใต้บรรยากาศแบบนี้มีชายหนุ่มรูปหล่อหน้าตาดีเดินมาถามข้าพเจ้าว่า

         “พี่ครับ ...วันนี้มีคลินิกตามั๊ยครับ”   ข้าพเจ้าเงยหน้ามองเจ้าของเสียงขณะที่กำลังสาละวนกับการบันทึกประวัติของผู้ป่วยอยู่หน้าห้อง
          “มีจ้ะ” ข้าพเจ้าตอบ  พร้อมส่งยิ้มให้
         “ผมนึกว่าผมจำผิด” ชายหนุ่มพูดต่อ เสียงพูดคล้ายบ่นพึมพำแล้วก็เดินเงียบหายไปในห้องนั้นสักพักใหญ่เขาก็เดินออกมา
          “พี่ครับเห็นแผ่นวัดสายตาของผมมั้ยหาไม่เจอ” สงสัยที่หายไปคงไปหาแผ่น  E Chart แน่เลย
         “ลองเดินไปดูตรงบอร์ดนั้นซิครั้งที่แล้วได้เก็บมั๊ย  ” ข้าพเจ้าชี้บอกเขาไปที่บอร์ดด้านหน้า
         “สงสัยจะยังไม่ได้เก็บ“ เขาพูดกับตัวพรางเดินไปตามที่ฉันบอก
          “เอ่อ  มันอยู่ตรงนั้นจริงๆครับ..”  พร้อมเสียงหัวเราะหึๆ ของเขา
         “แผ่นมันเก่าไปหน่อยปีที่แล้วพี่จำได้ว่าพี่ทำเรื่องขออนุมัติทำกล่องแบบของสูงเนินไปแล้วติดตามตลอดและก็ได้รับคำตอบว่าเดี๋ยวตามให้จากผู้รับเรื่องจนผ่านมา1ปีและก็เขียนแผนใหม่แต่ยังไม่ได้ขออนุมัติเลยจ้ะ....เออวันนั้นเราเห็นของ รพ.ศุภมิตรทำ  แบบนั้นดีมั๊ย” ข้าพเจ้าบอกเขาพร้อมถามความคิดเห็น
         “ไม่ดีหลอกพี่มันบางปลิวไปปลิวมามันไม่นิ่งเดี๋ยวคนแก่จะเวียนหัวเป็นลมก่อนตรวจซะก่อน” เขาตอบพร้อมแสดงความคิดเห็นหลังจากนั้นเราก็ต่างคนต่างแยกย้ายปฏิบัติงานตามภารกิจ จนแล้วเสร็จจากห้องที่คับแคบและแออัดเหลือผู้ป่วยที่นั่งรอตรวจตาจากแพทย์ในตอนบ่ายบ้างก็นั่งหลับตาพิงผนังบ้างก็นั่งพูดคุยกันเรามีเวลาได้คุยกันอีก

Pin Hold แบบเดิมที่ได้รับสนับสนุนมา  ถ้ากดตาแน่นไปจะทำพร่ามัวชั่วขณะ

 

         “เดี๋ยวพี่ปรินส์ตัวอย่างจากสูงเนินมาให้ดู”  ข้าพเจ้าบอกเขา
          “ผมว่ามันแพงไปแล้วสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงานของเรามันไม่เหมาะที่จะวางด้วย  เดี๋ยวผมลองทำเองดีกว่า”  เขาบอกมา หลังจากเราให้บริการผู้ป่วยแล้วและสิ้นสุดภาระกิจก็มานั่งคุยกันต่อพร้อมกับการลงข้อมูลและทบทวนข้อมูลไปด้วย จึงตกลงกันว่าเราจะทำเองแล้วเราก็วางแผนว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรบ้างทำรูปแบบไหนดีแล้วเราก็ตกลงกันได้  .....   ผ่านไป  1สัปดาห์   เขาเดินมาหาข้าพเจ้า  พร้อมโชว์ของบางอย่างที่เตรียมมาด้วย
          “พี่ครับนี่ไงผลงานผม”   เขาพูดพร้อมชูแผ่นไวท์บอร์ดมีอักษรเป็นตัวเลขและอีกด้านเป็นตัว E ติดทั้ง 2 ด้าน
         “โอ้โห.....OKเลย  วันนี้ก็ได้ทดลองใช้เลยสิ”   ข้าพเจ้ากล่าวอย่างตื่นเต้นและอยากทดลองใช้
         “ ครับ”  เขารับคำพร้อมกับชูผลงานอีก 1 ชิ้นชูแว่นตาสีเขียวมีลูกตาโปนๆขึ้นมาอีก  ฉันมองด้วยความตะลึง
         “นี่ไง Pin Hold ประยุกต์”  เท่านั้นแหละเสียงหัวเราะของเราทั้ง 2 ก็ดังลั่นคลุกเคล้ากับเสียงอื้ออึงของป้าๆลุงๆที่นั่งรอตรวจอยู่ในห้อง
         “ไหนขอพี่ดูมั่ง”  ข้าพเจ้าเดินไปหยิบจับสิ่งประดิษฐ์ของเข้าอย่างอย่างดีใจและตื่นเต้น  ขณะที่ ดูไปก็ขำไปแต่กับแว่นตาที่มีรูตรงกลาง 1 ข้าง ที่เห็น

Pin Hold  ประยุกต์

 

