วันนี้ 7 ก.ค. 49 สำนักงานเกษตรอำเภอพระพรหม ประชุมเจ้าหน้าที่ประจำเดือน มีเรื่องมากมายในการประชุม ที่ท่านประธาน(เกษตรอำเภอ) นำมาแจ้งชี้แจงให้ทราบ และต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2549 เมื่อเห็นปริมาณงานทั้งที่ผ่านมาแล้วและที่กำลังจะต้องดำเนินการไปข้างหน้า ยังงงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ทำเสร็จไปได้อย่างไร(แต่ก็เสร็จและเรียบร้อยดีนะครับ)
พิจารณาดูแล้วก็อยู่ที่ใจสู้ ความอดทน และความพยายามจึงเสร็จได้ เพื่อนนักส่งเสริมที่รับผิดชอบงานตำบลก็คงเจอปริมาณงาน ที่ต้องแข่งกับเวลาเหมือนกับผม
ผมคิดถึง "กรวย" ที่มีปากกว้างส่วนท้ายแหลมรูเล็กนิดเดียว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เทลงมาทางปากกรวยก็สามารถผ่านไปได้
ถึงผ่านได้ก็ใช้เวลาที่ต่างกันไป เช่น ถ้าเป็นน้ำก็ผ่านเร็วกว่า ถ้าเป็นของเหลวที่มีความเหนียวหนืดก็ลงผ่านช้าหน่อย
ผมเอามาเปรียบกับปริมาณงานที่นักส่งเสริม ฯ รับภาระอยู่ว่า
ตรงปากมีคนเทลงมาตลอดเวลา และหลายคนเทด้วย แต่ตอนจัดลำดับให้ผ่านทางท้ายกรวยนั้นจัดอยู่คนเดียว ของที่นำมาผ่านกรวยบางอย่างก็ต้องการผ่านโดยเร็วทั้ง ๆ ที่เพิ่งเทลงมา นักส่งเสริมผู้มีหน้าที่ก็ต้องพยายามให้ทันกับเวลา จึงต้องทั้งเคาะ ทั้งเขย่า ต้องออกแรงมากกว่าเดิม
ที่บันทึกมาถึงตอนนี้ ก็ไม่ได้หมายถึงการบ่นอะไรเพียงแต่ทันทึกความรู้สึกออกมาเพื่อปลอบใจตัวเองเท่านั้นครับ
จากการประชุมวันนี้ ได้ถือโอกาส ชักชวนเพื่อนร่วมงาน ขึ้นขบวนรถไฟ KM หลายคนยังอิดออดไม่อยากขึ้น เพราะไม่รู้จักขบวนรถนี้ดีนัก ได้รับรู้แบบเป็นสิ่งที่น่ากลัวจากผู้ที่ถ่ายทอดมาแบบทฤษฎีจริง ๆ เหมือนเอาเข้ามาเป็นภาระ ผมคิดวางแผนไว้ในใจว่าต้องการถ่ายทอดความเข้าใจที่ผมมีอยู่ (อาจไม่เข้าใจดีนักแต่ก็ระดับหนึ่ง) ในเรื่อง KM ให้เพื่อนรู้จักโดยที่เขาไม่รู้ตัวและไม่ใช้ คำว่า KM ให้เขามีอารมณ์ต้านเสียก่อน ให้เห็นว่ามันไม่น่ากลัว
โดยในช่วงของการรายงานผลการดำเนินการบูรณาการแผน ฯ โครงการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ฯ ท่านเกษตรอำเภอให้รายงานทุกคน ก็คือเล่าให้ฟังว่าทำกันมาอย่างไรบ้าง ทุกคนก็เล่ากันไปทั้งที่ราบรื่นบ้าง มีอุปสรรคบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อทุกคนเล่าจบแล้ว( 4 คน 4 ตำบล) ผมก็รีบถือโอกาสนี้แหละครับ ชักเข้าเรื่อง KM ทันที โดยบอกในที่ประชุมว่า เมื่อกี้เราทำ KM กันแล้วน่ะ ซึ่งทุกคนก็ทำหน้างง ผมรีบย้ำว่าใช่ แล้วบอกว่า เมื่อกี้นี้ ท่านเกษตรอำเภอ ทำหน้าที่เป็นคุณอำนวย พวกเรา 4 คน เป็นคุณกิจ น้องพนักงานธุรการเป็นคุณลิขิต ก็มีคนแย้งมาว่าแล้วคุณเอื้อละใคร ผมก็ถามกลับไปว่าเราขอใช้ห้องประชุมวันนี้จากใคร ทุกคนก็ตอบว่า ท่านนายอำเภอ ผมถามอีกว่าท่านอนุญาตเราหรือเปล่า ทุกคนก็ตอบว่าก็ท่านให้ ผมก็ถามกับไปอีกว่าถือว่า ท่านเอื้อเราหรือเปล่า
ผมพูดตามความคิดของผมต่อไปว่า เป้าหมายที่เราวางไว้
ที่ส่วนหัวปลาก็คือ "การจัดเวทีบูรณาการแผน ฯ ที่สมบูรณ์ "(KV)
ที่ส่วนกลางตัว (KS) หรือส่วนที่เราแชร์แลกเปลี่ยนคือที่เราเล่าให้ฟังกันเมื่อสักครู่
ที่ส่วนหางปลา (KA)เรายังไม่ได้สรุปให้ชัดเจน ในการถอดบทเรียน
ผมก็ไม่ถามเขากลับไปนะครับว่าเข้าใจอะไรบ้างตามที่ผมบอก เพราะความคิดผมอาจคิดผิดก็ได้ แต่ท่านเกษตรอำเภอบอกว่า ต่อไปทุกเช้าวันจันทร์เราต้องมาพบกันแล้วคุยกันแบบนี้ และผมก็ได้เห็นเพื่อนทุกคนยิ้มออกมา
ผมอยากให้เพื่อนร่วมงานทุกคน เข้าใจ KM ลึกซึ้งเพราะถ้าเข้าถึงจริง ๆ เราต่างคนต่างได้ใจซึ่งกันและกัน งานที่เยอะมาก ๆ คงจะไม่ยากที่จะทำร่วมกัน เพราะการแบ่งปันจะเกิดขึ้น
รถไฟขบวนนี้ถ้าไม่ได้หัวขบวนที่ดีก็ชักลากลำบาก ผมว่าคุณชาญวิทย์และพรรคพวกได้หัวหน้าที่ดีที่ทำหน้าที่คุณอำนวย อำนวยการเรียนรู้ในวงเรียนรู้ประชุมประจำเดือน การเรียนรู้เป็นไปได้ดี(ในระดับหนึ่ง) ผมจะนำมาเล่าให้พรรคพวกเพื่อนฝูงที่ทำงานที่เดียวกับผมฟังบ้าง หรือให้เข้ามาอ่านในบล็อกของคุณชาญวิทย์บ้างนะครับ ของดีอยู่ใกล้ๆตัวนี้เอง อำเภอเมืองนครศรีฯกับอำเภอพระพรหมเขตแดนติดกัน เราต้องเรียนรู้ข้ามหน่วยงานกันบ่อยๆ โอเคนะครับ