         “ถ้าอย่างนั้น  วันนี้ก็ลองใช้เลยบ่ายๆก็ถามแพทย์ว่า  OK มั๊ย   สงสัยป้าๆจะขำจนอ่านตัวหนังสือไม่ได้แน่เลย”จากนั้นเราก็ทำหน้าที่จนสิ้นสุดภาระกิจช่วงเช้า
         ภาคบ่ายภายในห้องที่แสนจะอบอุ่นและอบอ้าวยังมีผู้คนที่นั่งรอตรวจตามีกลิ่นเหงื่อทั้งของผู้ป่วยและของตัวเองคละเคล้ากันไป
          “ร้อนหน่อยนะป้า..รอสักพักคงจะมีห้องเย็นๆให้นั่งนะ”   ซึ่งอากาศในขณะนั้นร้อนจริงๆ.
          “สวัสดีค่ะหมอ...สวัสดีครับหมอ” หลังทักทายกันพอหอมปากหอมคอแล้วทุกคนก็ต่างประจำจุดตัวเองเพราะระยะเวลารอคอยในภาคเช้าก็ใช้ไปมากแล้ว  ร่วม 4 ชม.เลยทีเดียวไม่ใช่เราทำช้านะแต่เราทำตามขั้นตอนของการเตรียมผู้ป่วยก่อนตรวจตา  ซึ่งวันนี้เรามีบุคลากรเพียง 1 ท่านที่มาปฏิบัติงานในคลินิกตา  และอีก 1 ท่านก็ได้ช่วยในคลินิกเบาหวาน  เมื่อเสร็จภาระกิจจากคลินิกเบาหวานแล้ว  เราก็มาช่วยกันแต่ก็ใช้เวลาใกล้เคียงกันรวมถึงเวลาพักเที่ยงทีพวกเราได้ช่วยกันให้บริการจนทันหมอมาตรวจพอดี  โดยไม่ได้พักเลย จนเวลาผ่านไป 1 ชม.

ราคา 5 บาทเองค่ะ  ประยุกต์จากของเล่นลูกๆ ที่ใช้งานได้จริงๆ ... ใส่ง่าย ถอดง่าย

 

          “ ใครทำเนี่ยพี่  ชั่งคิดชั่งทำเข้าท่าดี”  เสียง นพ.สุพล พรหมจารีย์ (หมอตาที่มาตรวจตาผู้ป่วยเบาหวาน)  ถาม  พร้อมจับหยิบแว่นตาขึ้นมาดู  ดูไปยิ้มไปกับแว่นตาที่เรียกว่า Pin Hold
         “อ๋อ..พี่เท่ห์ทำ”  ข้าพเจ้าตอบหมอ
         “ใช้ได้มั้ยครับหมอ”    เจ้าของผลงานถามหมอ
         “มันเจาะรูข้างเดียวถ้าเราจะให้อ่านอีกข้างทำยังไง”  คุณหมอยังสงสัยเมื่อจะนำมาใช้งาน
         “ก็ตองถอดใส่สลับข้างครับ...ผมรอหมอมาบริจาคให้ก็ไม่ได้ซักที  ต้องทะเลาะกับลูกตั้งนานกว่าจะได้แว่นตานี้มา”  เจ้าของผลงานตอบ
          “ขนาดนั้นเชียวเหรอ”คุณหมอถามพร้อมส่งยิ้มให้  แล้วพวกเราก็ทดลองสวมแว่นและก็ขำกันเองแล้วเมื่อเช้าป้าๆลุงๆคงจะขำเหมือนกันนะ
         จากเรื่องเล่านี้ข้าพเจ้าอยากให้รู้ว่าการทำงานเป็นทีมจะมีเพื่อนร่วมคิดร่วมพัฒนาและมีสิ่งแปลกใหม่ขึ้นมาได้มากกว่าการอยู่เพียงลำพังขอบคุณ  คุณเทวิน  แสงรัตน์ พยาบาลหนุ่มไฟแรง  ที่เข้ามาร่วมในกระบวนการดูแลผู้ป่วยและขอบคุณสำหรับนวตกรรม  แว่นตา  Pin Hold  ประยุกต์ซึ่งเป็นผลงานของเขา

 

รัตนาภรณ์  ดารามาศ
งานผู้ป่วยนอก

หมายเลขบันทึก: 382151เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2010 00:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีครับ  เป็นการแบ่งปันที่น่ายกย่องอย่างยิ่งครับ

สวัสดีครับ ชา รพ. แก่งคอย โดนใจครับกับผลงานแห่งการคิดค้น

17 สค. นี้ทางรพ.ปากพะยูน จะไดงาน IT ที่รพ.บ้านหมอ ทาง บริหารชวนอยู่ แต่ หนานเกียรติจองตัวไว้แล้วที่กระบี่ อิอิ เกลอคิมน้องเอกลงมาด้วย งานของหมอเพื่อนร่วมทางครับ

ต้องไปเยือนแน่ๆ คลีนิคแห่งนี้ที่แก่งคอย

คนไปตรวจรักษามีความสุข

คนทำงานสนุกประยุกต์เก่ง

คนไข้ไปได้ไม่ยำเกรง

หมอเร่งตรวจตรา ตาจึงดี

สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้  จากความสำนึกดี  คิดดี  อยากมอบสิ่งดีๆให้กับผู้มาใช้บริการทุกคน

ดังนั้นในงานต่างๆ  จึงมีการพัฒนาอยู่เรื่อยๆ

เพียงแค่เราคิดว่าเราอยากทำในสิ่งที่ดีที่สุดเป็นพื้นฐาน  ผลงานดีๆจะตามมาและงอกงาม

เดินทางบ่อย  ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ

แม้ไม่อาจบอกรักแม่ได้ดังใจรัก
แต่ดวงใจก็แน่นหนักด้วยรักแม่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท